สวัสดี บุคคลทั่วไป

หนังสือวรรณกรรมไทย ความงามในการใช้ภาษา

  • 0 ตอบ
  • 353 อ่าน

 
วรรณกรรม หมายถึง วรรณคดีหรือศิลป์ ที่เป็นผลงานอันเกิดขึ้นได้เพราะการคิด แล้วก็จินตนาการ แล้วเรียบเรียง นำมาบอก บันทึก ขับขาน หรือสื่อออกมาด้วยกลวิธีต่างๆโดยทั่วไปแล้ว จะแบ่งวรรณกรรมเป็น 2 ประเภทเป็นวรรณกรรมลายลักษณ์ เป็นวรรณกรรมที่บันทึกเป็นตัวหนังสือ แล้วก็วรรณกรรมมุขปาฐะ อย่างเช่นวรรณกรรมที่เล่าด้วยปาก ไม่ได้เขียนบันทึก
 
ด้วยประการฉะนี้ วรรณกรรมก็เลยสื่อความหมายครอบคลุมกว้าง ถึงเรื่องราว นิทาน ตำนาน เรื่องเล่า ขบขัน เรื่องสั้น นิยาย เพลง คำคม ฯลฯ วรรณกรรมเป็นผลงานศิลปะที่แสดงออกด้วยการใช้ภาษา เพื่อการสื่อสารเรื่องราวให้รู้เรื่องระหว่างมนุษย์ ภาษาเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างสรรค์ รวมทั้งประดิษฐ์ขึ้นเพื่อใช้สื่อความหมาย เรื่องราวต่างๆภาษาที่มนุษย์ใช้เพื่อการติดต่อและทำการสื่อสารตัวอย่างเช่น
 
1. ภาษาพูด โดยการใช้เสียง
2. ภาษาทางการ โดยการใช้ตัวอักษร ตัวเลข เครื่องหมาย แล้วก็ภาพ
3. ภาษาท่าทาง โดยการใช้กิริยาท่าทาง หรือประกอบวัสดุอุปกรณ์อันอื่น
 
ความงามหรือศิลปะสำหรับเพื่อการใช้ภาษาขึ้นอยู่กับ การใช้ภาษาให้ถูก ชัดเจนแล้วก็ เหมาะสมกับเวลา จังหวะ แล้วก็บุคคล นอกเหนือจากนั้น ภาษาแต่ละภาษายังสามารถปรุงแต่ง ให้เกิดความเหมาะสม ไพเราะ หรือสวยงามได้ นอกจากนี้ ยังมีข้อบังคับ คำราชาศัพท์ คำสุภาพ ขึ้นมาใช้ได้อย่างเหมาะควร บ่งบอกถึงวัฒนธรรมที่ยอดเยี่ยมทางการใช้ภาษาที่ควรดำรงและถือมั่นต่อไป ผู้สร้างสรรค์งานวรรณกรรม เรียกว่า ผู้เขียน หรือ กวี (Writer or Poet)
 
วรรณกรรมไทยปัจจุบัน (Contemporary literature)
 
วรรณกรรมไทยตอนนี้นั้นหมายความว่า วรรณกรรม ในรูปแบบใดก็ตามไม่ว่าจะเป็นร้อยแก้ว หรือร้อยกรอง ซึ่งขอบเขตของวรรณกรรมตอนนี้นั้นเริ่มตั้งแต่สมัยเริ่มต้นของวรรณกรรมร้อยแก้ว คือ ตั้งแต่ยุค รัชกาล ที่ 5 พุทธศักราช 2442 จนกระทั่งปัจจุบันนี้ (พ.ศ. 2553)
 
วรรณกรรมประเภทร้อยแก้วในตอนนี้จะอยู่ในรูปของ บันเทิงคดี อาทิเช่น เรื่องสั้น นิยาย นิทาน บทละคร สารคดียกตัวอย่างเช่น บทความ หนังสือวิชาการ งานศึกษาค้นคว้าวิจัย ฯลฯ
 
วรรณกรรมชนิดร้อยกรองในตอนนี้เป็นวรรณกรรมที่แตกต่างจากเดิมเป็นเป็นวรรณกรรมที่ไม่เน้นในเรื่องวรรณศิลป์ทางภาษามากสักเท่าไรนัก ไม่เน้นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาษาแต่เน้นในเรื่องเกี่ยวกับการสื่อแนวคิด สื่อข้อคิดแก่นักอ่านมากกว่า ตัวอย่างเช่น ใบไม้ที่หายไป ของ จิรนันท์ พิตรปรีชา อื่นๆอีกมากมาย
 
