สวัสดี บุคคลทั่วไป

Fujifilm บริษัทใหญ่ที่ไม่เคยโค่นล้ม

  • 0 ตอบ
  • 305 อ่าน
Fujifilm บริษัทใหญ่ที่ไม่เคยโค่นล้ม
« เมื่อ: กันยายน 11, 2018, 12:56:56 PM »
                ในบรรดากล้องถ่ายภาพดิจิตอลกับทั้งกล้องมิลเลอร์เลสที่กำลังฮิตในบ้านเราและแนวทางในทั่วโลกนั้น หากไม่เปรยแบรนด์ ฟูจิ ก็อาจเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง ในปัจจุบันนี้กล้องฟูจิ ราคาหลากหลายที่มีให้เลือกสรรซื้อหานั้น  ได้ย่างเหยียบนั่งอยู่ในใจของผู้ที่รักการถ่ายภาพอย่างกว้างขวาง ถือว่าเป็นยี่ห้อที่ประสบความสำเร็จในสมัยปัจจุบัน มียอดขายในแต่ละปีสูงที่สุดในไทยอีกทั้งระดับต้นๆในทวีปเอเชียรวมถึงทั่วโลกในประเภทกล้องมิลเลอร์เลสนั้น กว่าจะผ่านมาจวบจนถึงจุดนี้ได้ เรียกได้ว่าฝ่าระลอกคลื่นมรสุมทางเศรษฐกิจและกระแสนวัตกรรมที่หน่วยงานเก่าแก่อย่าง Fujifilm ต้องขวนขวายตะกายพร้อมทั้งวิ่งให้ทันโลกอยู่เสมอ ซึ่งก็เหลือเชื่อว่า Fujifilm ก็ทำมันได้อย่างน่าแปลกเลยทีเดียว
                ฟูจิ โฟโต้ ฟิล์ม ก่อตั้งเมื่อปี 1934 ตามนโยบายของรัฐบาลประเทศญี่ปุ่นในระยะเวลานั้นที่หวังจะมีบริษัทฟิล์มถ่ายรูปเป็นของตนเอง อีกทั้งมีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่องตามลำดับ จนปี 1965 จึงได้เข้าทำสาขาย่อยที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก และในปี 1995 ฟูจิก็ตัดสินใจก้าวย่างเข้ามาลุยตลาดแข่งขันกับเจ้าวงการในประเทศสหรัฐอเมริกากับในตลาดโลกอย่าง โกดัก ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 90% ฟูจิกลับใช้เทคนิคกลับด้านมาช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจากโกดักได้ยิ่งกว่า เป็นเหตุให้มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มมากขึ้นเป็น 33% ในปี 1995 และเพิ่มอีกเป็น 60% ในปี 1996 ที่ในเวลานั้นทั้งกล้องฟูจิฟิล์ม และโกดักต่างแข่งขันกันที่จะเป็นเจ้าวงการฟิล์ม แต่หารู้ไม่ว่ามีลูกคลื่นนวัตกรรมลูกใหม่ที่กำลังถาโถมเตรียมที่จะเข้ามาแทนที่อยู่เสมอ
                ช่วงจุดเปลี่ยน ช่วงวิกฤตของกิจการกล้องถ่ายรูปฟิล์มคือตอนปี 2000 ต้นๆ ในช่วงที่บริษัท SONY กับ HP วางจำหน่ายกล้องถ่ายภาพดิจิตอลขึ้นมาเป็นครั้งแรกกับทั้งสามารถร้องเรียกความสนใจจากคนรักการถ่ายรูปไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียวในตอนนั้น เป็นพิเศษการเข้ามาของ smart phone และ social media อีกทั้งการถ่ายภาพดิจิทัลนั้น ถูกกว่า สบายกว่า และรวดเร็วทันใจกว่ามาก จึงเป็นผลให้พฤติกรรมผู้ใช้ผันแปรไป  หน่วยงานอีสต์แมนโกดักในเวลานั้นมัวแต่คิดว่าการใช้ฟิล์มจะคงทนได้อีกพักหนึ่ง ได้แก่ไม่ตกลงฮวบฮาบอย่างแน่แท้ ต่อจากนั้นโกดักจึ่งยังถือเอาว่าจะเก็บความนิยมกล้องถ่ายภาพฟิล์มไปอีกสักพักนึง แต่ฟูจิมองว่าผลสุดท้ายแล้ว ดิจิตอลต้องมาแทนที่เนื้อกิจการฟิล์มถ่ายภาพอย่างแน่นอนกับทั้งรวดเร็วด้วย CEO ของบริษัทก็ได้ตัดสินใจที่จะนำหน่วยงานเข้าสู่ความเป็นดิจิทัล
