สวัสดี บุคคลทั่วไป

เบอร์เบินกับเทนเนสซีแตกต่างยังไง

  • 0 ตอบ
  • 380 อ่าน
เบอร์เบินกับเทนเนสซีแตกต่างยังไง
« เมื่อ: มิถุนายน 30, 2018, 04:51:52 PM »

 
ประวัติศาสตร์ฉบับย่อของอเมริกันวิสกี้
 
ว่ากันว่าศาสตร์ของการกลั่นนั้นมีต้นกำเนิดมาไม่ต่ำกว่าเมื่อ 2,000 ปีก่อนคริสตกาล ในอารยธรรมเมโสโปเตเมียโบราณ จนเมื่อตอนประมาณ ค.ศ. 1,000-1,200 ความรู้เกี่ยวกับการกลั่นก็เดินทางผ่านจากแผ่นดินหลักของยุโรปไปยังสกอตแลนด์และไอร์แลนด์
 
เมื่อความเข้าใจเรื่องการกลั่นเดินทางไปถึงแถบตะวันออกเฉียงเหนือของอเมริกาพร้อมๆ กับผู้ตั้งรกรากผู้ดีอังกฤษ ไรย์ เป็นธัญพืชที่พวกเขาใช้เพื่อการผลิตวิสกี้ และ ต่อมาก็ได้มีการหันมาใช้เมล็ดข้าวโพด เนื่องจากว่าเป็นพืชที่เหมาะสมกับภูมิอากาศมากกว่า การผลิตวิสกี้ที่ทำมาจากข้าวโพดนั้นมีฐานอยู่ที่มลรัฐเคนทักกี ซึ่งถือเป็นบ้านของเบอร์เบินวิสกี้ (Bourbon Whisky) มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 1700s
 
เพราะเหตุใดต้องเคนทักกี ?
 
ผู้ผลิตวิสกี้ทุกคนต่างทราบกันดีอยู่แล้วว่าคุณภาพของน้ำนั้นมีส่วนสำคัญสำหรับเพื่อการกำหนดรสชาติของวิสกี้ ยกตัวอย่างน้ำในบางพื้นที่ของสกอตแลนด์ก็จะมีรสชาติที่ต่างกันออกไป ซึ่งมีผลกับบุคลิกของวิสกี้ เช่น ในบางพื้นที่ที่ไหลผ่านการเผาหน้าดินก็ชอบมีกลิ่นพีท แล้วก็บางพื้นที่อยู่ใกล้กับทะเลก็จะทำให้น้ำที่เอามาผลิตมีรสเค็ม รวมทั้งมีผลกับวิสกี้ด้วย ไม่เว้นแม้กระทั้งเบอร์เบิน ซึ่งน้ำจากแม่น้ำเคนทักกีที่ไหลผ่านหินแร่ไลม์สโตนที่อุดมอยู่ในรัฐดังที่กล่าวมาข้างต้น มีส่วนสำคัญที่ทำให้น้ำจากที่นี่ส่งผลต่อรสหวานนุ่มอันเป็นเอกลักษณ์ของเบอร์เบิน รวมถึงพื้นที่ตั้งแต่ชายแดนของแคนาดา ตลอดไปจนถึงรัฐอลาบามาด้วย ที่นับว่าเป็น Bourbon Zone
 
คำนิยาม ตามกฎหมายของเบอร์เบินวิสกี้

  • เบอร์เบินจะต้องผลิตขึ้นมาจากเมล็ดพืช โดยมีส่วนผสมของเมล็ดข้าวโพดไม่ต่ำกว่า 51%
  • เบอร์เบินจะต้องได้รับการกลั่นโดยไม่ให้มีแอลกอฮอล์เกินกว่า 160 Proof หรือ 80% ABV (Alcohol By Volume)
  • ไม่มีการผสมสี หรือ แต่งรสชาติ
  • เบอร์เบินจะต้องได้รับการบ่มในถังไม้โอ๊กใหม่ ที่เผาไฟด้วยถ่านชนิดพิเศษ
  • โดยจะต้องได้รับการบ่มไม่ต่ำกว่า 2 ปี
  • ได้รับการบรรจุเข้าไปในถังบ่มในขณะมีแอลกอฮอล์ไม่สูงมากเกินไปกว่า 125 Proof หรือ 62.5% ABV
  • เมื่อบรรจุขวดเบอร์เบินควรจะมีแอลกอฮอล์ไม่ต่ำลงมากยิ่งกว่า 80 Proof หรือ 40% ABV
  • เบอร์เบินที่บ่มนานน้อยกว่า 4 ปี จะต้องมีการระบุที่ฉลาก ถึงอายุของวิสกี้ตัวที่นำมาผสมแล้วก็ได้รับการบ่มมาน้อยที่สุดในวิสกี้ขวดนั้น (แต่ว่าส่วนใหญ่ก็นานไม่ต่ำยิ่งกว่านี้กันทั้งหมดล่ะ)
  • ถ้าครบทุกคุณลักษณะข้างต้น และก็ผลิตในรัฐเคนทักกีแค่นั้นก็เลยจะพูดได้ว่า 'Kentucky Straight Bourbon Whisky'
  • ข้อนี้สำคัญที่สุด กฎนี้ออกมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1907 วิสกี้ที่ผลิตในสหรัฐอเมริกาแค่นั้นก็เลยจะสามารถกล่าวได้ว่าเป็นเบอร์เบินวิสกี้

 
ครอบครัวที่กลั่นเบอร์เบินมานานกว่า 90 ปี
 
เอ็ดดี้ รัสเซลล์ ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการกลั่นของ Wild Turkey
 
เมื่อไม่นานมานี้ เอ็ดดี้ รัสเซลล์ ผู้ชำนาญด้านการกลั่น (Master Distiller) ของ Wild Turkey เบอร์เบินอันโด่งดังจากรัฐเคนทักกีได้เดินทางมาเปิดมาสเตอร์คลาสในประเทศไทย นอกจากให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอเมริกันวิสกี้ให้เราฟังแล้ว ยังเล่าถึงเรื่องราวของครอบครัวของเขา ซึ่งเป็นผู้ผลิตเบอร์เบินถึง 2 ชั่วอายุคน คือตัวเขากับพ่อ ซึ่งรวมแล้วครอบครัวนี้มีประสบการณ์ในการกลั่นเบอร์เบินนานถึงกว่า 90 ปี เลยทีเดียว
 
ถังไม้โอ๊กสำหรับบ่มต้องเป็นถังโอ๊กใหม่เท่านั้น และก็ของ Wild Turkey จะต้องเป็น American White Oak เขาได้เล่าถึงความเด่นของวิสกี้แบรนด์ไก่งวงเถื่อนนี้ให้ฟังว่า โรงกลั่นของ Wild Turkey ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำเคนทักกี ซึ่งมีชั้นหินปูนใต้น้ำ ที่เปรียบดังตัวกรองน้ำจากธรรมชาติ ทำให้โรงกลั่นได้น้ำที่ใสบริสุทธิ์ ซึ่งจำเป็นสำหรับในการผลิตวิสกี้ประสิทธิภาพสูง และ โดยธรรมดาเมื่อนำไปใส่ถังไม้โอ๊กในกระบวนการบ่ม ก็จะใช้เฉพาะถังไม้โอ๊กที่ดีที่สุดที่เป็นอเมริกัน ไวต์ โอ๊ก ซึ่งจะถูกนำไปเผาที่เบอร์ 4 หรือที่เรียกว่า "The Number 4 Alligator Char" ซึ่งเป็นการเผาเบอร์สูงที่สุดจนมีลวดลายคล้ายหนังจระเข้ (โดยปกติเบอร์เบินวิสกี้แบรนด์อื่นมักใช้กันที่เบอร์ 2-3) ซึ่งเขาพูดว่าด้วยการที่ไม่มีการแต่งสีรวมทั้งกลิ่นของวิสกี้ การเผาถังไม้เบอร์รีจะช่วยให้วิสกี้มีสีแล้วก็รสชาติเยอะขึ้น อันเป็นวิธีเฉพาะของ Wild Turkey รวมทั้งช่วงเวลาสำหรับเพื่อการบ่ม ซึ่งโดยธรรมดามักจะบ่มกันประมาณ 4 - 6 ปี แต่ว่าที่โรงกลั่นวิสกี้ไก่งวงเถื่อนเขาบ่มนานถึง 6, 8, 10, 12 ปี เป็นลำดับ ที่สำคัญอีกข้อเป็นวัตถุดิบที่ใช้ต้องเป็นเมล็ดข้าวโพดและธัญพืช Non-GMO
 
ที่มา -  เหล้านอก