วรรณกรรมไทย แบ่งออกได้ 2 ชนิด เป็น
 
1. ร้อยแก้ว เป็นเนื้อความเรียงที่แสดงเนื้อหา เรื่องราวต่างๆ
2. ร้อยกรอง เป็นเนื้อความที่มีการใช้คำที่สัมผัส สอดคล้อง ทำให้สัมผัสได้ถึงความงามของภาษาไทย ร้อยกรองมีหลายแบบเป็นโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน รวมทั้ง ร่าย
 
วรรณกรรมปรากฏขึ้นหนแรกในพ.ร.บ.คุ้มครองวรรณกรรมแล้วก็ศิลปกรรม พุทธศักราช 2475 คำว่า วรรณกรรม บางทีอาจเทียบได้กับคำภาษาอังกฤษว่า Literary work หรือ general literature ความหมายแปลตามรูปศัพท์ว่า ทำให้เป็นหนังสือ ซึ่งมองตามความหมายนี้แล้วจะเห็นว่ากว้างขวางมาก ซึ่งหมายถึงการเขียนหนังสือจะเป็นใจความสั้นๆ หรือเรื่องราวสมบูรณ์ก็ได้ ได้แก่ ประเด็นหลักที่เขียนตามใบปลิว ป้ายสำหรับโฆษณาต่างๆ ตลอดไปจนกระทั่งบทความ หรือ หนังสือที่พิมพ์เป็นเล่มทุกประเภท อย่างเช่น หนังสือตำราต่างๆ นิยาย กาพย์ กลอนต่างๆ ก็ถือเป็นวรรณกรรมทั้งหมด จากลักษณะกว้างๆ ของวรรณกรรม สามารถบ่งชี้ถึงคุณค่ามากน้อยของวรรณกรรมได้โดยขึ้นกับ วรรณศิลป์ คือ ศิลปะสำหรับในการแต่งหนังสือนั้นเป็นหลัก ถ้าเกิดวรรณกรรมเรื่องใดมีคุณค่าทางวรรณศิลป์สูง เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าเป็นหนังสือดี วรรณกรรมก็อาจได้รับเชิดชูว่าเป็น วรรณคดี แม้กระนั้นการที่จะระบุว่า วรรณกรรมเรื่องใดควรเป็นวรรณคดีหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาถึงตอนที่เขียนหนังสือนั้นนานเหมาะสมด้วย เพื่อพิสูจน์ว่าค่าของวรรณกรรมนั้นเป็นอมตะ เป็นที่ยอมรับกันทุกยุคทุกสมัยหรือเปล่า เนื่องจากอาจมีวรรณกรรมบางเรื่องที่ดีเหมาะสมกับช่วงเวลาเพียงแต่บางช่วงแค่นั้น ด้วยเหตุนั้นบางทีอาจสรุปได้ว่า วรรณคดีซึ่งก็คือวรรณกรรมนั่นเอง กล่าวคือ เป็นวรรณกรรมที่พิจารณารวมถึงตกแต่งให้พิถีพิถัน มีความเหมาะสมในด้านต่างๆ อันเป็นคุณประโยชน์ของการประพันธ์ หรือจะกล่าวคือ วรรณคดีนั้นเป็นวรรณกรรมไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นวรรณคดีเสมอไป
 
ชนิดของวรรณกรรม วรรณกรรมนี้แบ่งได้ 2 ประเภท
 
- สารคดี หมายถึง หนังสือที่แต่งขึ้นเพื่อมุ่งให้ความรู้ความเข้าใจ ความนึกคิด ประสบการณ์แก่ผู้อ่าน ซึ่งบางทีอาจใช้ต้นแบบร้อยแก้วหรือร้อยกรองก็ได้
- บันเทิงคดีเป็นวรรณกรรมที่แต่งขึ้นเพื่อมุ่งให้ความสนุกสนาน เบิกบาน ร่าเริงแก่นักอ่าน ก็เลยมักเป็นเรื่องที่มีเหตุการณ์และก็นักแสดง
 
 
 

 
10 หนังสือขายดีวรรณกรรมหรือนวนิยายไทยที่ดีที่สุด ที่ ร้านหนังสือนายอินทร์
 
ซึ่งนิยาย 10 เรื่องที่ ร้านหนังสือนายอินทร์ จัดตามอันดับความโด่งดังหรือยอดจำหน่าย มีดังนี้
 
1. เจิ้นก็ยังคงสง่าผ่าเผยอย่างนี้แหละ เล่ม 1-2 - กงจื่ออจ้าน (Gong Zi Zhan)
จากคนธรรมดาๆ ที่ต้องจากโลกนี้เมื่ออายุยังไม่ทันถึงวัยยี่สิบสี่ กลับมาเกิดใหม่ย้อนเวลาทะลุมิติมาอยู่ในร่างของเยียนจี้ หวงตี้แห่งต้าฉี่ที่เพิ่งจะขึ้นครองราชย์ในวัยสิบหก แต่ว่าที่น่าปวดหัวกว่านั้นคือ เขากลับต้องตายก่อนอายุครบยี่สิบสี่แล้วก็ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในร่างเยี่ยนจี้ตอนพึ่งครองบัลลังก์ครั้งแล้วครั้งเล่าอีกถึงสามชาติ.. ไม่ต้องบอกคงจะรู้ดีว่ามันช่างน่าเบื่อหน่าย แค่ไหนกับการจะต้องย้อนมาพบพานสิ่งที่ซ้ำจากจำเจเช่นนี้ แต่ในชาติที่ห้า ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป หลายๆ ตัวละครจะเข้ามามีบทบาทที่สำคัญกับชีวิตของเขามากขึ้น ทุกๆ เรื่องราว ทุกๆความเกี่ยวข้องในเรื่องนี้จะมีผลให้คุณรัก เฮฮา รวมทั้งประทับใจน้ำตาซึม เรื่องบางสิ่งที่หล่นหายไป ความรู้ความเข้าใจของตัวเอก การรับมือรวมทั้งการมองโลกที่เปลี่ยนไปตลอดจนความรักที่ถักทอขึ้นใหม่ บางทีทั้งหมดเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เยี่ยนจี้หยุดวงจรการกลับมากำเนิดใหม่นี้ได้ เขาจะมีชีวิตผ่านอายุยี่สิบสี่หรือไม่ มาร่วมลุ้นในนิยาย "เจิ้นก็ยังคงสง่าผ่าเผยอย่างนี้แหละ" และก็ประทับใจกับความน่ารักน่าเอ็นดูน่าชังของตัวละครกันเลย
 
2. ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม - โม่เป่าเฟยเป่า
ชั่วชีวิตนี้ "สืออี๋" เคยทำเรื่องแปลกที่สุดเรื่องหนึ่งคือ วิ่งฝ่าเจ้าหน้าที่มากมายเพื่อเข้าไปทักชายไม่รู้จักคนหนึ่งที่ท่าอากาศยาน ครั้งแรกที่เธอเจอเขาคือที่ฉางอานเมื่อหลายร้อยปีก่อน เขา.. คือ ท่านอ๋องน้อยหนานเฉินผู้ห้าวหาญเทียมฟ้า เธอ.. คือว่าที่พระชายาขององค์รัชทายาทผู้งามล่มเมือง เพียง "นัยน์ตาสื่อรัก ใจประสานใจ" ประโยคเดียวทำให้โชคชะตาของพวกเขามีอันจะต้องเปลี่ยน แม้กระนั้นคราวนี้ แม้กาลเวลาจะมีผลให้ใบหน้าและเสียงของเขาเปลี่ยน แต่ว่าเธอยังคงจดจำเขาได้ เธอเป็นเพียงคนเดียวที่มีความจำของชาติก่อน แต่ว่าเขากลับจำเธอไม่ได้อย่างสิ้นเชิง "โจวเซิงเฉิน" สามคำนี้ทำให้ความรู้สึกอ่อนโยนที่สุดพรั่งพรูออกมาจากส่วนลึกของหัวใจเธอ การร่วมเผชิญกับแผนการร้าย การใส่ร้าย และก็การต่อสู้แย่งชิง ทำให้หัวใจของเขากับเธอค่อยๆ สนิทสนมกัน ตลอดชีวิตนี้เธอเพียงต้องการเรื่องราวที่เป็นของพวกเขาอย่างแท้จริงหาได้สนใจความร่ำรวยหรือการเดินคู่กับจักรพรรดิ์ไม่ พบกับเรื่องราวความรักที่มั่นคงของสองวัยรุ่น การแย่งชิง อำนาจ การฆาตกรรม ได้ใน "ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม"
 
