สวัสดี บุคคลทั่วไป

จิตวิทยา หนังสือสร้างแรงบันดาลใจ

  • 0 ตอบ
  • 357 อ่าน
จิตวิทยา หนังสือสร้างแรงบันดาลใจ
« เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2018, 01:42:52 PM »

 
จิตวิทยา คือ ?
 
จิตวิทยา (Psychology) หมายถึงศาสตร์ที่ว่าด้วยการศึกษาเกี่ยวกับจิตใจ (กระบวนการของจิต), กระบวนความคิด, แล้วก็พฤติกรรม ของมนุษย์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เนื้อหาที่นักจิตวิทยาศึกษา เช่น การรับรู้ (กระบวนการรับข้อมูลของมนุษย์), อารมณ์, บุคลิก, พฤติกรรม, และรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล จิตวิทยายังสื่อความหมายรวมไปถึงการประยุกต์ใช้วิชาความรู้กับกิจกรรมในด้านต่างๆ ของมนุษย์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน (เช่นกิจกรรมที่เกิดขึ้นในครอบครัว, ระบบการเรียน, การจ้างงานเป็นต้น) และยังรวมถึงการใช้วิชาความรู้ทางจิตวิทยาสำหรับเพื่อการรักษาปัญหาสุขภาพจิต นักจิตวิทยามีความมานะบากบั่นที่จะศึกษาทำความเข้าใจถึงหน้าที่หรือจุดประสงค์ต่างๆ ของพฤติกรรมที่เกิดขึ้นมาจากตัวบุคคลแล้วก็ความประพฤติที่เกิดขึ้นในสังคม ขณะเดียวกันก็ศึกษาวิจัยขั้นตอนของระบบประสาทซึ่งส่งผลต่อการควบคุมแล้วก็แสดงออกของความประพฤติปฏิบัติ
 
สรุปแล้วจิตวิทยาก็ คือ ศาสตร์ที่เรียนรู้เกี่ยวกับการกระทำของคนเรานั่นเอง
 
ภาษาทางจิตวิทยา
 
จิตวิทยาก็มีการบัญญัติศัพท์ขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับการศึกษาเหมือนกับศาสตร์อื่นๆ คำศัพท์นิดหน่อยประกอบด้วยศัพท์ที่คนทั่วไปใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวัน ศัพท์บางคำก็เป็นคำศัพท์ทางวิชาการที่คุ้นเคย แม้ว่าศัพท์บางคำจะเป็นที่เข้าใจ แล้วก็คุ้นเคยของคนทั่วๆไป แม้กระนั้นนักจิตวิทยาก็ได้ให้คำจำกัดความเฉพาะเพื่อเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในการศึกษาจิตวิทยา
 
โครงสร้างของจิตวิทยา
 
1. ลักษณะเนื้อหาวิชา แบ่งเป็นเรื่องต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น พัฒนาการของมนุษย์, กรรมพันธุ์, ระบบการตอบสนอง, การรับรู้, การรู้สึก, แรงจูงใจ, อารมณ์, ภาษา การคิด และก็การจัดการกับปัญหา, ความหลักแหลมและก็การทดลองปฏิภาณ, บุคลิกลักษณะแบบต่างๆ แล้วก็การคาดคะเนบุคลิกภาพ, แบบต่างๆ

2. เป้าหมายของจิตวิทยา เป้าหมายของการศึกษาได้มาจากกรรมวิธีที่ต่างกัน 3 จำพวก อาทิเช่น
 
