สวัสดี บุคคลทั่วไป

โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่

  • 0 ตอบ
  • 242 อ่าน
โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่
« เมื่อ: มีนาคม 11, 2019, 05:38:58 PM »
ย้อนกลับไปในศักราช 2001 โทรศัพท์เคลื่อนที่ได้เริ่มมีการจำหน่ายในวงกว้างแต่ทว่าเนื่องมาจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี อาทิฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือเครือข่าย ยังไม่พร้อมต่อการใช้งานอย่างจริงจังมากนัก ครั้นเมื่อบวกกับราคาที่สูงเป็นปกติของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ๆ ขณะนั้น ส่งผลให้มีผู้บริโภคโทรศัพท์มือถือไม่มากนักเมื่อเทียบกับท้องตลาดสมาร์ทโฟนรวมทั้งหมด
 
 แต่ทว่าเวลาก็เปลี่ยนแปลงพร้อมทั้งความเจริญของเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ กระทั่งถึงยุคปัจจุบัน มือถือ กลายเป็นสาระสำคัญอีกอย่างหนึ่งในชีวิตของหลายๆ คน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และขอบข่ายต่าง ๆ เอื้ออำนวยให้ผู้ใช้งานหลาย ๆ ล้านคนได้ติดต่อและมีกิจกรรมอื่น ๆ บนมือถือได้ราบรื่น
 
 ในปี 2017 ยอดรวมส่งออกสมาร์ทโฟนทั่วกันโลกอยู่ที่ 408 ล้านเครื่องโดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2017 นั้นโทรศัพท์เคลื่อนที่ถูกซื้อขายไปรวมยอดประมาณ 383 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 2016 ประมาณ 5% ซึ่ง 3 อันดับของแบรนด์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดคือ 1. ซัมซุง ส่วนแบ่งตลาด 21%,2. แอปเปิ้ล ส่วนแบ่งตลาด 12%และ 3. หัวเว่ย ส่วนแบ่งการตลาด 10% พวกเราไปล้วงลึกสถานการณ์ของแต่ละยี่ห้อกันเลย

 ปลายปีที่ผ่านมา ซัมซุงเพิ่งจะเปิดเผยสถิติกำไรมากเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017โดยผลกำไรสุทธิตั้งแต่ตุลาคมจวบจนถึงธันวาคมทะยานไปแตะ 357,000 ล้านบาทแต่ดูราวกับ ซัมซุงจะทุบสถิติลงอีกครั้งหลังจากล่วงเลยแค่ 3 เดือน ครั้นเข้าสู่เดือนมีนาคม 2018โดยสร้างรายรับราว 1.7 ล้านล้านบาทแล้ว

 
โดยถึงแม้เงินรายได้รวมยอดใน3 เดือนแรกของปี 2018 นั้นจะน้อยกว่าไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา แต่ทว่าด้วยค่าใช้จ่ายหลายอย่าง นั้นต่ำกว่า เป็นเหตุให้ ซัมซุงสามารถทำผลกำไรได้เป็นสถิติใหม่ของบริษัทอีกครั้งที่ 14,600 ล้านเหรียญ เปลี่ยนเป็นเงินไทยที่ 450,000 ล้านบาท

แหล่งกำเนิดของกำไรที่เป็นสถิตินี้ ก็เป็นงานของสมาร์ทโฟนซัมซุง Galaxy S9 / S9+ ที่ปีนี้เลื่อนเวลามาขายเร็วทันใจขึ้น ผนวกกับความสำเร็จของ Galaxy A (2018) ที่เป็นมือถือซัมซุงราคาไม่แพงที่ซื้อขายในหลายๆ ชาติ และจอ OLED แต่ที่เป็นตัวสร้างเงินรายได้สูงสุดจริงๆ นั้นเป็นชิป DRAM ที่สามารถสร้างกำไรได้สูงถึง 70% ของท้องตลาด

 ส่วนแอปเปิ้ลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงิน 2018 ของบริษัท (ตุลาคม-ธันวาคม 2017) ซึ่งรายรับรวมทำสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัทอีกครั้ง 88,293 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.83 ล้านบาท เพิ่มปริมาณ 13% จากเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 20,065 ล้านดอลลาร์ หรือ 643,485 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นสถิติใหม่บริษัทเช่นเดียวกัน ด้านเงินรายได้จากต่างประเทศนอกสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 65% ของรายได้รวม

 3 เดือนที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเริ่ม ขาย iPhone X โดยคาดการณ์กันว่าจะเป็นสินค้าหลักที่ได้กำไร ถึงแม้จะมีข่าวโคมลอยออกมาไม่ดีนัก ซึ่งในรายงานผลประกอบการนั้นแอปเปิ้ลบอกตัวเลขรวมของ iPhone ทั้งหมดว่าขายได้ 77.316 ล้านเครื่อง ลดน้อยลงจาก3 เดือนเดียวกันในปีก่อน 1% (78.290 ล้านเครื่อง)

 รายรับจาก iPhone ทุกรุ่นอยู่ที่ 61,576 ล้านดอลลาร์ เพิ่มปริมาณ 13% (54,378 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.74 ล้านบาท)
                ที่น่าสนใจคือ iPhone X เป็นไอโฟนรุ่นที่ขายดิบขายดีที่สุดของแอปเปิ้ลในทุกอาทิตย์ นับจากเริ่มส่งมอบครั้นเมื่อพฤศจิกายน 2017 และจำหน่ายได้ยิ่งกว่าที่แอปเปิลคาด
 
 ทางด้านหัวเว่ยสรุปผลประกอบการรวมปี 2017 ยังคงมีรายรับที่ดีแตะ 9,250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 296.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2016 ถึง 15.7% คิดเป็นดอกผลสุทธิ 730,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 23.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.1% ในปีที่ผ่านมา

 ซึ่งในศก 2017 หัวเว่ยได้ส่งมอบโทรศัพท์มือถือทั้งสิ้น 153 ล้านเครื่อง (รวมแบรนด์ Honor ที่เป็นเจ้าตำรับเดียวกัน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 จากปี 2016

 โดยครั้นเมื่อปี 2016 CEO ของ หัวเว่ยเคยป่าวประกาศเอาไว้ว่า จุดมุ่งหมายของบริษัทคือการก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทมือถือใหญ่โตอันดับ 1 ของโลกให้ได้ภายใน 5 ปี อย่างไรก็ดีปัจจุบันนี้ หัวเว่ยยังค่อนข้างมีปัญหาในการพยายามทะลวงตลาดโซนอเมริกาเหนือ เหตุว่าฝั่งนั้นยังมีเจ้าตลาดอย่าง iPhone คุมอยู่ ด้านตลาดในฝั่งทวีปยุโรปนั้น หัวเว่ยทำได้สวยเลยเทียว ก็เพราะว่ามือถือเกรดไฮเอนด์ในซีรีส์ Mate และ P ได้รับความชื่นชมเป็นอย่างดี

 แม้ยอดสรุปไตรมาสล่าสุดปี 2018 ของหัวเว่ยยังไม่ประกาศออกมา แต่ปี 2018หัวเว่ย ก็จดจ่อไปที่การใช้งานเทคโนโลยีใหม่ในสเกลใหญ่ อย่างเช่น Internet of Thing, Cloud Computing, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 5G
 
 ในหลายปีที่ผ่านมาโครงข่ายไร้สาย 3G มีการใช้งานทั่วโลก หลากหลายมณฑลมี 4G และปี2018 คาดว่าเป็นการเปิดฉากแห่งยุค 5G โดยจะมีการใช้งานในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 23 (พย็องชัง 2018) ที่เกาหลีใต้ เป็นการทดสอบประสิทธิภาพก่อนจะใช้อย่างเป็นทางการใน 2 ปีข้างหน้า
 
 การแสดงตัวของขอบข่ายไร้สาย 5G ทำให้มีความคาดหมายกันว่า โทรศัพท์มือถือจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดในชีวิตประจำวันมากขึ้นไปอีกโดยจำเป็นต้องรอคอยเฝ้ามองดูว่ายี่ห้อโทรศัพท์มือถือเหล่านี้จะใช้โอกาสนี้เป็นประโยชน์ได้มากเพียงใดในการเพิ่มยอดจำหน่ายและฉกชิงความเป็นที่ 1 ต่อไป
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่

Tags : โทรศัพท์ซัมซุง,โทรศัพท์ซัมซุงราคา,โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่