สวัสดี บุคคลทั่วไป

อากาศภายในบ้านสะอาดไม่ยาก โดยใช้ที่กรองอากาศ

  • 0 ตอบ
  • 218 อ่าน
            ตอนนี้อากาศที่เราหายใจไปเกือบเหมือนเป็นสภาพอากาศที่มีแค่ฝุ่นกับสิ่งสกปรกที่ปนเข้ามาในนั้นอาจกระตุ้นให้ไม่สบายไม่ยาก และหายใจไม่ง่ายได้ เพราะฉะนั้นแล้วการที่อาศัยอยู่ในมลพิษสารพิษเราก็เลยหลบไม่ได้ที่จำต้องสูดสภาพอากาศนำสิ่งเหล่านั้นเข้าไปภายในตัว
            แต่ว่าครั้งคุณกลับที่อยู่อาศัยเราคงจะถือเอาว่าอากาศภายในบ้านสะอาดมากกว่าข้างนอกจริงอยู่แต่และยังมีละอองมาจากสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่บางทีคุณอาจจะมองว่าก็ทำความสะอาดอยู่บ่อย หรือว่าที่เกาะมาพร้อมกับเครื่องแต่งตัวคุณที่ออกไปด้านนอกมาทั้งวัน สิ่งต่างๆ เหล่านี้กระตุ้นให้เราแทบจะต้องอยู่กับมลภาวะทุกเวลา ดังนั้นแล้วคุณเลยต้องมีผู้ช่วยที่เรียกว่า ที่กรองอากาศ เอาไว้ภายในบ้านสำหรับทำให้ที่พักสะอาดสะอ้านรวมถึงคุณได้อากาศสะอาดมั่งกับแต่ละวัน
            โดยที่ที่กรองอากาศที่ใช้ในบ้านมี 4 ประเภทด้วยกันคือ 1. เครื่องกรองอากาศลักษณะใช้แผ่นกรองคาร์บอน (Carbon Air Purifiers) โดยโดยทั่วไปแล้วล่ะก็คาร์บอนประกอบด้วยคุณลักษณะเพื่อดูดจับสารพิษพร้อมกับกลิ่นอยู่แล้วจึงเกิดการเอามาจัดทำเป็นไส้กรองอากาศที่ประกอบด้วยคาร์บอนให้ทำงานภายในกระบวนการสกัดสภาพอากาศ 2. เครื่องกรองสภาพอากาศแบบใช้ประจุไฟฟ้า (Ionic Air Purifiers) โดยที่เครื่องฟอกสภาพอากาศประเภทนี้มีการกรองประจุไฟฟ้ามาใช้สำหรับดักจับอนุภาคฝุ่นหลายอย่าง ก็เพราะว่าประจุไฟฟ้าช่วยให้ล่อละอองดีถึงแม้มีฝุ่นเล็กก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละอองทั่วๆ ไป ขนสัตว์ แม้แต่ควันบุหรี่ เป็นเหตุให้เครื่องกรองอากาศแบบนี้เหมาะสมกับคนที่มีเรื่องมีราวเกี่ยวกับทางเดินหายใจ หรือว่ามีอาการภูมิแพ้ 3. เครื่องกรองสภาพอากาศลักษณะความสามารถสำหรับกรองสูง (High Efficiency Particle Arresting) หรือที่เรียกกันว่า HEPA คือเครื่องกรองอากาศมีคุณภาพสำหรับสกัดสภาพอากาศสูงมากเพราะว่าตัวไส้กรองประดิษฐ์มาจากใยแก้วละเอียด สามารถสกัดอากาศให้บริสุทธิ์มากถึง 99% อย่างไรก็ตามจุดบกพร่องก็คือไม่สามารถดูดควันหรือดูดซับกลิ่นได้ คือที่กรองอากาศที่โดยมากใช้ในสถานพยาบาลหรือโรงงานบางชนิด โดยที่ที่กรองอายุการทำงานนานถึง 4 ปี  4. เครื่องกรองสภาพอากาศประเภทผสมผสาน คือเครื่องกรองสภาพอากาศที่ลักษณะรวม 2 หน่วยด้วยกันอาจจะเป็นการรวมใน Carbon กับ Ionic หรือไม่ก็ HEPA กับ Ionic ก็ได้แล้วแต่ว่าผู้ผลิตตั้งใจให้ที่ฟอกอากาศทำงานออกด้วยประเภทใด
            เทียบจากรูปแบบที่กรองอากาศทั้งหมดที่มีที่เอ่ยถึงเป็นไปได้ว่าที่มีทุกคนข้องใจว่าแล้วจะประกอบด้วยแนวทางการเลือกที่ฟอกอากาศเช่นใดให้เหมาะกับตนเองที่สุด เริ่มที่จำเป็นจะต้องรู้จักสภาพอากาศในบ้านตนเองก่อนว่าลักษณะอากาศรอบๆ บ้านเป็นยังไง ที่มีผงจำนวนมากหรือไม่ หรือว่ามีกลิ่นไม่ดีหรือไม่แล้วจึงค่อยเลือกสรรที่ฟอกสภาพอากาศต่อมาที่การคัดตัวเครื่องฟอกสภาพอากาศโดยที่เครื่องที่ีมีประสิทธิภาพควรมี  2 ระบบข้างในเพียงอันเดียวคือ  สกัดขี้ผง ดักจับฝุ่น พร้อมทั้งดูดซับกลิ่นในเพียงอันเดียว รวมถึงมีแรงที่จะสามารถสูบอากาศโดยรอบ เพื่อให้ไปฟอกรวมทั้งปล่อยสภาพอากาศบริสุทธิ์ออกมา ตรวจสอบดูให้ดีว่าระบบสกัดอากาศพร้อมด้วยแผ่นกรองคือประเภทที่คุณต้องการหรือเปล่าพร้อมกับสามารถเอาไปทำความสะอาดได้ไม่ยากหรือเปล่ารวมไปถึงพวกราคาที่กรองเป็นอย่างไรเพื่อที่ตอนที่ที่กรองหมดเวลาจะสามารถซื้อได้ง่าย หลังสุดก็เป็นการพิจารณาตัวเลขที่เรียกว่า  CADR (Clean  Air  Delivery  Rate)  ค่านี้คือค่าในส่วนวัดคุณภาพสำหรับใช้งานสำหรับที่ฟอกอากาศโดยที่ตัวเลขนี้ก็จะเพิ่มขึ้นหากมีผู้ใช้งานในห้อง
            ในเรื่องเกี่ยวกับการทำงานไปจนถึงการบำรุงรักษาคือ การใช้งานของที่กรองอากาศควรปิดห้องเพื่อที่จะเครื่องทำงานเอาไว้ก่อนที่เข้าไปภายในห้องเพื่อให้อากาศสะอาดสะอ้านก่อนหน้า ด้านการดูแลเก็บกวาดก็คือพึงจะเก็บกวาดที่กรองอย่างน้อยเกือบทุก  3 เดือน  โดยการเอามาชะล้างแล้วก็แล้วก็ผึ่งให้หายชื้น  สำหรับที่จะทำลายเชื้อโรค  หรือใช้ทำความสะอาดตามที่เอกสารแนะนำบอกไว้ แต่ส่วนผู้ที่ไม่ต้องการชะล้างประจำ ก็ควรจะเลือกใช้ชนิดประจุไฟฟ้า เพราะถึงแม้จะมูลค่าแพงกว่าลักษณะนอกจากนี้แต่ก็ไม่จำเป็นต้องชะล้างประจำบวกกับรักษาง่าย
จะเห็นว่าเครื่องกรองสภาพอากาศประกอบด้วยหลายประเภทกับแนวทางเพื่อตัดสินใจซื้อให้เหมาะสมกับการใช้งานก็ไม่ยากอย่างที่คิดนอกจากนั้นแล้วการบำรุงรักษาความสะอาดสะอ้านก็ยังสะดวกมากอีกด้วย โดยเครื่องฟอกสภาพอากาศมีให้เลือกสรรกันหลายแบรนด์ด้วยกันอย่างเช่น Sharp , Philip , Dyson ,Blueair ฯลฯ เริ่มตั้งแต่ราคา 2-3พันบาทจนถึง 4-5 หมื่นเลย
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เครื่องฟอกอากาศ ราคา

Tags : เครื่องฟอกอากาศ,เครื่องฟอกอากาศ ราคา,เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี