1. มี Duplication Code ในโปรแกรม
ถ้าหากว่าคุณเขียน Code แล้วมีการ Duplication ขึ้น หรือมีชุดของ Code สถานที่สำหรับทำงานเป็นประจำกัน อาจจะเป็นผลให้ยากสำหรับเพื่อการ Maintain รวมทั้งอาจกระตุ้นให้เกิดการเกิด Bug ด้วย คุณอาจมีความคิดว่าคุณได้ปฏิบัติแปลง Code แล้ว ถึงแม้แล้วศึกษาค้นพบว่า มี Method ซ้ำแล้วซ้ำเล่ากันอยู่ในไฟล์อื่นๆและไม่ได้รับการ Update เมื่อคุณทำเปลี่ยนแปลง Code แน่นอนว่าเรื่องจำเป็นที่คุณต้องเจอเป็นเกิด Bug นี่เป็นเหตุผลที่คุณควรหลบการ Duplication ของ Code ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำเป็น
ทางออก : คุณน่าจะมานั่งพินิจพิจารณา Code ของคุณ แล้วจับมันแยกออกมาสร้างเป็น Method ใหม่ไปเลย แล้วค่อยเรียก Method นั้นมาใช้งานจะดียิ่งกว่า หากคุณจะแก้ไขมัน หรือเกิด Bug ก็จะได้ปรับปรุงมันตรง Method นั้นที่จุดเดียวไปเลย

2. ปรับปรุงแก้ไข Code แล้วเกิด Bug ใหม่ขึ้นมา
เคยเป็นไหม เมื่อคุณทำการเปลี่ยนแปลงปรับแก้โปรแกรม หรืออาจเพิ่ม Feature ใหม่เข้าไป คุณมีโอกาสในการเสี่ยงสูงต่อการเกิด Bug ใหม่ๆในโปรแกรม
แนวทางแก้ไข : สิ่งที่ช่วยปกป้องรักษาปัญหานี้เป็น การเขียน Unit Test นั่นเอง โดยเขียน Unit Test เป็น Project ที่แยกออกมาต่างหาก เพื่อทดสอบว่า Method รวมทั้ง Function ต่างๆในโปรแกรมของคุณปฏิบัติการอย่างเที่ยงตรงหรือไม่ การ Test นี้ถูกเขียนขึ้นเพื่อแน่ใจว่าMethod นั้นทำในสิ่งที่จะจะต้องทำไหม หรือ Method นั้นถูกเรียกไปใช้งานใช่หรือไม่ใช่ ยิ่งคุณมีการเขียน Test โปรแกรมของคุณมากไม่น้อยเลยทีเดียวมากแค่ไหน ก็จะมีเปอร์เซ็นต์ที่ Code ของคุณจะปฏิบัติการถูกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพียงแค่นั้น ยิ่งทำเป็น 100% ก็ยิ่งดี

3. ไม่ใช้ Version Control
คุณอาจเพิ่ม Feature ใหม่หรือแปลงปรับปรุงแก้ไข Code นิดหน่อย จากนั้นเมื่อใช้งานจริงแล้วมาพบว่า มี Bug เกิดขึ้น คุณอาจต้องเอา Feature นั้นออกซะ รวมทั้งกลับไปใช้ Version ที่ผ่านมาที่มันถูกอยู่แล้ว ซึ่งปัญหานี้อาจเกิดเหตุที่คุณจะต้องเจอถ้าคุณไม่ได้ใช้ Version Control
แล้ว Version Control เป็นยังไง
Version Control เป็นวิธีการสำหรับเพื่อการ Record การเปลี่ยนแปลงในโปรแกรมเพื่อคุณสามารถกลับไปใช้ Version ก่อนหน้าหรือ Version ที่คุณอยากได้ ยิ่งเมื่อคุณดำเนินการให้กับบริษัท ก็ได้จังหวะสูงที่จะได้ใช้พวก Version Control โดยบางทีก็อาจจะเป็น SVN (Subversion) หรือ GIT ถ้าหากคุณทำ Personal Project ของคุณเอง Version Control ก็อาจไม่มีความสำคัญแม้กระนั้นคุณก็อาจเจอกับปัญญาเช่นกันนี้
ทางแก้ไข : ใช้ Version Control โดยขอชี้แนะให้เริ่มทดสอบการใช้ GitHub สำหรับ Open-Source Software Project หรือก่อตั้ง Visual SVN Server รวมทั้ง Tortoise SVN ในเครื่องของคุณในกรณีที่เป็น Project ส่วนตัว