3. บุพเพรักหลานหลิง เล่ม 1-2 - ปาสี่
เขา..เก็บหน้ากากปีศาจที่นำพาพลังลึกลับมาให้ เขาทำศึกเพื่อปกป้องแว่นแคว้น ทุกคนเรียกขานเขาว่า เทพสงคราม เขาพานพบเด็กหญิงขายดอกบัวผู้มีปานแดงกลางหน้าผาก และจารจำนางผู้เป็นที่รักไว้ในใจ ยิ่งพรากจาก ยิ่งมิอาจลืมเลือน
นาง..เด็กหญิงกำพร้าในหอคณิกา มีชีวิตรอดเพราะอาจารย์ชุบเลี้ยง นางแฝงตัวเข้าแคว้นศัตรูเพื่อตอบแทนคุณอาจารย์ แม้จะต้องได้ชื่อว่าเป็นศัตรูกับบุรุษที่นางเฝ้าถวิลหาก็ตาม นางถลำลึกจนยากถอนตัว ยิ่งหักห้ามใจ ยิ่งรักไม่เสื่อมคลาย
ท่ามกลางสงครามแย่งชิงระหว่างแคว้น ทางแยกระหว่างความรักและบุญคุณ บุพเพรักของพวกเขาจะขับขานจนถึงท่วงทำนองสุดท้าย
 
4. มนตร์ทศทิศ - ราตรี อธิษฐาน
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อเดินทางไปสักการะพระธาตุอินทร์แขวนส่งให้เอื้องดาวเรียงย้อนกลับไปในอดีตกาล ณ หงสาวดี เมืองทองที่เป็นดั่งดวงหฤทัยของผู้ที่ถูกขนานนามว่า พระเจ้าสิบทิศ แต่เมืองทั้งเมืองใช่ว่าจักมีแต่พระนามขององค์ประมุขผู้นี้เพียงเท่านั้น ภายในพระราชวังกัมโพชธานี สถานที่นี่ยังมีเรื่องราวมากมายที่ไม่อาจจารึกลงไว้ในประวัติศาสตร์
 
5. รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ เล่ม 2 - เมิ่งซีสือ
มีโอกาสได้สร้างผลงานต่อเบื้องพระพักตร์ทั้งที ถ้าเป็นขุนนางคนอื่นๆอาจเนื้อเต้นด้วยความยินดี จบงานนี้ได้เลื่อนขั้น แต่ถังฟั่นแตกต่างจากขุนนางทั่วๆ ไป แทนที่จะชอบใจ กลับปวดขมับกลัดกลุ่มสิไม่ว่า เฮ้อ! เขาก็อยู่เงียบๆของเขาดีๆ แล้วเชียว สุยโจวมีเหตุกะทันหันให้ต้องไปจากเมืองหลวงเสียด้วย แต่ข้างกายถังฟั่นก็ใช่ว่าจะว่างลง เพราะผู้ที่เข้ามาเสียบแทน สวมบทคู่ขาเป็นการชั่วคราว ก็คือคุณท่านวังจื๋อผู้แสนจะเจ้ากี้เจ้าการเอาใจยากนั่นเอง คนคนนี้เปิดตัวมาแสนจะน่าหมั่นไส้ แต่ว่าอ่านไปอ่านมาก็มีมุมน่ารักๆ เหมือนกัน "รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่" ล่วงมาถึงเล่มสองแล้ว มาติดตามดูความก้าวหน้า ในด้านอาชีพการงานของ "ถังฟั่น" ควบคู่ไปกับแอบมองความสัมพันธ์ที่ใต้เท้าผู้พิพากษาของเรามีต่อผู้คนรอบตัวกันต่อได้เลย
 
6. ปีศาจราตรี - จิ่วลู่เฟยเซียง
ถ้าเกิดย้อนไปยุคเราเด็กๆ เวลาเดินทางไปต่างถิ่น หรือที่ที่พวกเราไม่รู้จัก คนแก่ชอบเตือนเสมอว่าอย่าไปคุยกับคนที่ไม่รู้จักหรือไปเก็บนั่นเก็บนี่กลับมา เพราะบางทีก็อาจจะเป็นของสกปรก เป็นของผิดสำแดงอาจมีเบื้องลึกภูมิหลังที่พวกเราไม่รู้เรื่องแล้วก็นำภัยมาสู่เราได้แต่ว่า "หลีซวง" นางเอกปีศาจราตรีเล่มนี้ ของเราไม่เชื่อคำเตือนประเภทนี้นัก นางไม่ตั้งใจเก็บเด็กผู้ชายความจำเสื่อมคนหนึ่งได้ระหว่างปฏิบัติภารกิจ เนื่องจากว่าเด็กบาดเจ็บรวมทั้งตัวคนเดียว นางก็เลยนำกลับมาเลี้ยงในค่ายทหาร ซ้ำยังตั้งชื่อใหม่ให้เขาอีกด้วย หลังจากเด็กคนนี้เข้ามาในค่าย เรื่องราวแปลกๆ หลายเรื่องก็ค่อยๆ ทยอยเกิดขึ้น มาถึงตรงนี้คนอ่านคงเริ่มสงสัยนิดๆ แล้วสิว่าเด็กคนนี้เป็นใครมาจากไหน จะแต่งเรื่องอะไรไว้บ้าง นี่จะเป็นนิยายจำพวกกลับชาติมาเกิด ย้อนเวลา หนึ่งร่างสองวิญญาณหรือเปล่า แต่มันแปลกยิ่งกว่านั้น
 
