สวัสดี บุคคลทั่วไป

ประวัติศาสตร์วงการ ร็อกแอนด์โรล ต้อง "Jim Marshall"

  • 0 ตอบ
  • 298 อ่าน
                ถ้าท่านเป็นคนที่ตกหลุมรักในเสียงดนตรี หรือเสียงดนตรี เชื่อว่าคุณจักต้องรู้จักแบรนด์เครื่องเสียงยี่ห้อนี้เป็นอย่างดีแน่นอน เหตุเพราะเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมชมชอบขนานใหญ่ เช่น ลำโพง หูฟัง เครื่องกระจายเสียง และต่างๆ อีกมากมายก่ายกอง ซึ่งประวัติภูมิหลังของแบรนด์นี้ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของตำนานวงการดนตรีRock 'n' Rollเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยี่ห้อที่กำลังพูดถึงอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง ซึ่งประวัติของ Marshall นั้น จะมีเรื่องราวเช่นไรบ้าง และทำไมถึงได้มาเป็นแบรนด์ระดับโลกขนาดนี้ ข้าพเจ้าจักมาหาคำตอบกัน
                Marshall นั้น ได้ตั้งโดย Jim Marshall ซึ่งจุดกำเนิดอยู่ที่การเป็นนักดนตรีผู้เชี่ยวชาญมาก่อน โดยเล่นในตำแหน่งมือกลอง แล้วก็ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองมาจัดการธุรกิจการค้าร้านรวงขายเครื่องดนตรี อีกทั้งวัสดุอุปกรณ์หลายชนิด ซึ่งริเริ่มจากการวางขายกลองชุดอีกทั้งกีตาร์ในลอนดอนย่าน Hanwell ซึ่งลูกค้าจำนวนมากจักเป็นนักดนตรีเพลงRock and Roll ที่มีความเด่นในคราวนั้น ดังเช่น ริตชี แบล็กมอร์ หรือไม่ก็เป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น
                ถัดจากนั้นก็เริ่มมีนักดนตรีชื่อดัง หลายคนต้องการแอมป์ หรือเครื่องกระจายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ และเสียงดังกว่าแต่ก่อน เหตุเพราะปมปัญหาที่พบส่วนมากค่อนข้างเป็นเรื่องความเสียงดังของเครื่องขยายเสียงที่ไม่พอในการสำแดงแสดงสดนั่นเอง Marshall จึงได้ตกลงใจลองทำออกมาขาย และดันบรรลุผลอย่างมากมาย กลายเป็นการบอกเล่าปากต่อปาก จนคณะดนตรีหลายๆ วง ให้ความสนใจ Marshall จึงได้จัดการออกมาจัดจำหน่ายอย่างเอาเป็นเอาตาย พร้อมทั้งได้ตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นในปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นต้นตอของแบรนด์ Marshall อย่างถ่องแท้
                แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่เป็นเหตุให้นักดนตรีทั้งหลายนิยมชมชอบ ยิ่งกว่านั้นยังพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคือแอมป์กีตาร์ที่เสียงเยี่ยมตามที่เคยมีมา (ในช่วงเวลานั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และถัดไปมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาสร้างแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมด้วยตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลากหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความไว้ใจจากมือกีตาร์แนวบลูส์ สายร็อก จากวงดังๆ ระดับตำนานอย่างเช่น The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมทั้ง AC/DC ฯลฯ
                และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในยุค 60 ของ Marshall ฉบับรวบรัด แต่กระนั้นครั้นเมื่อสมัยได้ล่วงก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอล ยี่ห้อ Marshall ที่ชำนาญในวงการเครื่องเสียงก็ได้ปรับปรุงและหยิบยกเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาร่วมมือในการสร้างสินค้าเพื่อให้ทันยุค ทันสมัย และแม่นยำตามความหวัง หรือตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone ที่เป็นสินค้าประเภทหูฟัง เพื่อให้ผู้ซื้อ หรือบุคคลธรรมดาให้ได้รับประสบการณ์การฟังเสียงเพลงในสไตล์ของ Marshall รวมถึงสินค้าเหล่าลำโพงที่สามารถต่อบลูทูธได้ โดยนั่นเป็นเหตุให้ Marshall ได้รับความนิยมอย่างมากมายเช่นเดียวกัน ด้วยสไตล์เสียงที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งดีไซน์ที่ดูเป็นวินเทจ คลาสสิก ดูดี โดยรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่าสนใจ และจะแนะนำนั่นก็คือ หูฟังปราศจากสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth พร้อมกับลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore ซึ่งจักมีรายละเอียดปลีกย่อยดังนี้
 
หูฟังไร้สาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
                คือหูฟังไม่มีสายที่มีความคลาสสิคอยู่ในตัว ออกแบบสวยงาม เรียบร้อยมีสไตล์ ขนาดกระชับสามารถพับได้ ทำให้พกติดตัวไปไหนต่อไหนได้ง่าย มีการต่ออย่างเร็วด้วย Bluetooth 4.0 แต่ว่าสามารถใช้ร่วมกับเครื่องมือต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเหมือนกัน  สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบตเตอรี่ Li-ion Polymer (680mAh) อีกทั้งใช้เวลาชาร์จน้อยกว่า 4 ชั่วโมง โดยผ่าน Micro USB ด้านของน้ำเสียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall เพราะเบสแน่นๆ เสียงร้องคมชัด มีเสียงแหลมที่ไม่บาดหู และเวทีเสียงที่สามารถจำแนกแยกแยะรายละเอียดของชิ้นส่วนดนตรีต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม สมกับการเป็นสุดยอดประวัติศาสตร์ยี่ห้อเครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกแน่นอน โดยหูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่นนี้ สนนราคาจักอยู่ที่ไม่เกิน 5,990 บาท
 
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
                คือลำโพงบลูทูธที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ที่ได้ออกขายเป็นเวลายาวนานแล้วเหมือนกัน แต่ถ้าว่าเรื่องของคุณภาพนั้นไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าแต่แรกเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้น้ำเสียงที่กระจ่างครบบริบูรณ์ ด้วยระบบชิป aptX ออกแบบด้วยไดร์ฟเวอร์ภายในทั้งหมด 3 ตัว รวมไปถึงยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือว่าแจ็คขนาด 3.5 มม. และ INPUT2 หรือว่า RCA ยิ่งไปกว่านี้ยังมีฝีมือในการปรับเสียงทุ้มแหลมได้ด้วย ให้น้ำเสียงเสมอเหมือนท่านกำลังฟังเพลงจากการเล่นดนตรีสดเลยก็ว่าได้ โดยลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จะมีความถูกที่ไม่มากเกิน 15,900 บาท ถ้าหากเทียบกับน้ำเสียงที่ได้ นับว่าคุ้มค่ามากๆ
                นั่นคือทั้งหมดที่ทางดิฉันได้นำฝากกันในวันนี้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าตั้งแต่สมัยก่อนจวบจนถึงสมัยปัจจุบันนั้น หมู่เรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์ยี่ห้อ Marshall เชื้อชาติอังกฤษนี้แทบทุกเวทีเลย รวมไปถึงหูฟัง และลำโพงที่เยอะแยะหลากหลายรุ่นที่ไม่ว่าสมัยจักผ่านพ้นนานเพียงใด แต่ว่า Marshall ก็ยังคงไว้ความคลาสสิกตามแนวแบบ Marshall ไม่เคยเปลี่ยน
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : หูฟัง marshall

Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall