สวัสดี บุคคลทั่วไป

Fujifilm ยักษ์ใหญ่ที่ไม่เคยล้ม

  • 0 ตอบ
  • 363 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
Fujifilm ยักษ์ใหญ่ที่ไม่เคยล้ม
« เมื่อ: กันยายน 16, 2018, 12:43:23 AM »
                ในบรรดากล้องดิจิตอลกับกล้องมิลเลอร์เลสที่กำลังได้รับความนิยมในบ้านเราและกระแสในทั่วโลกนั้น หากไม่อ้างอิงถึงตรา ฟูจิ ก็คงจะเปรียบเสมือนขาดอะไรไปบางอย่าง ในยุคปัจจุบันกล้องฟูจิ ราคามากมายที่มีให้เลือกซื้อหานั้น  ได้เข้าไปนั่งอยู่ในใจของผู้ที่รักการถ่ายภาพอย่างกว้างขวาง ถือว่าเป็นยี่ห้อที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน มียอดขายในแต่ละปีสูงที่สุดในประเทศไทยอีกทั้งลำดับต้นๆในทวีปเอเชียรวมไปถึงทั่วโลกในหมู่กล้องถ่ายรูปมิลเลอร์เลสนั้น กว่าจะผ่านมาตราบจุดนี้ได้ นับได้ว่าฝ่าลูกคลื่นมรสุมทางเศรษฐกิจและแนวทางนวัตกรรมที่บริษัทเก่าก่อนอย่าง Fujifilm ต้องมานะบากบั่นตะกุยตะกายพร้อมทั้งวิ่งให้เฉียบแหลมอยู่เสมอ ซึ่งก็เหลือเชื่อว่า Fujifilm ก็ทำมันได้อย่างน่าแปลกเลยทีเดียว
                ฟูจิ โฟโต้ ฟิล์ม ก่อตั้งเมื่อปี 1934 ตามแผนการของรัฐบาลญี่ปุ่นในคราวนั้นที่มุ่งจะมีบริษัทฟิล์มถ่ายรูปเป็นของตนเอง พร้อมทั้งมีการเจริญเติบโตมาอย่างไม่ขาดสายตามลำดับ จนปี 1965 จึงได้เข้าทำสาขาสำนักงานที่สหรัฐฯและทั่วโลก พร้อมทั้งในปี 1995 ฟูจิก็ตกลงใจก้าวย่างเข้ามาลุยตลาดแข่งขันกับเจ้าตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกาพร้อมกับในตลาดโลกอย่าง โกดัก ที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 90% ฟูจิกลับใช้กำหนดการกลับด้านมาช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดจากโกดักได้ยิ่งกว่า เป็นเหตุให้มีส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นเป็น 33% ในปี 1995 อีกทั้งเพิ่มพูนอีกเป็น 60% ในปี 1996 ที่ในตอนนั้นทั้งกล้องฟูจิฟิล์ม และโกดักต่างต่อสู้กันที่จะเป็นเจ้าวงการฟิล์มถ่ายรูป แต่หารู้ไม่ว่ามีเกลียวคลื่นนวัตกรรมลูกใหม่ที่กำลังถั่งโถมเตรียมที่จะเข้ามาแทนที่อยู่เสมอ
                ช่วงจุดเปลี่ยน ช่วงวิกฤตของธุรกิจการค้ากล้องถ่ายรูปฟิล์มคือช่วงเวลาปี 2000 ต้นๆ ในยุคสมัยที่บริษัท SONY กับ HP เริ่มกล้องถ่ายรูปดิจิตอลขึ้นมาเป็นทีแรกกับทั้งสามารถร้องเรียกจุดสนใจจากคนรักการบันทึกภาพไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียวในตอนนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ามาของ smart phone และ social media อีกทั้งการถ่ายภาพดิจิทัลนั้น ถูกกว่า สบายกว่า และเร็วทันใจกว่ามาก จึงทำให้พฤติกรรมผู้ซื้อผันแปรไป  บริษัทอีสต์แมนโกดักในเวลานั้นมัวแต่คิดว่าการใช้ฟิล์มถ่ายภาพจะดำรงได้อีกช่วงหนึ่ง นั่นคือไม่ตกลงฮวบฮาบอย่างแน่นอน ดังนี้โกดักจึ่งยังถือเอาว่าจะเก็บความนิยมกล้องฟิล์มไปอีกสักพักนึง แต่ฟูจิเห็นว่าในบั้นปลายแล้ว ดิจิตอลต้องมาทำลายเนื้อธุรกิจฟิล์มถ่ายภาพอย่างแน่นอนกับทั้งรวดเร็วด้วย CEO ของบริษัทก็ได้ตัดสินใจที่จะนำหน่วยงานเข้าสู่ความเป็นดิจิทัล
จริงๆ แล้วแล้วกล้องถ่ายภาพดิจิตอลที่สร้างขึ้นมาได้บนโลกรุ่นแรกๆนั้นก็เป็นของบริษัทโกดักนั้นแหละ ที่อุตส่าห์สร้างคิดค้นขึ้นมาได้แต่ผู้บริหารไม่สานต่ออย่างเอาจริงเอาจัง กลับเห็นเป็นเหมือนสิ่งที่จะมาบ่อนทำลายกิจการหลักคือฟิล์มถ่ายภาพ ต่างจากผู้บริหารของ ฟิจิฟิล์ม ที่แม้ว่าจะมิได้เริ่มต้น แต่ว่าก็ไม่มีวันตกเทรนด์ ได้คิดค้นกล้องถ่ายรูปดิจิตอลออกวางจำหน่ายอย่างจริงจัง ระดับผู้บริหารฟูจิมีวิสัยทัศน์ที่ต่างจากผู้บริหารโกดัก ที่วางแผนไปสู่สมัยใหม่อย่างค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ทั้งยังเคยได้ใช้เทคโนโลยีที่ตัวเองมีและเคล็ดต่างๆ ที่ใช้รักษาสภาพสีบนแผ่นฟิล์ม มาประยุกต์กับสินค้าเครื่องสำอางแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยี collagen ที่ช่วยคงสภาพสภาพความชุ่มชื้น และความอ่อนเยาว์ของผิวได้ ออกยี่ห้อเครื่องสำอางค์ภายใต้ชื่อ Astalift ในปี 2007 พร้อมทั้งขายในตลาดจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น รวมถึงประเทศในยุโรป ซึ่งปัจจุบันได้กำไรให้บริษัทกว่า 3.4 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ไม่ใช่แค่นั้น Fujifilm ยังนำเทคโนโลยี Digital Camera Tech นำมาใช้กับเครื่องอุปกรณ์ทางการแพทย์ สำหรับการบันทึกภาพเพื่อวินิจฉัยโรค และพัฒนาการผลิตยาเยียวยาโรคมะเร็ง พร้อมกับโรคความจำเสื่อม ลดงบประมาณการพัฒนาด้าน Film & Analog ลงให้มาก
การรอดตายของ Fujifilm ในปัจจุบันนี้ที่ยังคงมีกล้องฟูจิ ราคาหลากหลายให้ได้เลือกจับจ่ายกันอยู่นั้น กุญแจสำคัญคือการมองการณ์ไกลและการรับทราบการเปลี่ยนเป้าหมายของกระแสลมเทคโนโลยีของท่านประธาน Shigetaka Komori, CEO of Fujifim ซึ่งมีเซนส์ของความระวังระไวภัยมากกว่าบริษัทอื่นใด ทั้งนี้เพราะเห็นเทรนด์ดิจิตอลพร้อมๆ กันกับแบรนด์อื่นแต่เชื่อว่าท้องตลาดฟิล์มจะสิ้นซากอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่เพราะฟิล์มเป็นธุรกิจการค้าหลัก ถ้าไม่สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วและสร้างกิจการใหม่ทันท่วงที โชคชะตาก็คงไม่พ้นจากการล้มละลาย และการปรับปรุงภาวะจากการเห็นภัยอันตรายจากเทคโนโลยีที่แปรเปลี่ยนอยู่ตลอดแล้วไม่หยุดนิ่งเปลี่ยนวิสัยทัศน์และกลยุทธ์หน่วยงานให้เข้ากับสภาพการณ์สมัยนี้ขณะนั้นๆให้มากที่สุด เข้าฉากให้เราเห็นว่าเราไม่ควรที่จะหยุดนิ่งไม่เช่นนั้นเราก็จะไม่เห็นความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นในภายภาคหน้านั่นเอง

Tags : กล้องฟูจิ,กล้องฟูจิ ราคา,Fujifilm