ถ้าหากจะพูดถึงเครื่องเสียงซักแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมาอย่างค้ำฟ้า และเป็นที่นิยมอย่างมาก พร้อมกับคุณภาพสุรเสียงที่ท่วมท้นล้มหลามทุกอณู ก็อาจมีแบรนด์ Bose เข้ามาปรากฏในลิสต์พร้อมด้วย โดย Bose ได้ตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1964 ภายใต้ชื่อที่ว่า Bose Corporation ที่ก่อตั้งขึ้นโดย Dr. Amar G. Bose ศ.ด้านวิศวกรรมไฟฟ้า (electrical engineering) ณมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงติดอันดับหนึ่งของโลก นั่นก็คือ "Massachusetts Institute of Technology" หรือว่าที่หมู่เรารู้จักกันอย่างดีในชื่อสั้นๆ ที่เรียกว่า MIT นั่นเอง โดยอิฉันจะพาคุณไปรับทราบถึงจุดเริ่ม และกว่าจะมาเป็น Bose Corporation กัน
Dr. Amar G. Bose เป็นคนที่โปรดปรานเพลง และด้วยความฉงนสนเท่ห์ในตอนเด็กว่าส่วนประกอบที่ให้เสียงในวิทยุ จึงได้เลาะออกมาพินิจและก็ทำกลับเข้าไปใหม่ พร้อมด้วยขณะนั้นเป็นช่วงเวลาสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นเหตุให้กิจการนำเข้าใยมะพร้าวของตระกูลได้ผลกระทบ Amar G. Bose จึงได้ออกความเห็นกับพ่อของเขาว่าจะเปิดบริษัทซ่อมบำรุงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้เวลาหลังเลิกเรียนในการนำวิทยุ หรือว่าทีวีที่พังของลูกค้ามาซ่อมแซม และเขายังบอกอีกว่า "หากผลการเรียนที่โรงเรียนผมดี ผมจะแกล้งทำป่วย 1 วันต่อสัปดาห์เพื่อจะมาช่วยซ่อมวิทยุนะครับ" นั่นจึงเป็นเหตุให้คุณพ่อของเขาเห็นคุณสมบัติพิเศษในตัวของลูกชาย
ซึ่งพ่อเองก็ตั้งความมุ่งหมายเอาไว้ว่า "เราจักส่งลูกของเราไปศึกษาณสถาบันที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" นั่นจึงเป็นที่มาที่ทำให้ Amar G. Bose ได้เข้าเรียนใน Massachusetts Institute of Technology (MIT) ที่ตอนนั้นคุณพ่อของ Amar G. Bose กู้ยืมเงินจำนวน 330,000 บาท เพื่อบุตรชายของเขาได้ศึกษาในสถาบันที่ดีที่สุดนั่นเอง และต่อจากนั้น 9 ปีถัดมา Bose ได้จบการศึกษาปริญญาเอก สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า โดยในตอนนั้นมีอายุเพียงแค่ 27 ปีเท่านั้น และได้เริ่มต้นทำงานเป็นผศ. และเริ่มหาสิ่งที่ตัวเองโปรดปรานตั้งแต่เด็กก็คือเครื่องเล่นเสียงสเตอริโอนั่นเอง ซึ่งเขาคิดว่าสินค้ามีราคาคือของดี และแล้วเขาก็คิดผิด เพราะสิ่งที่เขาได้รับคือเครื่องเล่นเสียงสเตอริโอมูลค่าแพงที่มีน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำมาก พร้อมทั้งสุรเสียงผิดเพี้ยนไปจากท่วงทำนองต้นแบบพอสมควร เรื่องนี้จึงเป็นเหตุให้เขาตระหนักว่าน่าจะมี Bose Corporation ที่ผลิตเครื่องเสียงที่ดี และมีคุณภาพได้แล้ว
และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Bose ก็ฮิตฉับพลัน โด่งดัง และได้เปลี่ยนแปลงมาเป็นสินค้าที่ถูกเอาออกไปจำหน่ายทั่วโลก รวมถึงบ้านเราด้วยเหมือนกัน ซึ่งได้รับความไว้ใจจาก Bose(R) Corporation สหรัฐอเมริกา โดยมีบริษัท อัศวโสภณ จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า Bose(R) เครื่องเสียงดีเลิศของโลกแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ครั้นปี พ.ศ. 2512 จนล่าสุด ถือได้ว่าเป็น Bose Thailand เลยก็ว่าได้
ที่ในเวลานั้นได้บริหารงานโดยคุณทวี อัศวโสภณ และด้วยความเชื่อใจของกันและกันที่มีให้กัน จึงเป็นเหตุให้ Bose Thailand สามารถหยัดยืน พร้อมกับยึดครองตลาดเครื่องเสียงและลำโพงมากระทั่งขณะนี้ ถัดจากนั้นต่อมาบริษัทอัศวโสภณจะดูเงียบๆ ไปในเชิงธุรกิจการค้า ในสมัยของคุณไพศาล อัศวโสภณ ผู้บริหารอัศวโสภณ รุ่นที่ 2 ซึ่งเป็นบุตรของคุณทวี อัศวโสภณ นั่นเอง ซึ่งคุณไพศาล อัศวโสภณเป็นผู้ที่เน้นเรื่องการทำงานด้านเทคนิคมากกว่าการตลาดนั่นเอง เขาจึงไม่ค่อยสนใจในเรื่องของการลดราคา แลก แจกจ่าย แถมสักเท่าไหร่นัก ซึ่งเขาจะมุ่งเน้นเรื่องคุณภาพมากกว่านั่นเอง
แต่แล้วก็มาถึงคราวที่สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทุกกิจการได้รับผลกระทบหมด มูลค่าตลาดก็น้อยลงอย่างต่อเนื่อง มีผลกระทบให้รายได้ของบริษัท ขณะนั้นลดลงไปมากพอสมควร แต่คุณไพศาลก็ยังแน่ใจว่าลูกค้าเก่าจะยังอยู่กับ BOSE ต่อไป แต่ว่าในความจริงแล้วนั้น การทำธุรกิจในเวลานั้นเริ่มยากลำบากเยอะขึ้น เหตุด้วยอย่างที่แจ้งไปในช่วงต้นว่าคุณไพศาลพอใจงานทางเทคนิคมากกว่าการบริหารทางด้านการตลาด ทำเอาใครหลายๆ คน เป็นห่วงสถานการณ์ของอัศวโสภณอย่างยิ่งในตอนนั้น
ถึงกระนั้นก็ผ่านพ้นมาได้จวบจนกระทั่งทุกวันนี้ ที่คว้าคุณยิ่งฉัตร อัศวโสภณ บุตรชายคนโตของคุณไพศาล อัศวโสภณ นั่นเอง ที่มาช่วยงานในส่วนการตลาด เนื่องจากคุณยิ่งฉัตร อัศวโสภณ ได้จบปริญญาโททางด้านการบริหารจาก Central Michigan University จัดว่าเป็นจุดต่อที่พอดีอย่างมากที่ อัศวโสภณ หรือ Bose Thailand มีทั้งการตลาดที่ดีเลิศจากคุณยิ่งฉัตร อัศวโสภณ อีกทั้งงานด้านเทคนิคที่สุดยอดจากคุณไพศาล อัศวโสภณ กระทั่งทำให้อัศวโสภณยังดำรงกับ Bose เรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : bose thailand

Tags : ลำโพงไร้สาย Bose รุ่น SOUNDLINK MINI BLUETOOTH SPEAKER II, bose thailand,bose ราคา