- การค้นคว้าปรับใช้ ให้ความสนใจสำหรับในการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนั้น ผลจากการวิจัยในปัญหานี้สามารถ นำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้ การศึกษาวิจัยดังกล่าวจะต้องได้รับการวางเป้าหมายดำเนินการ ควบคุมวิธีการด้วยความระวัง การศึกษาค้นคว้าวิจัย บริสุทธิ์ก่อให้เกิดการวิจัยประยุกต์อย่างมีแบบแผน
- การปรับใช้ เป็นการประยุกต์คำตอบที่ได้ ไปใช้ในเหตุการณ์จริงๆในโลกซึ่งไม่มีการควบคุม สถานการณ์อะไรก็แล้วแต่นักจิตวิทยากลุ่มที่มีการปรับใช้เยอะที่สุด คือ นักจิตวิทยาคลินิก รองลงมาคือ นักจิตวิทยาการศึกษา
- สถานที่ดำเนินงานทางจิตวิทยา นักจิตวิทยาสาขาต่างๆ ปฏิบัติงานในสถานที่ต่างกัน บางสาขาทำวิจัยรวมทั้งสอนในมหาวิทยาลัยแล้วก็วิทยาลัย บาง สาขาทำงานในสถานพยาบาลรวมทั้งโรงพยาบาล, ศูนย์บริการให้คำแนะนำต่างๆ ในสถานที่เรียน, บริษัทหรือโรงงานอุตสาหกรรม, ศูนย์สุขภาพที่เกิดขึ้นกับจิต ศูนย์คุ้มครองป้องกันรวมทั้งปราบปรามสารเสพติด ศูนย์พักฟื้นคนป่วยที่เพิ่งถูกส่งออกจากโรงพยาบาล ศูนย์บริการประชาชน เป็นต้น
 
ความสัมพันธ์ของจิตวิทยากับศาสตร์อื่น
 
จิตวิทยามีความสัมพันธ์เหนียวแน่นกับวิชาจิตเวช (อันเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของวิชาแพทยศาสตร์ คือสาขาที่ว่าด้วยการรักษาจิตใจ) และกับศาสตร์ทางด้านชีววิทยา ซึ่งยกตัวอย่างเช่น สรีรวิทยา ประสาทวิทยาและชีวเคมี การกระทำ ของบุคคลจำเป็นมากที่จะจำเป็นต้องศึกษาจากบุคคลนั้นโดยตรงก่อน ทั้งทางด้านพันธุกรรม ระดับวุฒิภาวะ แล้วก็สภาพการ เคลื่อนไหวของร่างกาย รวมทั้งปัจจุบันนี้ก็สัมพันธ์อย่างเด่นชัดกับมานุษยวิทยาและก็สังคมวิทยา โดยมานุษยวิทยาเรียนรู้จุดเริ่มต้น ของคนเรา รวมทั้งการสืบทอดวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี สภาพของสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นทางด้านที่เกี่ยวข้องกับสังคม ส่วนทางสังคมวิทยาจะเน้น ศึกษากลุ่มสังคมมากกว่าตัวบุคคล โดยศึกษาการปะทะสังสรรค์ของแต่ละบุคคลในกลุ่ม และก็ศึกษาอิทธิพลของกลุ่มที่มีต่อ แต่ละบุคคล
 
หนังสือสร้างแรงจูงใจ
 
ถ้าคุณกำลังมองหาเคล็ดลับที่จะนำไปสู่การบรรลุผล คำตอบบางทีอาจอยู่ที่นี่แล้ว คุณอาจกำลังคิดว่า เคล็ดลับก็คงจำต้องถูกเก็บเป็นความลับ โดยไม่ให้ผู้ใดทราบได้อย่างง่ายๆซึ่งคุณกำลังคิดผิด จริงๆแล้วมหาเศรษฐีที่บรรลุเป้าหมายในชีวิตได้แชร์เทคนิคต่างๆ ของพวกเขา ไว้ให้พวกคุณมากมายก่ายกอง แล้วอะไรจะดีไปกว่าการได้ศึกษาวิถีทางที่ประสบความสำเร็จจากคนที่บรรลุผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของโลกล่ะ
 
