สวัสดี บุคคลทั่วไป

ตำนานแวดวง Rock and Roll ต้อง "Jim Marshall"

  • 0 ตอบ
  • 252 อ่าน
ตำนานแวดวง Rock and Roll ต้อง "Jim Marshall"
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2019, 02:19:07 PM »
                หากคุณเป็นผู้ที่หลงใหลในเสียงดนตรี หรือว่าเสียงดนตรี มั่นใจว่าท่านจะต้องรู้จักมักคุ้นยี่ห้อเครื่องเสียงแบรนด์นี้เป็นอย่างดีแน่นอน เพราะเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างหนัก อาทิ ลำโพง หูฟัง เครื่องกระจายเสียง และอื่นๆ อีกนานัปการ ซึ่งเรื่องราวความเป็นมาของยี่ห้อนี้ จัดว่าเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์แวดวงเพลงRock 'n' Rollเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยี่ห้อที่กำลังเอ่ยถึงอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง โดยเรื่องราวของ Marshall นั้น จักมีเรื่องราวเช่นใดบ้าง และทำไมถึงได้มาเป็นยี่ห้อยิ่งใหญ่ปานนี้ อิฉันจะมาค้นหาคำตอบกัน
                Marshall นั้น ได้จัดตั้งโดย Jim Marshall ซึ่งจุดแรกเริ่มอยู่ที่การเป็นนักดนตรีผู้ชำนาญมาก่อน โดยเล่นในตำแหน่งมือกลอง ถัดจากนั้นก็ได้เปลี่ยนตนเองมาปฏิบัติงานกิจการร้านค้าขายเครื่องดนตรี พร้อมทั้งอุปกรณ์หลายอย่าง โดยเริ่มต้นจากการจัดจำหน่ายกลองชุดพร้อมทั้งกีตาร์ในลอนดอนบริเวณ Hanwell ซึ่งผู้ซื้อเป็นส่วนใหญ่จักเป็นนักดนตรีดนตรีRock 'n' Roll ที่มีชื่อเสียงในระยะเวลานั้น อาทิเช่น ริตชี แบล็กมอร์ หรือไม่ก็เป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่เป็นเหตุให้มีผู้ซื้อมากขึ้น
                แล้วก็เริ่มมีนักดนตรีชื่อดัง หลายท่านต้องการแอมป์ หรือว่าเครื่องกระจายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ และเสียงดังกว่าแต่ก่อน เนื่องด้วยปัญหาที่พบส่วนมากค่อนข้างเป็นเรื่องความดังของเครื่องกระจายเสียงที่ไม่พอดีในการบรรเลงแสดงสดนั่นเอง Marshall จึงได้ตกลงใจทดลองออกมาจำหน่าย และดันประสบผลอย่างมากมาย กลายเป็นการบอกเล่าปากต่อปาก จนวงดนตรีหลายๆ วง สนใจ Marshall จึงจัดหามาทำออกมาค้าขายอย่างเอาจริงเอาจัง พร้อมด้วยได้ตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นณปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นจุดกำเนิดของแบรนด์ Marshall อย่างแท้จริง
                แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่ทำให้นักดนตรีทั้งหลายชมชอบ รวมถึงยังพูดคือความเห็นเดียวกันว่าเป็นแอมป์กีตาร์ที่น้ำเสียงเยี่ยมตามที่เคยมีมา (ในสมัยนั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และถัดไปมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาผลิตแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมกับตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความเชื่อมั่นจากมือกีตาร์สายบลูส์ สายร็อก จากวงชื่อดัง ระดับตำนานเช่น The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมถึง AC/DC เป็นต้น
                และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในสมัย 60 ของ Marshall แบบสรุป ถึงกระนั้นเมื่อสมัยได้ล่วงพ้นก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอล ยี่ห้อ Marshall ที่เชี่ยวชาญในแวดวงเครื่องเสียงก็ได้ปรับปรุงและหยิบยกเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าร่วมมือในการผลิตสินค้าเพื่อให้ทันยุค ทันสมัย และถูกต้องตามความต้องการ หรือตอบโจทย์ผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดหูฟัง เพื่อให้ผู้ซื้อ หรือว่าสามัญชนธรรมดาให้ได้รับประสบการณ์การฟังเสียงเพลงในแบบของ Marshall รวมถึงสินค้าชนิดลำโพงที่สามารถเชื่อมบลูทูธได้ ซึ่งนั่นเป็นเหตุให้ Marshall เป็นที่นิยมอย่างเพียบด้วย ด้วยสไตล์เสียงที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งการออกแบบที่ดูเป็นย้อนยุค คลาสสิก ดูดี โดยรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่าศึกษา และจะแนะนำนั่นก็คือ หูฟังปราศจากสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth พร้อมกับลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore ซึ่งจะมีรายละเอียดดังนี้
 