แท้ที่จริงแล้วกล้องดิจิตอลที่กำเนิดขึ้นมาได้บนโลกเครื่องแรกๆนั้นก็เป็นของบริษัทโกดักนั้นแหละ ที่อุตส่าห์สร้างคิดค้นขึ้นมาได้แต่ระดับผู้บริหารไม่สานต่ออย่างเอาจริงเอาจัง กลับเห็นเป็นเหมือนสิ่งที่จะมาทำลายธุรกิจการค้าหลักคือฟิล์มถ่ายรูป แตกต่างจากผู้บริหารของ ฟิจิฟิล์ม ที่ถึงจะไม่ได้ริเริ่ม แต่ก็ไม่มีวันตกเทรนด์ ได้คิดค้นกล้องดิจิตอลออกสู่ตลาดอย่างจริงจัง ระดับผู้บริหารฟูจิมีความคิดเห็นที่แตกต่างจากผู้บริหารโกดัก ที่ตระเตรียมก้าวย่างยุคใหม่อย่างค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ทั้งยังเคยได้ใช้นวัตกรรมที่ตัวเองมีและเทคนิคต่างๆ ที่ใช้รักษาสภาพสีบนแผ่นฟิล์ม มาดัดแปลงกับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยี collagen ที่ช่วยจัดเก็บสภาพความชุ่มชื้น อีกทั้งความอ่อนวัยของผิวได้ ออกยี่ห้อเครื่องสำอางภายใต้ชื่อ Astalift ในปี 2007 พร้อมทั้งขายในตลาดจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น รวมไปถึงประเทศในยุโรป ซึ่งล่าสุดทำเงินให้บริษัทกว่า 3.4 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ไม่ใช่แค่นั้น Fujifilm ยังนำเทคโนโลยี Digital Camera Tech ประยุกต์ใช้กับวัสดุทางการแพทย์ สำหรับการบันทึกภาพเพื่อวินิจฉัยโรค อีกทั้งพัฒนาการผลิตยารักษาโรคมะเร็ง และโรคความจำเสื่อม ลดงบการพัฒนาด้าน Film & Analog ลงให้มาก
การรอดตายของ Fujifilm ในปัจจุบันที่ยังคงมีกล้องฟูจิ ราคาหลายหลากให้ได้เลือกสรรซื้อกันอยู่นั้น กุญแจสำคัญคือการมองวิสัยทัศน์และการรับทราบการเปลี่ยนเป้าหมายของกระแสลมเทคโนโลยีของผู้นำองค์กร Shigetaka Komori, CEO of Fujifim ซึ่งมีเซนส์ของความระวังภัยยิ่งกว่าบริษัทอื่นใด เหตุว่าเห็นเทรนด์ดิจิตอลพร้อมๆ กันกับยี่ห้ออื่นแต่เชื่อว่าวงการฟิล์มจะสิ้นซากโดยเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่เพราะฟิล์มถ่ายภาพเป็นกิจการค้าหลัก ถ้าไม่สามารถปรับตัวได้อย่างไวและสร้างกิจการใหม่ทันท่วงที ชะตากรรมก็คงไม่พ้นจากความสิ้นเนื้อประดาตัว และการปรับปรุงสภาพการณ์จากการเห็นภัยอันตรายจากเทคโนโลยีที่แปรเปลี่ยนอยู่ตลอดแล้วไม่หยุดนิ่งเปลี่ยนวิสัยทัศน์และกลยุทธ์องค์การให้เข้ากับเหตุการณ์ปัจจุบันขณะนั้นๆให้มากที่สุด กล่าวถึงให้เราเห็นว่าเราไม่ควรที่จะหยุดนิ่งไม่เช่นนั้นเราก็จะไม่เห็นความน่าจะเป็นที่จะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นในภาคหน้านั่นเอง

Tags : กล้องฟูจิ,กล้องฟูจิ ราคา,Fujifilm