4. อ่านหรือเขียน Code ที่เข้าใจยาก
เมื่อคุณเขียน Code เอง แน่นอนว่าคุณก็ต้องเข้าใจมันแน่ๆแม้กระนั้นปัญหาเป็น แล้วคนอื่นๆล่ะ เขาจะเข้าหัวใจเช่นเดียวกันกับที่คุณเข้าใจหรือไม่ หรือ วันนี้คุณเขียน Code แม้กระนั้นผ่านไปสัก 6 เดือน แล้วคุณกลับมาอ่านมันใหม่ คุณจะเข้าหัวใจเหมือนช่วงต้นที่เขียน Code นี้ไหม นี่เป็น เหตุผลที่บริษัทต่างๆมากมายถึงได้มีมาตรฐานของการเขียน Code
วิธีแก้ : กำหนดมมาตรฐานของการเขียน Code ขึ้น โดยเจาะจงหลักเกณฑ์หรือทางปฏิบัติที่ดีที่สุด เพื่อทุกคนสามารถเข้าใจได้ตรงกันไม่ว่าจะเป็น Code ที่เขียนโดย Developer ไม่ว่าใคร เป็นต้นว่า การตั้งชื่อ, การ Comment, การย่อหน้า, ความยาวของแต่ละบรรทัด หรือแม้แต่การกำหนดระยะห่างของแต่ละบรรทัดว่าจะเป็น single line หรือ multi line อื่นๆอีกมากมาย

5. การประมาณตอนที่งานจะเสร็จบริบูรณ์
สำหรับการปฏิบัติการฐานะที่เป็น Developer มืออาชีพ คุณจะถูกถามว่า จะใช้เวลาจัดการนานแค่ไหนงานถึงจะเสร็จ เพราะว่านี่เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการตั้งราคา ระยะเวลาสำหรับการปฏิบัติการ แล้วก็กะสิ่งที่คาดหวังต่างๆซึ่งมันบางทีก็อาจจะเกิดเหตุที่ยากสำหรับในการจะกะว่าจะต้องใช้เวลามากน้อยแค่ไหน
ทางแก้ไข : ใช้การย้อนกลับไปศึกษางานลักษณะที่คล้ายๆกัน แล้วเห็นว่าเคยใช้เวลาสำหรับเพื่อการปลูกข้าวนแค่ไหน แต่ว่าถ้าหากคุณไม่รู้จักไหมมีตัวอปิ้งของงานที่คล้ายกัน ให้คุณแบ่งงานนั้นออกเป็น งานย่อยๆที่มีขนาดเล็กลง และจากนั้นก็ให้ราวขณะที่ต้องใช้ในแต่ละงานนั้นๆซึ่งน่าจะทำให้ใกล้เคียงเรื่องจริงมากเพิ่มขึ้นและ ufabet คุณสามารถใช้แนวทางลักษณะนี้สำหรับงานหรือ Project ที่ต้องเจอในอนาคตได้อีกด้วย



รายละเอียดต่างๆนอกเหนือจากนี้

https://ufabetth36155.jimdofree.com/

http://cufabet.webs.com/

https://cara36155.yolasite.com/

https://cara36155.livejournal.com/264.html

https://cara36155.wixsite.com/ufabet36155

https://ufabetthfff.weebly.com