คนนำทางธุรกิจ ผู้ประกอบการ รวมทั้งดาราผู้แสดงมากมายต่างเห็นด้วยว่าหนังสือเหล่านี้เป็นหนังสือที่มีผลดีต่อการใช้ชีวิตของพวกเขาอย่างยิ่ง บางเล่มได้อธิบายถึงแนวความคิดการลงทุน บางเล่มก็เป็นกระบวนการปรับปรุงตนเอง ซึ่งหนังสือน่าอ่านพวกนี้จะบอกเทคนิคของสิ่งที่คุณจะต้องเปลี่ยนเพื่อที่คุณจะได้ก้าวเดินไปสู่การบรรลุผลแล้วก็เป็นผู้เชี่ยวชาญแบบพวกเขา
 


10 หนังสือจิตวิทยา และหนังสือสร้างแรงบันดาลใจ ที่แนะนำ โดยร้านหนังสือนายอินทร์
 
1. คุณสมบัติ 8 อย่างที่จะทำให้คุณโดดเด่นในที่ทำงาน
คนจำนวนมากที่ชอบบ่นงานของตัวเอง พวกเขาชอบพูดว่าตัวเองพยายามตั้งใจทำงานอย่างหนักแต่เจ้านายก็ไม่เคยมองเห็น เพื่อนร่วมงานของคุณได้เลื่อนขั้นแต่คุณคิดว่าคุณทำได้ดีกว่าพวกเขา ก่อนที่คุณจะบ่นคุณควรจะหันกลับมามองตัวเองก่อน คุณคิดว่าคุณมีอะไรพิเศษกว่าพวกเขา คุณทำงานได้ดีกว่าพวกเขาหรือเปล่า แล้วคุณจะทำให้เจ้านายของคุณ มองเห็นพรสวรรค์ของคุณได้อย่างไร พรสวรรค์และความสามารถของคุณจะทำให้คุณแตกต่าง หนังสือ "คุณสมบัติ 8 อย่างที่จะทำให้คุณโดดเด่นในที่ทำงาน" เล่มนี้จะทำให้คุณรู้ว่าจะโดดเด่นในที่ทำงานได้อย่างไรด้วยคุณสมบัติ 8 อย่างนี้
ประสิทธิภาพในการทำงาน-บริษัทไม่ได้สนใจแค่เพียงว่าคุณทำงานเสร็จเรียบร้อยเพียงเท่านั้น แต่เขาให้ความสนใจกับการใช้เวลาในการทำงานและมีประสิทธิภาพที่ดีของงานที่คุณทำด้วย ให้ความสำคัญกับผลลัพธ์-บริษัทจะสนใจแค่เพียงว่าคุณให้ประโยชน์อะไรกับบริษัทได้บ้าง ไม่ได้สนใจว่าคุณต้องผ่านความยากลำบากอะไรมาบ้าง การสื่อสาร-คนที่เป็นผู้นำที่ดี 90% สามารถมองเห็นได้จากทักษะการสื่อสารของเขา ทีมเวิร์ก-เจ้านายจะไล่คุณออกถ้าเกิดว่าคุณไม่สามารถทำงานเป็นทีมได้ไม่ว่าคุณจะเป็นพนักงานที่ดีแค่ไหนในบริษัท คุณจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้มากแค่ไหนขึ้นอยู่กับคุณสมบัติทั้งหมดเหล่านี้ มีคำพูดว่า ทักษะและความสามารถของคุณทำให้คุณมาอยู่ในตำแหน่งของคุณ และคุณสมบัติในการทำงานเหล่านี้จะช่วยทำให้คุณได้เปรียบในการแข่งขัน ทำให้คุณพิเศษ ไม่มีใครที่จะมาแทนที่คุณได้ แล้วคุณก็จะเป็นพนักงานที่ดีที่สุดในบริษัท คุณจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้มากแค่ไหน ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติทั้งหมดที่อยู่ในหนังสือ "คุณสมบัติ 8 อย่างที่จะทำให้คุณโดดเด่นในที่ทำงาน" เล่มนี้
 
2. วิธีสร้างพลังใจสู้ชีวิต และมีวินัยในตนเอง เพื่อก้าวสู่เป้าหมายที่ตั้งใจ
หนังสือเล่มนี้สอนในเรื่องขั้นตอนและวิธีการที่เข้าใจง่าย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความอดทน การวางแผน การสร้างความเข้าใจในความปรารถนาของตน การแบ่งปัญหาออกเป็นส่วนย่อยๆ การฝึกตนให้คิดบวกขจัดความคิดลบ และค้นหาความแข็งแกร่งที่มีอยู่ในตัวตนของเรา ซึ่งผลลัพธ์ได้คือการมีชีวิตที่ดี และประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ หนังสือ "วิธีสร้างพลังใจสู้ชีวิต และมีวินัยในตนเอง เพื่อก้าวสู่เป้าหมายที่ตั้งใจ" เล่มนี้เป็นหนังสือดี มีเนื้อหากระชับ จับแต่ประเด็นสำคัญๆ มานำเสนอผ่านการ์ตูนก้างปลา ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถก้าวสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ และมีชีวิตที่ดีได้ตลอดไป
พลังใจ คือปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จ พูดอีกนัยหนึ่งคือการมีพละกำลังที่จะลงมือทำ หรือละเว้นการกระทำ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายไม่ว่าเป้าหมายจะเป็นอะไรก็ตาม พอถึงเวลาคุณจะรู้ตัวและลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง และมีบางเวลาที่เราต้องหลีกเลี่ยงที่จะทำอะไรสักอย่าง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีพลังใจมากพอที่จะขับเคลื่อนให้คุณลงมือทำตามความคิดนั้นได้หรือไม่
เป้าหมายของเราคือ สอนคุณในสิ่งที่เราได้เรียนรู้มา เราหวังใจว่าเราจะนำเสอนไอเดียที่ช่วยให้คุณนำไปปรับใช้ในการพัฒนาพลังใจของคุณเพื่อให้คุณสามารถทำเป้าหมายได้สำเร็จ "คุณสมบัติหนึ่งอย่างที่แยกคนคนหนึ่งให้โดดเด่นออกจากกลุ่ม ไม่ใช่ความสามารถพิเศษ การศึกษา หรือความฉลาดระดับอัจฉริยะ หากคือ เรื่องวินัยในตนเอง ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ส่งผลให้คนคนหนึ่งทำตามสิ่งที่ปรารถนาได้ ในขณะที่อีกหลายคนยังจมปลักอยู่กับความขาดแคลน เมื่อเรามีวินัยในตนเองแล้ว ทุกอย่างก็เป็นไปได้ หากปราศจากวินัยในตนเองแล้ว ทุกอย่างก็เป็นไปได้ หากปราศจากวินัยในตนเอง แม้กระทั่งเป้าหมายง่ายๆ ก็ดูแทบเป็นไปไม่ได้เลย"
 
3. เทคนิคตั้งค่าสมอง ของคนที่ประสบความสำเร็จ Train Your Brain for Success
"ไม่ต้องฉลาด.. คุณก็คิดเก่ง จำแม่น อ่านเกมขาดได้" วิธีคิดแบบนี้หมายความว่าการประสบความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเวทมนตร์ โชคช่วย หรือสถานการณ์เป็นใจ แต่เป็นเพราะสิ่งที่คุณคิดและสิ่งที่คุณทำ ลองอ่านเป้าหมายที่คุณเขียนแล้วตอบดูว่าเคยมีคนทำสำเร็จมาก่อนไหม ผมแทบไม่เคยเจอใครตอบว่าไม่มีเลย ไม่ว่าเป้าหมายของคุณจะเป็นอะไร ย่อมต้องมีคนเคยทำสำเร็จมาแล้ว และนี่ก็คือข่าวดีสำหรับคุณ ถ้ามีคนเคยประสบความสำเร็จในสิ่งที่คุณตั้งเป้าไว้ ก็มั่นใจได้เลยว่าพวกเขาไม่ได้เก่งหรือโชคดีไปกว่าคุณ แต่พวกเขาทำได้เพราะมีวิธีคิดและทำอะไรบางอย่างที่ต่างออกไป หากคุณคิดและทำแบบเดียวกับพวกเขา คุณก็จะประสบความสำเร็จได้แน่นอน จำไว้ว่าความสำเร็จย่อมทิ้งเบาะแสไว้ ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นจากตรงไหน คุณก็สามารถก้าวไปสู่จุดที่คุณต้องการได้ พูดอีกอย่างก็คือ หากคุณต้องการไปถึงเป้าหมายให้เร็วที่สุด ลองมองหาบุคคลต้นแบบที่เคยทำสิ่งนั้นสำเร็จมาแล้วและทำตามเขา คุณก็จะบรรลุเป้าหมายได้เร็วและง่ายดายมากขึ้น และคุณจะพบเทคนิคดีๆในหนังสือ "เทคนิคตั้งค่าสมอง ของคนที่ประสบความสำเร็จ" เล่มนี้
 
