สวัสดี บุคคลทั่วไป

ซื้อเครื่องปรับอากาศเช่นใด ให้ประหยัดเงินทองในกระเป๋าที่สุด

  • 0 ตอบ
  • 282 อ่าน
พออากาศมันร้อน เลยก็คงจะต้องหาวิธีเพื่อที่จะหยุดอบอ้าวกันซะหน่อย ใครชอบกิน ก็มองหาของกินรับประทานดับร้อนกันไป แต่ถ้าหากผู้ใดอยากให้อากาศภายในที่พักอาศัยไม่อบอ้าวเหมือนกับนรก ก็คงต้องพึ่ง "แอร์" หรือเรียกว่า "เครื่องปรับอากาศ" แล้วละ แต่ถ้าใช้งานแอร์ บางท่านก็ต้องเป็นกังวลด้านประเด็นของรายจ่ายค่าไฟฟ้าที่มันจะไล่ตามมาต่อจากนั้น แต่ทุกคนจะมีหลักเกณฑ์การเลือกอย่างใด ให้ได้ทั้งของคุณภาพ แล้วก็ยังประหยัดด้วย ไปดูกันเลย
ข้อแรกเราจะจำเป็นต้องคำนึงถึงแบบของแอร์ควรจะให้เหมาะสมต่อสถานที่กับการทำงาน เพราะปัจจุบันนั้นมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกหา เพราะว่าแต่ละรูปแบบก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป โดยสมมติซื้อผิดนั้น ก็คงอาจจะมีผลต่ออาจจะโทษต่อแอร์ และยังทำให้เปลืองพลังงานไปอีก โดยหลักๆ แล้วนั้น แอร์จะแยกออกเป็นหลายหมวดหมู่ ตัวอย่างเช่น เครื่องปรับอากาศติดกำแพง, แอร์ตั้งพื้น, เครื่องปรับอากาศฝังเพดาน รวมทั้ง แอร์เคลื่อนที่ ซึ่งแต่ละประเภท ประกอบด้วยรูปลักษณ์เป็นอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย
ประเภทแรกก็คือแอร์ติดผนัง โดยเครื่องปรับอากาศชนิดนี้ เป็นที่นิยมกันอยู่แล้ว หรือไม่ก็น่าจะต้องคุ้นตากันอยู่เป็นประจำ นั่นแหละ เพราะว่าใช้งานที่หลายแบบ มีลักษณะการดีไซน์ที่ตามสมัยนิยม พร้อมด้วยก็มีสัดส่วนกะทัดรัด แล้วยังยังช่วยประหยัดพลังงาน และสามารถรักษาง่ายๆ โดยแอร์ลักษณะนี้ เหมาะสำหรับห้องพื้นที่ย่อมๆ รวมทั้งบ้านเรือน หรือคอนโดธรรมดา ช่วยให้ตอบโจทย์กับความต้องการในการทำงานได้อย่างหลากหลายรูปแบบ
ต่อมาคือเครื่องปรับอากาศตั้งขึ้นพื้น โดยแอร์ลักษณะนี้ถือเป็นประเภทที่มีการกระจายความเย็นได้ดี สามารถสร้างความเย็นฉ่ำได้แบบรวดเร็ว และทนในการทำงาน รวมไปถึงทนทานกับฝุ่นควันอีกด้วย โดยรูปร่างของเครื่องปรับอากาศจะเป็นชนิดตั้งที่พื้น เหมาะกับห้องที่มีพื้นที่กว้าง โรงงาน รวมทั้งมีประชากรคับคั่ง  ซึ่งเครื่องปรับอากาศประเภทนี้จะทำงานใช้เสียงดัง เลยทำให้เปลืองไฟฟ้ามากกว่าแอร์ประเภทอื่นๆ
ชนิดต่อไปเป็นลักษณะแอร์ติดฝ้าเพดาน โดยที่ชนิดนี้จะคือแอร์ 4 ทาง ตัวเครื่องแอร์ ท่อน้ำยา และท่อน้ำเสีย สามารถติดข้างในฝ้าเพดาน ส่งผลให้สามารถคงรูปทรงความสวยงามของห้องได้ตามเดิม ตัดทอนขีดจำกัดในการติดตั้ง โดยเหมาะสมกับห้องที่ต้องการในเรื่องความสวยงาม ทำให้ภายในบ้านประณีตอย่างเดิม  แต่ว่าเครื่องปรับอากาศประเภทนี้มักมีราคามักจะสูงมากกว่าแอร์ลักษณะอื่นๆ
ส่วนอย่างสุดท้ายก็คือเครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่ โดยที่เครื่องปรับอากาศประเภทนี้จะไม่ค่อยซับซ้อนคล้ายกับประเภทที่แล้ว เพราะว่าเพียงแค่เสียบปลั๊ก ก็ใช้งานได้เลย เพราะแอร์แบบนี้ใช้งานได้แบบเดียวกันกับเครื่องปรับอากาศบ้านทั่วๆ ไป แต่ไม่เหมือนประเภทอื่นก็ตรงที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ รวมทั้งก็ไม่ต้องติดตั้งเข้ากับตัวบ้านด้วย เหมาะกับผู้ที่อาศัยหอ อพาร์ตเมนต์ คอนโดมิเนียม ทำนุบำรุงก็สะดวกมาก เหมือนเครื่องปรับอากาศทั่วๆ ไปเลย
ย้อนกลับมาที่หลักเกณฑ์การตัดสินใจซื้อกันต่อ ถัดมาก็ควรจะเลือกสัดส่วนแอร์ให้เข้ากับขนาดห้อง เพราะเมื่อทราบพื้นที่ห้องแล้วนั้น มันก็จะสะดวกกับการเลือกสรรขนาดของแอร์และการคิดค่า BTU นั่นเอง เพื่อให้พอเหมาะกับการใช้งานและทำให้
ลดการใช้ไฟฟ้า โดยหลายคนคงยังไม่เข้าใจว่า BTU คืออะไร โดยมันก็คือ ขนาดทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ โดยย่อมาจากคำว่า British Thermal Unit โดย 1 ตันความเย็น จะเท่ากับ 12000 BTU ต่อชั่วโมง ดังนั้นการเลือกซื้อ BTU จึงมีความจำเป็น เพราะจะเกี่ยวเนื่องกับ การประหยัดพลังรวมทั้งอายุการทำงานของเครื่องปรับอากาศนั่นเอง หากเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศที่มี BTU มากเกินไป ก็ทำให้ใช้งานของคอมแอร์ตัดบ่อย เนื่องจากมีการทำความเย็นได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้ศักยภาพภายในถดถอย รวมทั้งยังมีผลให้ให้มีความชื้นข้างในห้องมาก ส่งผลให้ผู้ที่อยู่อาศัยป่วย หรือว่าเจ็บป่วยได้ อีกทั้งยังส่งผลให้สิ้นเปลืองไฟฟ้าอีกด้วย หรือไม่ก็หากตัดสินใจเครื่องปรับอากาศที่มี BTU น้อยเกินไปก็จะส่งผลให้คอมเพรสเซอร์ถูกใช้งานตลอดเวลารวมทั้งมากจนเกินไป  เพราะอุณหภูมิความเย็นไม่ตรงตามที่ปรับหรือกำหนดไว้  ก็จะทำให้เป็นเหตุให้แอร์ทรุดโทรมได้ง่ายๆ รวมทั้งเปลืองไฟฟ้าอีกเช่นกัน
                ถัดมาจะเป็นหลักการง่ายๆ เกินที่ไม่ว่าใคร ก็น่าจะต้องช่วยให้เลือกตัดสินใจแน่นอน ก็คือ การเลือกเครื่องปรับอากาศที่ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพราะว่านั่นหมายถึง คุณภาพในการใช้ไฟฟ้าที่คุ้มค่าที่สุด ก็จะทำให้ประหยัดพลังงานและประหยัดค่าใช้จ่ายได้นั้นเอง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : แอร์ ราคา

Tags : แอร์,เครื่องปรับอากาศ,แอร์ ราคา