สวัสดี บุคคลทั่วไป

โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่

  • 0 ตอบ
  • 209 อ่าน
โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2019, 02:51:06 AM »
ย้อนกลับไปในปี 2001 สมาร์ทโฟนได้เริ่มมีการจำหน่ายในวงกว้างแต่ทว่าเนื่องจากว่าพัฒนาการของเทคโนโลยี อย่างเช่นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือเครือข่าย ยังไม่พร้อมต่อการใช้งานอย่างตั้งใจมากนัก เมื่อผนวกกับราคาที่สูงเป็นปกติของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ๆ ขณะนั้น ส่งผลลัพธ์ให้มีผู้บริโภคสมาร์ทโฟนไม่มากนักเมื่อเปรียบเทียบกับท้องตลาดสมาร์ทโฟนรวมทั้งหมด
 
 อย่างไรก็ดียุคสมัยก็แปรผันพร้อมด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ จวบจนถึงวันนี้ โทรศัพท์มือถือ กลายเป็นข้อสำคัญอีกอย่างหนึ่งในชีวิตของหลายๆ คน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และขอบข่ายต่าง ๆ อำนวยให้ผู้ใช้งานหลาย ๆ ล้านคนได้ติดต่อสื่อสารและมีกิจกรรมอื่น ๆ บนโทรศัพท์มือถือได้ราบรื่น
 
 ในปี 2017 ยอดสุทธิส่งออกโทรศัพท์มือถือทั่วโลกอยู่ที่ 408 ล้านเครื่องโดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2017 นั้นมือถือถูกขายไปรวบยอดประมาณ 383 ล้านเครื่อง เพิ่มปริมาณจากปี 2016 ราวๆ 5% โดย 3 ระดับของยี่ห้อที่มียอดจำหน่ายสูงสุดคือ 1. ซัมซุง ส่วนแบ่งการตลาด 21%,2. แอปเปิ้ล ส่วนแบ่งการตลาด 12%และ 3. หัวเว่ย ส่วนแบ่งตลาด 10% เราไปล้วงลึกสถานการณ์ของแต่ละแบรนด์กันเลย

 สิ้นปีที่ผ่านมา ซัมซุงเพิ่งจะเผยสถิติผลกำไรมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017ซึ่งผลกำไรสุทธิตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงเดือนธันวาคมกระโจนไปแตะ 357,000 ล้านบาทแต่ดูราวกับ ซัมซุงจะทุบสถิติลงอีกครั้งหลังจากผ่านไปแค่ 3 เดือน พอก้าวเข้าสู่เดือนมีนาคม 2018โดยทำรายได้โดยประมาณ 1.7 ล้านล้านบาทแล้ว

 
ซึ่งแม้เงินได้รวมทั้งสิ้นใน3 เดือนแรกของปี 2018 นั้นจะน้อยกว่า3 เดือนสุดท้ายของปีที่ผ่านมา แต่กระนั้นด้วยรายจ่ายหลายอย่าง นั้นต่ำกว่า ทำเอา ซัมซุงสามารถทำกำไรได้เป็นสถิติใหม่ของบริษัทอีกครั้งที่ 14,600 ล้านเหรียญ กลายเป็นเงินไทยที่ 450,000 ล้านบาท

แหล่งที่มาของกำไรที่เป็นสถิตินี้ ก็เป็นชิ้นงานของสมาร์ทโฟนซัมซุง Galaxy S9 / S9+ ที่ปีนี้เลื่อนเวลามาวางขายรวดเร็วขึ้น ผนวกกับผลสำเร็จของ Galaxy A (2018) ที่เป็นโทรศัพท์ซัมซุงราคาไม่แพงที่ขายในหลายๆ บ้านเมือง และหน้าจอ OLED แต่ที่เป็นตัวสร้างเงินรายได้สูงสุดจริงๆ นั้นเป็นชิป DRAM ที่สามารถสร้างผลประโยชน์ได้สูงถึง 70% ของตลาด

 ด้านแอปเปิ้ลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงิน 2018 ของบริษัท (ตุลาคม-ธันวาคม 2017) โดยรายรับรวมทำสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัทอีกครั้ง 88,293 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.83 ล้านบาท เพิ่มปริมาณ 13% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีผลกำไรสุทธิ 20,065 ล้านดอลลาร์ หรือ 643,485 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นสถิติใหม่บริษัทเหมือนกัน ส่วนรายได้จากต่างประเทศนอกอเมริกาคิดเป็น 65% ของเงินรายได้รวม

 ไตรมาสที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเริ่ม วางขาย iPhone X โดยคาดหมายกันว่าจะเป็นสินค้าหลักที่ได้กำไร ทั้งที่จะมีข่าวแต้มสีออกมาไม่ดีนัก ซึ่งในรายงานผลประกอบการนั้นแอปเปิ้ลแจ้งให้ทราบตัวเลขรวมของ iPhone ทั้งหมดว่าขายได้ 77.316 ล้านเครื่อง ลดน้อยลงจาก3 เดือนเดียวกันในปีก่อน 1% (78.290 ล้านเครื่อง)

 รายรับจาก iPhone ทุกรุ่นอยู่ที่ 61,576 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% (54,378 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.74 ล้านบาท)
                ที่น่าสนใจคือ iPhone X เป็นไอโฟนรุ่นที่ขายเป็นเทน้ำเทท่าที่สุดของแอปเปิ้ลในทุกอาทิตย์ นับจากเปิดตัวส่งมอบเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 และขายได้มากกว่าที่แอปเปิลหวัง
 
 ทางด้านหัวเว่ยสรุปผลประกอบการรวมปี 2017 ยังคงมีเงินรายได้ที่ดีแตะ 9,250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 296.64 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2016 ถึง 15.7% คิดเป็นกำไรสุทธิ 730,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 23.4 ล้านบาท เพิ่ม 28.1% ในปีที่ผ่านมา

 ซึ่งในปี 2017 หัวเว่ยได้มอบสมาร์ทโฟนทั้งหมด 153 ล้านเครื่อง (รวมแบรนด์ Honor ที่เป็นผู้ครอบครองเดียวกัน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 จากปี 2016

 ซึ่งครั้นเมื่อปี 2016 CEO ของ หัวเว่ยเคยป่าวประกาศเอาไว้ว่า เป้าหมายของบริษัทคือการก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทมือถือยิ่งใหญ่อันดับ 1 ของโลกให้ได้ภายใน 5 ปี แต่ทุกวันนี้ หัวเว่ยยังค่อนข้างมีปัญหาในการพยายามเจาะตลาดโซนอเมริกาเหนือ เนื่องจากฝั่งนั้นยังมีเจ้าตลาดอย่าง iPhone ควบคุมอยู่ ด้านตลาดในฝั่งทวีปยุโรปนั้น หัวเว่ยทำได้สวยเลยเทียว เพราะว่ามือถือระดับไฮเอนด์ในซีรีส์ Mate และ P ได้รับความนิยมชมชอบเป็นอย่างดี

 แม้ว่ายอดสรุป3 เดือนล่าสุดปี 2018 ของหัวเว่ยยังไม่ประกาศออกมา แต่ปี 2018หัวเว่ย ก็วางเป้าหมายไปที่การใช้งานเทคโนโลยีใหม่ในสเกลใหญ่ อาทิ Internet of Thing, Cloud Computing, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 5G
 
 ในหลายปีที่ผ่านมาโครงข่ายไร้สาย 3G มีการใช้งานทั่วโลก หลายรัฐมี 4G และปี2018 คาดเดาว่าเป็นปฐมฤกษ์แห่งยุค 5G ซึ่งจะมีการใช้งานในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 23 (พย็องชัง 2018) ที่เกาหลีใต้ เป็นการทดลองศักยภาพก่อนจะใช้อย่างเป็นทางการใน 2 ปีข้างหน้า
 
 การแสดงตัวของข่ายงานไร้สาย 5G ทำให้มีความคาดหมายกันว่า โทรศัพท์มือถือจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดในชีวิตประจำวันยิ่งขึ้นไปอีกโดยจำเป็นจะต้องเฝ้ารอจับตามองดูว่ายี่ห้อโทรศัพท์เคลื่อนที่กลุ่มนี้จะใช้โอกาสนี้เป็นประโยชน์ได้มากเพียงใดในการเพิ่มยอดจำหน่ายและแย่งชิงความเป็นที่ 1 ต่อไป

Tags : โทรศัพท์ซัมซุง,โทรศัพท์ซัมซุงราคา,โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่