4. 1 นาที ฝึกมองคนให้ทะลุ
ฝึกฝนให้ตัวเองมี "ดวงตาที่มองทะลุจิตใจคน" ได้อย่างไรกันนะ พวกเราแค่คอยพิจารณาและศึกษาสิ่งต่างๆ รอบตัวในแต่ละวัน หมั่นสั่งสมประสบการณ์ จึงจะเข้าใจวิธีดูคนให้ออก เข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อน ข้อดีและข้อเสียของอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว ผ่านการสนทนากันเพียงชั่วขณะสั้นๆ เท่านั้น หนังสือ "1 นาที ฝึกมองคนให้ทะลุ" เล่มนี้จะกล่าวถึงหลักจิตวิทยาและหลักสังคมศาสตร์ โดยอ้างอิงตัวอย่างจากสถานการณ์จริง ข้อสรุป และตัวอย่างจำนวนมากประกอบกัน ถือเป็นหนังสือจิตวิทยาที่อ้างอิงหลักวิทยาศาสตร์มาอธิบายวิธีมองคน วิธีแบ่งประเภทคน วิธีจูงใจคน ส่งผลให้สามารถปรับตัวไปตามสถานการณ์ต่างๆ ได้ ผู้เขียนเชื่อว่า ผู้ที่อ่านและเข้าใจเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้จะกลายเป็นผู้ที่มีสายตามองทะลุจิตใจคนอย่างแน่นอน
ในชีวิตเรา "การมองคน" เป็นวิชาชีวิตที่สำคัญมาก เพราะพวกเราต้องพบปะกับผู้คนมากหน้าหลายตา เพื่อไม่ให้ผู้อื่นหลอกใช้ความรู้สึกและผลประโยชน์จากเรา พวกเราต้องแยกแยะผู้คนที่อยู่ข้างตัวเราให้ออก อย่าให้คนหลอกลวงแสร้งทำตัวเป็นเพื่อนเรา และอย่าให้เพื่อนเราถูกใส่ความจนกลายเป็นศัตรู การไม่ระมัดระวังจนมองคนผิด จะก่อให้เกิดความเจ็บปวดและเสียใจภายหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเจ็บปวดทางจิตใจ แค่มองคนผิดพลาดเพียงครั้งเดียว อาจต้องตกอยู่ในคุกแห่งความเจ็บปวดตลอดชีวิต ไม่อาจหลุดออกมาได้ แม้จะรู้ว่าตัวเองมองคนผิดไปแล้วก็ตาม...
 
5. สานสัมพันธ์ด้วยสันติ
หนังสือเล่มนี้คือหนังสือที่เสนอวิธีการแก้ไขความขัดแย้งโดยใช้การสื่อสารที่มีพลัง ซึ่งมาร์แชลผู้บุกเบิกได้ตั้งชื่อว่า การสื่อสารอย่างสันติส่วนเรื่องการแก้ไขความขัดแย้งนั้น ขออ้างถึงหนังสือเล่มหนึ่งที่ใช้สอนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งสรุปความว่า วิธีแก้ไขความขัดแย้งมี 3 วิธีคือ 1 หนี (หน้า) หรือ Flight 2 สู้หรือ Flight 3 Work it out พอดีกับที่มาร์แชลได้เขียนหนังสือเล่มนี้ โดยตั้งชื่อว่า We can work it outซึ่งถอดความเป็นภาษาไทยโดย "ไพรินทร์ โชติสกุลรัตน์" โดยมีความหมายในภาษาไทยว่า เราสามารถแก้ไขความขัดแย้งได้ถ้าเราสื่อสารกันอย่างสันติ
 
6. แค่อ่านหนังสือถูกวิธีก็เป็นคนหัวดีได้
หนังสือ "เรียนเก่งได้ใน 66 วัน" ติด 1 ใน 10 อันดับหนังสือขายดีในหมวดหนังสือเรียนของเกาหลี เป็นหนังสือที่จุดความหวังให้ใครก็ตามมีกำลังใจในการเรียนมากขึ้น เนื้อหาในเล่มตอบทุกความต้องการของเด็กในยุคปัจจุบันที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง เน้นการท่องจำเป็นหลัก ผู้เขียนจึงแนะนำวิธีการอ่าน/ทบทวน/เรียน
คะแนนดีเกิดจากการเรียนที่ถูกวิธีไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครหัวดีหรือหัวไม่ดี ให้โอกาสตัวเองอีกครั้ง ลองเปลี่ยนวิธีเรียนใหม่ และสร้างนิสัยเรียนเก่งด้วยหลักการง่ายๆ วิเคราะห์เนื้อหาโดยรวมจากย่อหน้าแรก วิธีท่องจำสามเด้ง จง "อ่าน พูด เขียน" เขาจดโน้ตกันแบบนี้ แค่เลือกสีปากกาเป็นก็ช่วยให้เรียนเก่งแล้ว เชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เก่า อย่าวางแผนเกินตัว นอนวันนี้ ตื่นพรุ่งนี้ อย่าหามรุ่งหามค่ำ อย่ามัวขยันแค่อ่าน จงขยับทดสอบด้วย เรียนเก่งได้ด้วยตัวเองแบบไม่เหนื่อย ไม่กดดัน ไม่โต้รุ่ง ด้วยโปรแกรมฝึกนิสัยให้เป็นคนหัวดีภายใน 66 วัน ในหนังสือ "แค่อ่านหนังสือถูกวิธีก็เป็นคนหัวดีได้" เล่มนี้ช่วยคุณได้
 
7. ปลาวาฬไม่ไปทำงาน
ชีวิตเป็นเรื่องธรรมดาที่สุด เท่าที่จะคิดได้ เพราะประสบการณ์ของคนๆ หนึ่งอาจคือประสบการณ์ที่คนๆ อื่นได้ผ่านมา เรื่องเล่าจากปลาวาฬ ที่กลั่นกรองจากประสบการณ์การทำงานตรง และประสบการณ์จากผู้คนรอบข้าง ในโลกการทำงาน แห่งแฟนตาซี ที่คนทำงานต่างแปลงร่างกลายเป็น หอย กวาง ราชสีห์ ปลาหมึกฯ และต่างพยายามพัฒนาสายพันธุ์สูงๆ ขึ้นไป เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ให้อยุ่รอด ปลาวาฬไม่ได้แนะนำ วิธีการที่จะพาท่านสู่การเป็นท๊อปขององค์กร แบบหนังสือฮาวทู หากแต่ร่วมแบ่งปันความสุข ทุกข์ กับเพื่อนที่กำลังมีชีวิตอยู่ในโลกใบเดียวกัน บนเส้นทางที่ผ่านมา ที่เมื่อมองย้อนกลับไปเพียงเรื่องๆ หนึ่งที่ผ่านพ้นไป และเมื่อมองลงบนพื้นดินก็พบว่ามีรอยเท้าของผู้ที่เคยมาเส้นทางนี้มากมาย ก็ชีวิตเป็นเรื่องธรรมดาที่สุดเท่าที่จะคิดได้ มายิ้มกว้างๆ แบบ "ปลาวาฬไม่ไปทำงาน" กันดีกว่า
 
8. ทำไมคนจนยิ่งจนคนรวยยิ่งรวย
ทุกคนต่างก็หวังอยากจะร่้ำรวย แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นได้ดังที่หวัง ทุกคนต่างก็หวังอยากจะร่ำรวย แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นได้ดังที่หวัง เพราะในความเป็นจริงแล้ว คนจนกลับยิ่งจน ส่วนคนรวยกลับยิ่งรวย เพราะเหตุใด หรือว่าความจนกับความรวยถูกลิขิตมาแล้วทำไมบางคนถึงเป็นเศรษฐี แถมยังร่ำรวยขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งเรื่องราวแฝงสติปัญญาไร้ที่สิ้นสุด คนที่ยังไม่ร่ำรวยควรจะเรียนรู้จากบุคคลที่ประสบความสำเร็จ เพื่อจะได้พบหนทางสร้างความร่ำรวยจากเรื่องราวของพวกเขา และจดจำแนวคิดของคนรวยให้ขึ้นใน ถ้าคุณเปลี่ยนความคิดของตัวเอง และวิเคราะห์ปัญหาเหมือนกับคนรวยเหล่านั้น รวมถึงพยายามมุ่งมั่นไม่ท้อถอย เชื่อว่าสักวันหนึ่งคุณจะกลายเป็นสมกชิกคนหนึ่งในกลุ่มคนรวย ในหนังสือ "ทำไมคนจนยิงจนคนรวยยิ่งรวย" เล่มนี้
 
9. จิตวิทยาครอบครัว FAMILY PSYCHOLOGY
หนังสือเล่มนี้จะช่วยเหลือพ่อแม่ที่มีลูกในวัยต่างๆ กัน การวิจัยทางคลินิกชี้ให้เห็นชัดเจนว่าวิธีแบบ ใครๆ ก็ใช้ได้ นั้นไม่ได้ผล วิธีแก้ไขที่ได้ผลกับเด็กมากที่สุดนั้นต้องให้พ่อแม่มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงด้วย หนังสือ จิตวิทยาครอบครัว เล่มนี้จะช่วยให้พ่อแม่สำรวจปฎิกิริยาของตัวเองต่อปัญหาทางด้านพฤติกรรมของเด็ก เช่นเดียวกับทึ่จะเสนอแนะให้เข้าใจความคิดอ่านของเด็ก เมื่อพ่อแม่ขอคำแนะนำเพื่อปรับปรุงปฏิสัมพันธ์กับลูกก็จำเป็นต้องระลึกถึงแนวคิดหลักสี่ข้อให้ดี ติดตามหลักสี่ข้อแนวคิดปฏิสัมพันธ์ได้ในเล่มนี้
พบกับวิธีการรับมือกับลูกหลานที่กลายเป็นคนที่ชอบพูดปด ลักขโมย ขบถหัวดื้อ แม้แต่การระเบิดอารมณ์และอาละวาด ไปจนถึงแก้ปัญหาความวิตกกังวล รวมถึงความหวาดกลัว และการทำร้ายตัวเองของเด็ก พิจารณาถึงปัจจัยที่ทำให้เกิด เรื่องราวต่างๆ ซึ่งเรามองข้ามไป โดยศึกษาจากกรณีตัวอย่างที่มาจากประสบการณ์ตรงของ เจมส์ เอ. พาวเววล์
นักจิตวิทยามากความสามารถ หนังสือเล่มนี้ช่วยเหลือพ่อแม่ผู้ปกครองรับมือกับลูกๆ ในวัยที่ต่างกันด้วยวิธีที่เหมาะสม เพื่่อช่วยให้เราสามารถเลี้ยงดูลูกให้เติบโตขึ้นอย่างมีความสุข และมีความมั่นคงทางอารมณ์
 
10. เปลี่ยนแค่ 1% ชีวิตดีขึ้น 100%
พัฒนาแค่ 1% ก็เป็นเลิศได้ในทุกๆ ด้านเทคนิคทำน้อยได้มาก ที่เห็นผลทันทีทั้งเรื่องงานและชีวิต จากนัเขียนขายดีของ New York Times