หูฟังไร้สาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
                คือหูฟังไม่มีสายที่มีความคลาสสิกอยู่ในตัว ดีไซน์สวยงาม ดูดีมีสไตล์ ขนาดกระชับสามารถพับได้ ทำให้พกพาไปไหนต่อไหนได้สบาย มีการเชื่อมต่อฉับพลันด้วย Bluetooth 4.0 แต่ทว่าสามารถใช้ร่วมกับเครื่องมือต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเช่นเดียวกัน  สามารถใช้งานได้เป็นเวลายาวนานถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบต Li-ion Polymer (680mAh) อีกทั้งกินเวลาชาร์จต่ำกว่า 4 ชั่วโมง ซึ่งผ่าน Micro USB ส่วนของน้ำเสียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall ด้วยเบสแน่นๆ เสียงร้องกระจ่าง มีเสียงแหลมที่ไม่บาดหู และเวทีเสียงที่สามารถแยกย่อยรายละเอียดปลีกย่อยของชิ้นเครื่องดนตรีต่างๆ ได้อย่างดีมาก สมกับการเป็นสุดยอดตำนานแบรนด์เครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกจริงๆ โดยหูฟังไร้สาย Marshall รุ่นนี้ สนนราคาจักอยู่ที่ไม่เลย 5,990 บาท
 
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
                เป็นลำโพงบลูทูธที่มีขนาดค่อนข้างจะใหญ่ที่ได้ออกค้าขายเป็นเวลายาวนานแล้วเช่นกัน แต่ถ้าว่าเรื่องของคุณภาพนั้นมิได้ต่ำไปกว่าแต่ก่อนเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้สุรเสียงที่ชัดครบถ้วนบริบูรณ์ ด้วยระบบชิป aptX ดีไซน์ด้วยไดร์ฟเวอร์ด้านในทั้งสิ้น 3 ตัว อีกทั้งยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือแจ็คขนาด 3.5 มม. และ INPUT2 หรือว่า RCA ยิ่งไปกว่านี้ยังมีความสามารถในการปรับน้ำเสียงทุ้มแหลมได้พร้อมด้วย ให้เสียงเหมือนกับท่านกำลังฟังดนตรีจากการแสดงดนตรีสดเลยก็ว่าได้ ซึ่งลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จักมีความถูกที่ไม่เกิน 15,900 บาท หากเทียบกับน้ำเสียงที่ได้รับ จัดว่าคุ้มค่ามากๆ
                นั่นคือทั้งหมดที่ทางอิฉันได้นำฝากกันในวันนี้ โดยจะเห็นได้ว่าตั้งแต่สมัยก่อนจวบจนกระทั่งตอนนี้นั้น ชาวเรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์แบรนด์ Marshall เชื้อชาติอังกฤษนี้แทบจะทุกเวทีเลย รวมทั้งหูฟัง และลำโพงที่นานัปการมากหลายรุ่นที่ไม่ว่ายุคสมัยจักล่วงเลยยาวนานเพียงใด แต่ Marshall ก็ยังคงความคลาสสิกตามแนวแบบ Marshall มิเคยเปลี่ยน

Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall