สวัสดี บุคคลทั่วไป

ตำนานวงการ ร็อกแอนด์โรล ต้อง "Jim Marshall"

  • 0 ตอบ
  • 282 อ่าน
ตำนานวงการ ร็อกแอนด์โรล ต้อง "Jim Marshall"
« เมื่อ: มีนาคม 07, 2019, 08:19:59 AM »
                ถ้าหากท่านคือคนที่ตกหลุมรักในเสียงดนตรี หรือว่าเสียงเพลง เชื่อว่าคุณจักต้องรู้จักมักคุ้นแบรนด์เครื่องเสียงยี่ห้อนี้เป็นอย่างดีแน่นอน เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมชมชอบอย่างยิ่ง อาทิ ลำโพง หูฟัง เครื่องขยายเสียง และต่างๆ อีกนานัปการ โดยเรื่องราวเรื่องราวของแบรนด์นี้ จัดว่าเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์วงการดนตรีRock and Rollเลยก็ว่าได้ อีกทั้งแบรนด์ที่กำลังเอ่ยถึงอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง ซึ่งประวัติของ Marshall นั้น จักมีความเป็นมาอย่างใดบ้าง พร้อมกับเพราะเหตุใดถึงได้มาเป็นแบรนด์ยิ่งใหญ่ปานนี้ พวกเราจะมาหาคำตอบกัน
                Marshall นั้น ได้จัดตั้งโดย Jim Marshall ซึ่งจุดเริ่มต้นอยู่ที่การเป็นนักดนตรีมืออาชีพมาก่อน ซึ่งเล่นในตำแหน่งมือกลอง ภายหลังก็ได้เปลี่ยนตนเองมาทำธุรกิจร้านขายของขายเครื่องดนตรี พร้อมทั้งเครื่องไม้เครื่องมือหลายอย่าง โดยเริ่มต้นจากการขายกลองชุดพร้อมทั้งกีตาร์ในลอนดอนแถว Hanwell โดยผู้ใช้ส่วนมากจักเป็นนักดนตรีดนตรีร็อกแอนด์โรล ที่มีความเด่นในเวลานั้น อาทิเช่น ริตชี แบล็กมอร์ หรือว่าเป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่เป็นเหตุให้มีผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น
                ถัดจากนั้นก็เริ่มมีนักดนตรีมีชื่อเสียง หลายท่านอยากได้แอมป์ หรือเครื่องขยายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ พร้อมทั้งเสียงดังกว่าเดิม เหตุเพราะปัญหาที่ประสบส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องความเสียงดังของเครื่องกระจายเสียงที่ไม่พอในการบรรเลงโชว์สดนั่นเอง Marshall จึงได้ตัดสินใจลองทำออกมาจำหน่าย และดันได้ผลอย่างสูง กลายเป็นการบอกเล่าปากต่อปาก จนคณะดนตรีหลายๆ วง ให้ความสนใจ Marshall จึงได้จัดการออกมาค้าขายอย่างเอาเป็นเอาตาย พร้อมด้วยได้ก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นณปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นจุดเริ่มของยี่ห้อ Marshall อย่างแท้จริง
                แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่เป็นเหตุให้นักดนตรีทั้งหลายพอใจ ยิ่งกว่านั้นยังพูดเป็นความเห็นเดียวกันว่าเป็นแอมป์กีตาร์ที่เสียงเยี่ยมตามที่เคยมีมา (ในระยะเวลานั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และถัดจากนั้นมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาสร้างแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลากหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความน่าเชื่อถือจากมือกีตาร์สายบลูส์ สายร็อก จากวงชื่อดัง ระดับตำนานอย่างเช่น The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมทั้ง AC/DC ฯลฯ
                และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในช่วงเวลา 60 ของ Marshall ฉบับสรุป แม้กระนั้นครั้นสมัยได้ผ่านพ้นเข้าสู่ยุคดิจิตอล ยี่ห้อ Marshall ที่คร่ำหวอดในสังคมเครื่องเสียงก็ได้พัฒนาและหยิบยกเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าร่วมมือในการสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อให้ทันยุค ทันสมัย พร้อมทั้งตรงตามความหวัง หรือตอบโจทย์ผู้ซื้อเพิ่มมากขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone โดยเป็นสินค้าจำพวกหูฟัง เพื่อให้ผู้ซื้อ หรือว่าคนธรรมดาให้ได้รับประสบการณ์การรับฟังเพลงในแบบของ Marshall รวมไปถึงสินค้าประเภทลำโพงที่สามารถเชื่อมต่อบลูทูธได้ ซึ่งนั่นเป็นเหตุให้ Marshall เป็นที่นิยมอย่างมากมายเช่นกัน ด้วยแบบเสียงที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งดีไซน์ที่ดูเป็นย้อนยุค คลาสสิค ดูดี ซึ่งรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่าศึกษา อีกทั้งจักแนะนำนั่นก็คือ หูฟังปราศจากสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth และลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore โดยจะมีรายละเอียดดังนี้
 
หูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
                คือหูฟังไร้สายที่มีความคลาสสิคอยู่ข้างในตัว ดีไซน์สวยงาม เรียบร้อยมีสไตล์ ขนาดกะทัดรัดสามารถพับได้ ทำให้พกพาไปไหนต่อไหนได้ง่ายดาย มีการเชื่อมต่ออย่างเร็วด้วย Bluetooth 4.0 ถึงกระนั้นสามารถใช้ร่วมกับเครื่องมือต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเหมือนกัน  สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบตเตอรี่ Li-ion Polymer (680mAh) และกินเวลาชาร์จต่ำกว่า 4 ชั่วโมง โดยผ่าน Micro USB ส่วนของน้ำเสียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall เพราะว่าเบสแน่นๆ เสียงร้องคมชัด มีเสียงแหลมที่ไม่ขัดหู และเวทีเสียงที่สามารถแยกแยะรายละเอียดปลีกย่อยของชิ้นส่วนเครื่องดนตรีต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะสมกับการเป็นสุดยอดตำนานยี่ห้อเครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกโดยแท้ โดยหูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่นนี้ มูลค่าจักอยู่ที่ไม่มากเกิน 5,990 บาท
 
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
                คือลำโพงบลูทูธที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ที่ได้ออกค้าขายเป็นเวลายาวนานแล้วเช่นกัน แต่ทว่าเรื่องของคุณภาพนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าแต่เดิมเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้สุรเสียงที่คมชัดครบบริบูรณ์ ด้วยระบบชิป aptX ออกแบบด้วยไดร์ฟเวอร์ด้านในทั้งหมด 3 ตัว รวมถึงยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือแจ็คขนาด 3.5 มม. และ INPUT2 หรือ RCA นอกจากนี้ยังมีฝีมือในการปรับน้ำเสียงทุ้มแหลมได้ด้วย ให้น้ำเสียงเสมอเหมือนท่านกำลังฟังดนตรีจากการเล่นดนตรีสดเลยก็ว่าได้ ซึ่งลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จักมีความถูกที่ไม่มากเกิน 15,900 บาท ถ้าเปรียบเทียบน้ำเสียงที่ได้มา นับว่าคุ้มมากๆ
                นั่นคือทั้งหมดที่ทางกระผมได้หยิบยกฝากกันในวันนี้ ซึ่งจักเห็นได้ว่าตั้งแต่สมัยเก่าจนถึงทุกวันนี้นั้น พวกเรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์ยี่ห้อ Marshall เชื้อชาติอังกฤษนี้เกือบทุกเวทีเลย รวมถึงหูฟัง และลำโพงที่นานัปการมากหลายรุ่นที่ไม่ว่าเวลาจะล่วงเลยยาวนานเพียงใด แต่ Marshall ก็ยังคงความคลาสสิกตามสไตล์แบบ Marshall ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall