บริษัทอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีประวัติศาสตร์ พร้อมทั้งการรังสรรค์นวัตกรรมมาอย่างไม่ขาดสายนานจนสมัยปัจจุบัน ก็ต้องมี SONY อยู่ด้วยอย่างแน่แท้ ที่มีจุดแรกเริ่มณญี่ปุ่นในปี พ.ศ. 2489 หรือเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 1946 จากความวิริยะ และการทำงานอย่างบากบั่นของชายหนุ่มสองคนที่เฉียบแหลม และกล้าเสี่ยง นั่นคือ มาซารุ อิบุกะ พร้อมกับอาคิโอะ โมริตะ ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างความฝันของพวกเขาให้เป็นจริง ด้วยการสร้างบริษัทระดับโลกที่ประสบความสำเร็จได้อย่างเป็นปึกแผ่นมั่นคง ที่ในตอนนั้นใช้ชื่อบริษัทว่า บริษัทโตเกียว สึชิน โกเคียว เคเค (บริษัท โตเกียว เทเลคอมมิวนิเคชันส์ เอนจิเนียริง คอร์ปอเรชั่น) และมีบุคลากรแค่เพียง 20 คนเท่านั้น โดยผลิตภัณฑ์สิ่งแรกที่บริษัทผลิตขึ้นในห้วงท้ายทศวรรษนั้น ไม่ใช่เครื่องเสียงหรือทีวี แต่เป็นหม้อหุงข้าว
                จนกระทั่ง ณ ตอนนี้ SONY มีผลิตภัณฑ์ท่วมท้น หลายอย่าง ดังเช่น ทีวี เครื่องเสียง โทรศัพท์เคลื่อนที่ วัสดุอุปกรณ์เพิ่มเติม พร้อมทั้งเครื่องเสียงติดรถยนต์ แบตและสื่อบันทึกข้อมูล PlayStation(R) กล้องวิดีโอ อีกทั้งกล้องถ่ายรูป ยิ่งไปกว่านี้ยังมีสินค้าหรือว่าผลิตภัณฑ์สำหรับมืออาชีพอีกด้วย เช่น ผลิตภัณฑ์หมวด Broadcast & Production โปรเจคเตอร์ กล้องถ่ายรูปดิจิตอล 4K กล้องนิรภัย อุปกรณ์ทางการแพทย์ ผลิตภัณฑ์พวก  Visual Communications อีกทั้ง สินค้าประเภท Professional Displays ซึ่งทั้งหมดที่บอกไปจัดว่าครอบครองทั่วทุกกลุ่มเลยเชียว ด้วยความตั้งใจที่พึงปรารถนาเป็นธุรกิจการโทรคมนาคมและการสื่อสารมวลชนนั่นเอง
                อีกทั้งผลิตภัณฑ์ทั้งหลายของ Sony เอง ที่ได้บอกไปนั้น ก็ได้รับความนิยมอย่างเต็มเปี่ยม แต่ว่าวันนี้ดีฉันจักมาล้วงลึกเกี่ยวกับ SONY TV อย่างเดียวเลย เพราะว่าระยะนี้กระแสของ 4K กำลังมา สมัยปัจจุบันโลกได้เข้าสู่โลกแห่งดิจิตอลอย่างเต็มตัวไปแล้ว ฉะนั้นมันถึงเวลาแล้วที่พวกเราควรไล่ตามยุคตามสมัยให้ทัน เพื่อความรื่นเริงในแง่ของความคมชัดอย่างถึงที่สุด พร้อมที่จะให้ท่านได้รับอรรถรสได้อย่างสุดขีดด้วยภาพที่ชัด สีสันสวยเหมือนจริง โดยทางทีวีโซนี่เองก็ไม่ได้ต่ำต้อยไปกว่าคู่แข่งอื่นๆ เลย เพราะฉะนั้นไปดูกันเลยว่ารายละเอียดปลีกย่อย SONY TV 4K จะมีรุ่นอะไรน่าศึกษาบ้าง ไปเกาะติดกันได้เลย
                เปิดตัวด้วย SONY TV BRAVIA 4K HDR OLED รุ่น A8F Series ที่โดดเด่นด้วยจอชนิด OLED (Organic Light Emitting Diodes) ที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ โดยมีความละเอียดสูงถึง 8 ล้านพิกเซล สามารถให้ภาพที่ชัด สีสันสดใสงามตาสมจริงเป็นธรรมชาติ เก็บทุกรายละเอียดของภาพ ให้สีดำได้ดำมาก ให้คอนทราสต์อีกทั้งอิมเมจของภาพเคลื่อนไหวที่คมชัดกว่าการชมทีวีจากจอทีวีปกติทั่วไป แม้กระนั้นไม่ใช่เช่นนั้นกับทีวีโซนี่ โดย SONY TV รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับชิปประมวลผลภาพ 4K HDR X1TM Extreme ที่สามารถถ่ายทอดรายละเอียดปลีกย่อยของภาพได้อย่างเหนือชั้นกว่า
                ยิ่งไปกว่านี้การใช้งานจักเป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 7.0 ให้ท่านใช้งานได้อย่างราบรื่น ทันทีทันใด ทั้งด้านภาพยนตร์ เพลง รูปถ่าย เกม การค้นหา และอื่นๆ เช่นสามารถใช้เสียงค้นหาข้อมูล ถาม และสั่งการทีวีได้อีกด้วย พร้อม Chrome Cast ในตัว ที่มีภาระหน้าที่ส่งคอนเทนท์ต่างๆ จากโทรศัพท์มือถือ หรือว่าแท็บเล็ตให้ไปเล่นบนหน้าจอ SONY TV ได้ พร้อมให้คุณสนุกสนานไปกับการรับชมภาพยนตร์เรื่องโปรด รายการทีวี เล่นเกม บน Google Play ได้อย่างสำราญใจ และที่สำคัญคือ รองรับการแสดงผลความละเอียดระดับ 4K HDR (High Dynamic Range) ที่จักเพิ่มประสิทธิภาพในการแสดงภาพที่น่าพึงพอใจเหมือนจริง พร้อมทั้งคมชัดมากกว่าแต่ก่อน ด้วยการประสานเข้ากับเทคโนโลยีอันทรงพลังอย่าง TRILUMINOSTM Display และ 4K X-RealityTM Pro ส่วนคุณภาพเสียงใช้เทคโนโลยี Acoustic SurfaceTM ที่ไม่เพียงให้ภาพที่มีคุณภาพสูงอย่างเดียว อย่างไรก็ดียังให้สุดยอดเสียงที่ทรงพลัง เพื่อให้ประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด
                และอีกรุ่นที่สด ใหม่ ยิ่งใหญ่ไม่เบา กับ Sony OLED TV A9F ซึ่งเป็นรุ่น Master Series กับคอนเซ็ปต์ที่ว่า Lens to Living Room จาก "เลนส์ถ่ายจอเงิน" สู่ "ห้องนั่งเล่นในบ้าน" โดยใช้ชิปประมวลผลตัวหลักชั้นเยี่ยมอย่าง X1 Ultimate ที่ช่วยในเรื่องของมิติภาพ (Depth) และรายละเอียด (Resolution) ซึ่งให้ภาพที่คุณจักได้รับชมนั้นคม แจ่มแจ้ง สด ต้องตาต้องใจ เหมือนจริง ซึ่งเป็นอีกขั้นที่เหนือกว่า X1 Extreme ในรุ่น A8F และ A1E เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมี Netflix Calibrated Mode เป็นโหมดปรับภาพสำหรับ Netflix โดยเฉพาะ ซึ่งหลักๆ จักมุ่งเน้นไปที่ HDR อีกทั้งยังร่วมมือกับค่าย Potrait Display และ Calman ที่มีโหมดสำหรับการปรับภาพเบื้องลึก และรองรับ Autocal ฟีเจอร์ปรับภาพอัตโนมัติ ด้วย Software และ Hardware จากทางค่าย และยังมีลำโพง Acoustic Surface+ แบบ 3.2 แชนแนล ซ้ายและข้างขวา แต่ยังไม่พอ ทาง SONY TV ได้เพิ่มมาอีกชุดที่ตำแหน่งกลางจอ คือ Actuator พร้อมช่องให้เสียบสายลำโพงด้านหลังเครื่อง ที่มีกำลังขับจากแต่เดิมอยู่ที่ 50 วัตต์ เป็น 98 วัตต์
                จะเห็นได้เลยว่าทีวีโซนี่ที่ได้เสนอแนะไปนั้น จัดเป็นรุ่นท็อปๆ ของทาง SONY เลยก็ว่าได้ ซึ่งถ้าคนไหนมีงบพอควร พร้อมทั้งใคร่ได้โทรทัศน์ที่ให้ภาพที่คม ชัด สด สวย สมจริง บอกเลยว่า SONY TV ทั้ง 2 รุ่น คือตัวเลือกที่ดีเลย

Tags : Sony TV,ทีวีโซนี่,ทีวีโซนี่ ราคา