สวัสดี บุคคลทั่วไป

ดนตรีไทยยุคกรุงจังหวัดสุโขทัย :ta

  • 0 ตอบ
  • 286 อ่าน
ดนตรีไทยยุคกรุงจังหวัดสุโขทัย :ta
« เมื่อ: มีนาคม 07, 2019, 06:54:31 PM »
ในยุคกรุงจังหวัดสุโขทัย ดนตรีไทยมีลักษณะเป็นการขับลำนำ แล้วก็ร้องเล่น วรรณคดี "ตรีภพพระตก" เอ่ยถึงอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรี ดังเช่น ฆ้อง กลอง ฉิ่ง แฉ่ง (ฉาบ) บัณเฑาะว์ พิณ ซอ ปี่ไฉน ระฆัง กรับ รวมทั้งกังสดาลufabet

ยุคกรุงศรีอยุธยา มีวงพิณพาทย์ที่ยังคงแบบปี่พาทย์เครื่องห้าราวกับได้แก่ยุคกรุงจังหวัดสุโขทัย แต่ว่าเพิ่มระนาดเอกเข้าไป นับจากนั้นวงพิณพาทย์ก็เลยมี ระนาดเอก ปี่ใน ฆ้องวงใหญ่ กลองทัด กลองสองหน้า ฉิ่ง ส่วนวงมโหรีปรับปรุงจากวงมโหรีเครื่องสี่ เป็นวงมโหรีเครื่องหก เพิ่มขลุ่ย แล้วก็รำมะนา รวมเป็นมี ซอสามสาย กระจับปี่ ทับ (โทน) รำมะนา ขลุ่ย แล้วก็กรับพวง สมัครufabet

ถึงยุครัตนโกสินทร์ เริ่มจากรัชกาลที่ 1 เพิ่มกลองทัดเข้าวงพิณพาทย์อีก 1 ลูก รวมเป็น 2 ลูก เพศผู้เสียงสูง ตัวเมียเสียงต่ำ รัชกาลที่ 2 ทรงพระความสามารถสามารถการดนตรี ทรงซอสามสาย คู่พระมือเป็นซอสายฟ้าฟาด และก็ทรงพระราชนิพนธ์เพลงไทย ดวงจันทร์ลอยเลื่อน รัชสมัยนี้กำเนิดกลองสองหน้าปรับปรุงมาจากเปิงมางของมอญ พอเพียงในรัชกาลที่ 3 ปรับปรุงเป็นวงพิณพาทย์เครื่องคู่ มีการประดิษฐ์ระนาดทุ้มคู่กับระนาดเอก รวมทั้งฆ้องวงเล็กให้คู่กับฆ้องวงใหญ่

รัชกาลที่ 4 กำเนิดวงพิณพาทย์เครื่องใหญ่พร้อมการประดิษฐ์ระนาดเอกเหล็ก แล้วก็ระนาดทุ้มเหล็ก รัชกาลที่ 5 สมเด็จฯ กรมพระยานริศรานุวัติสกุลทรงสร้างสรรค์วงพิณพาทย์ดึกดำบรรพ์ประกอบกิจการเล่นละครดึกดำบรรพ์ ในรัชกาลที่ 6 นำวงดนตรีของมอญเข้าผสมเรียกวงพิณพาทย์มอญโดยหลวงประดิษฐเพราะ (ศร ศิลปเล่นเพลง) มีการนำอังกะลุงเข้ามาเผยแพร่เป็นครั้งแรก และก็นำอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีฝรั่ง เป็นต้นว่า ขิม ออร์แกนของฝรั่งมาผสมเป็นวงเครื่องสายผสม แล้วจึงเป็นดนตรีไทยที่พวกเราได้มองเห็นจนกระทั่งในช่วงเวลานี้ ทั้งยังความไม่เหมือนระหว่างวงต่างๆผู้แต่งท่านต่างๆ