7. วิวาห์ไฮโซ เล่ม 2 - Jian Jia Ni Zi (เจียนจยาหนีจื่อ)
ลูกนอกสมรสของตระกูลเมิ่ง มีชะตาชีวิตอยู่สองแบบ แบบที่หนึ่งคือ 'มีประโยชน์' แล้วก็ถูกใช้ประโยชน์จนตาย แล้วก็แบบที่สอง 'ไร้ประโยชน์' หรือเป็นขยะรีไซเคิล เมื่อได้กลับมาเกิดใหม่อีกที เมิ่งถิงจึงเลือกแบบที่สอง อย่างไม่ลังเล ผลก็คือ เขาโดนจับสมรส! พบกับเรื่องราวน้องซื่อ แต่แอบร้าย แล้วก็เล่มสองยิ่งเพิ่มความร้ายอย่างสม่ำเสมอร้ายแบบซื่อๆจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ใน "วิวาห์ไฮโซ เล่ม 2"
 
8. วิวาห์ไฮโซ เล่ม 1 - Jian Jia Ni Zi (เจียนจยาหนีจื่อ)
ความซื่อของเมิ่งถิงไม่เพียงแค่ทำให้เยืยนซุยหลง แต่ยังช่วยให้เมิ่งถิงเอาชีวิตรอดมาได้ทุกเหตุการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาปะทะกับแม่สามี และอาวุูธที่สำคัญอีกอย่างของเมิ่งถิงคือความเงียบ แต่ว่าอย่ารู้สึกว่าเมิ่งถิ่งใช้ความเงียบสงบสยบความเคลื่อนไหวอะไรเทือกนั้น จริงๆ เขาเพียงแค่สมองช้า คิดตอบโต้ไม่ทัน แต่ว่าศัตรูดันทนความเงียบไม่ไหว ชิงระเบิดตัวเองตายไปซะก่อนเพราะเหตุนี้ เมิ่งถิงเลยชนะทุกที ชนะแบบที่เจ้าตัวยังมึนงง พบกับ "วิวาห์ไฮโซ เล่ม 1" ในเล่มได้เลย
 
9. รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ เล่ม 1 - เมิ่งซีสือ
ถังฟั่น มีชื่อรองว่า "รุ่งชิง" อายุพึ่งยี่สิบก็สอบได้ลำดับที่หนึ่งของบัณฑิตเอกชั้นหนึ่ง เวลานี้ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษา ศาลซุ่นเทียน สมถะเรียบง่าย พอใจในสิ่งที่ตนมี พิถีพิถันก็แค่กับเรื่องอาหารเท่านั้น สุยโจว มีชื่อรองว่า "ก่วงชวน" นายกององครักษ์เสื้อแพรแห่งกองปราบฝ่ายเหนือ ไม่พูดไม่จาพูดน้อย ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ รากฐานครอบครัวไม่ธรรมดา มีความเกี่ยวพันทางเครือญาติพระพันปิองค์ปัจจุบัน พันปีน ผู้ว่าการศาลซุ่นเทียน เป็นทั้งผู้บังคับบัญชาของถังฟั่่นและก็ศิษย์พี่ เพราะว่ามีอาจารย์เป็นนักปราชญ์ขุนนางคนเดียวกัน พันปิไม่ใช่คนขลาด เกรงอิทธิพล เพียงแต่รักความเงียบสงบ รู้รักษาตัวรอดปลอดภัยไว้ก่อน
 
10. วิวาห์ไฮโซ เล่ม 3 - Jian Jia Ni Zi (เจียนจยาหนีจื่อ)
ลูกนอกสมรสของตระกูลเมิ่ง มีโชคชะตาอยู่สองแบบ แบบที่หนึ่งคือ 'มีประโยชน์' และถูกใช้ประโยชน์จนตาย แล้วก็แบบที่สอง 'ไร้ประโยชน์' หรือเป็นขยะรีไซเคิล เมื่อได้กลับมาเกิดใหม่อีกที เมิ่งถิงจึงเลือกแบบที่สอง อย่างไม่ลังเล ผลก็คือ เขาถูกจับสมรส! สาววายที่นิยมนายเอกนุ่มนิ่ม น่ารักน่าเอ็นดู กับพระเอกไทป์ alpha