สวัสดี บุคคลทั่วไป

กล้องถ่ายรูป VS กล้องถ่ายรูปโทรศัพท์เคลื่อนที่ ถ้าหากหนักห่างกันไม่กี่ขีด...แล้วคุณจักเลือกอะไร?

  • 0 ตอบ
  • 265 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
ครั้นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันน่ารำลึกจนจำต้องเก็บบันทึกออกมาเป็นรูปถ่าย และมันจักวิเศษขึ้นอีก เมื่อภายในภาพมีคนพิเศษอยู่ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่จะช่วยให้เราได้เก็บภาพความทรงจำดีๆเหล่านั้น นอกจากสมอง และหัวใจของเราแล้ว ก็ต้องเป็น "กล้องถ่ายรูป" นั่นเอง ซึ่งในยุคนี้ ใครต่อใคร ต่างก็มีโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีกล้องพร้อมกันมาด้วย เพื่อง่ายต่อการใช้งาน ไม่จำเป็นจะต้องสะพายกระเป๋ากล้องใบใหญ่ อีกทั้งยังมีความชัดมิได้แตกต่างไปจากกล้อง DSLR หรือ Mirrorless ซะทีเดียว แม้กระนั้นจริงๆ แล้วนั้นมันยังมีอะไรอีกมากหลายที่แตกต่างกันอยู่ไม่เบาเลยทีเดียว
 
อย่างเช่นเรื่องเซนเซอร์ เพราะด้วยกล้องถ่ายภาพจักมีเซนเซอร์ที่ใหญ่กว่าเซนเซอร์ของกล้องถ่ายรูปจากสมาร์ทโฟน ยิ่งขนาดเซนเซอร์ใหญ่เท่าไหร่ ก็จะเก็บแสงได้ดีกว่า ได้รายละเอียดปลีกย่อยภาพที่มากกว่า มีมิติเหนือกว่า รวมถึงทำให้ปรับความตื้นลึกของภาพได้อย่างมากมายมากกว่า เนื่องด้วยโทรศัพท์มือถืออาจจะทำได้ไม่ดีเท่ากล้องถ่ายภาพเท่าไรนัก และสิ่งเหล่านี้ยังส่งผลต่อคุณภาพของภาพที่ได้ด้วย อีกทั้งยังช่วยตัดทอน Noise หรือเม็ดสีที่แตกในภาพ ซึ่งครั้นเมื่อย้อนกลับมามาดูภาพจากกล้องถ่ายภาพสมาร์ทโฟนก็จะพบ Noise ยิ่งกว่าภาพจากกล้องถ่ายภาพทั่วไป นั่นก็ทำให้เห็นแล้วว่าเซนเซอร์จาก กล้องถ่ายรูปโทรศัพท์เคลื่อนที่เล็กกว่ากล้องถ่ายรูปทั่วไป
 
ถัดจากนั้นก็จะเป็น Optical zoom ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่ทำให้กล้องถ่ายรูปเหนือกว่ากล้องถ่ายภาพจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ หากเป็นการขยายของกล้องถ่ายภาพ ท่านสามารถปรับได้ตามความต้องการได้เลย โดยน้อยรายในหมู่แบรนด์สมาร์ทโฟนที่จะมีสรรพคุณนี้ เพราะว่าภาพบางภาพ ก็จำต้องใช้การขยายแบบ Optical เพื่อได้ความข้องเกี่ยวของวัตถุบนภาพที่ดีที่สุด รวมไปถึงหน่วยความจำก็ยังสำคัญ เหตุเพราะในมือถือของคุณอาจมีทั้งรูปภาพ เพลง ภาพยนตร์ หรือไฟล์วิดีโอ ซึ่งนั้นเป็นปัญหาแน่ๆ ถ้าหากคุณคิดว่าจะใช้กล้องโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพท่านตลอดทริปที่กินซ่าหรือพาคนรักท่องเที่ยว Universal Studios ก็เพราะว่าเธอคงจะไม่อยากมานั่งลบภาพถ่าย ลบเพลงโปรด ไม่ก็ลิสหนังโด่งดังของคุณหรอก แต่ถ้าหากยอมสะพายกล้องสักตัว พร้อมด้วยเมมรี่การ์ดสำรองสัก 2-3 อัน มั่นใจว่าเธอได้ทั้งรูปที่มากมาย และไฟล์วิดีโอตลอดทั้งทริปของท่านแน่นอน
 
นั่นคือข้อมูลขั้นแรกว่าเพราะเหตุใดพวกเราถึงต้องยอมสะพายกล้องตัวหนัก แล้วต้องยอมพักกล้องถ่ายภาพโทรศัพท์เคลื่อนที่ไว้ก่อน และอาจจะหยุดพักยาวๆ เลย หากได้รู้จักกับกล้องถ่ายรูปตัวนี้ นั่นก็คือ Olympus OM-D E-M10 III ซึ่งกล้องถ่ายภาพ Olympus ตัวนี้ เป็นรุ่นที่ 3 ในซีรี่ส์ OM-D โดยก่อนหน้าจะมีรุ่นพี่เป็น E-M5 และ E-M1 นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าตัวล่าสุด มันจะต้องดีกว่าตัวก่อนๆ แน่นอน เรามาดูจุดแข็ง ๆ ของกล้องถ่ายรูป Olympus OM-D E-M10 III ดีกว่าว่าคุ้มค่าต่อการพกพา ยิ่งกว่ากล้องโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือเปล่า
 
กล้องถ่ายภาพ Olympus OM-D E-M10 III เป็นกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ระบบ Micro Four Thirds ใช้เซนเซอร์ 4/3 Live MOS Sensor ความละเอียด 16.1 ล้านพิกเซล และให้ภาพที่ขนาดใหญ่สุดที่ 4608 x 3456 และ Ratio ที่เหมาะสมของภาพคือ 4:3 ซึ่งเซนเซอร์ที่ว่ามานี่อาจมิใหญ่มาก แต่ก็สามารถทำงานได้เป็นเป็นอันดี จุดเด่นของกล้องถ่ายภาพ Olympus ตัวนี้ ในความคิดส่วนตัวน่าจะเป็นเรื่องของการระบบกันสั่นของเขา เนื่องมาจากกล้องถ่ายภาพ Olympus รุ่นนี้ เป็นระบบกันสั่น 5 แกน สามารถลดการสั่นไหวได้ถึง 4 Stop โดยหากถ่ายด้วยความไวชัตเตอร์ที่ 1/10 วินาที แล้วถือถ่ายก็ยังทำได้ดีเลย
 
และด้วยความที่ต้องมี 3 สิ่งต่อไปนี้ ที่ทำให้ระบบกันสั่น 5 แกนทำงานได้ดี นั่นก็คือ เลนส์ เซ็นเซอร์รับภาพ และโปรเซสเซอร์ประมวลภาพ ซึ่งกล้อง Olympus ตัวนี้ใช้โปรเซสเซอร์ประมวลภาพ TruePic VIII จึงให้รูปถ่ายที่มีคุณภาพสูงงดงามแม้ในที่แสงน้อย โดยที่เธอไม่จำต้องตั้งค่า ISO สูงๆ ด้วย อีกทั้งยังป้องกันการเกิด Noise ด้วย และด้วยระบบกันสั่น 5 แกนนี้ ยังเป็นเหตุให้การบันทึกภาพยนตร์ของคุณมิเป็นปัญหาเช่นกัน โดยกล้องถ่ายรูป Olympus OM-D E-M10 III สามารถบันทึกภาพยนต์คุณภาพสูงถึง 4K เลยทีเดียว ที่ถึงแม้ว่าจะถือด้วยมือ และไม่ได้มีวัสดุอุปกรณ์เพิ่มเติมใดๆ ก็ยังให้ภาพที่ได้ออกมาราบรื่น ถ้าเกิดสั่นไหว ก็เกิดได้น้อยที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถแยกย่อยเฟรมเพื่อบันทึกภาพนิ่งจากวิดีโอ 4K ที่บันทึกไว้เช่นกัน

 จะเห็นว่านี่แค่จุดดีเรื่องเดียวของกล้องถ่ายรูป Olympus OM-D E-M10 III ก็ชนะกล้องถ่ายภาพสมาร์ทโฟนลอยลำแล้ว นอกจากนี้ยังมีคุณลักษณะหลากหลาย อีกมากมายก่ายกองเลยที่ยังมิได้กล่าวถึง อย่าง โหมดถ่ายภาพ Auto ที่ให้เจ้าปรับตั้งค่าตามที่เธอต้องการ หรือโหมดถ่ายภาพสำเร็จรูป Scene อีกทั้งโหมดถ่ายภาพขั้นสูง Advanced Photo ที่มีให้เลือกมากมาย ตัวอย่างเช่น Live Composite, Live Time และ ถ่ายภาพซ้อน เป็นต้น และโหมด Art Filter ซึ่งก็มีให้เลือกมากมายอยู่เช่นกัน เพื่อให้ภาพมีความน่าดึงดูดใจมากยิ่งขึ้น และข้อดีอีกอย่างของกล้องถ่ายรูป Olympus ตัวนี้ คือมีสัดส่วนที่เล็ก และพกพาสะดวกมาก ซึ่งมีน้ำหนักเฉพาะแค่บอดี้เพียง 362 กรัม เท่านั้นเอง ตัวนี้จึงสามารถลบคำสบประมาทที่ว่า "กล้องมันหนัก" ไปได้เลย
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : กล้อง olympus

Tags : Olympus,กล้อง olympus,olympus ราคา