สวัสดี บุคคลทั่วไป

อากาศภายในบ้านสะอาดง่ายๆ โดยใช้เครื่องฟอกอากาศ

  • 0 ตอบ
  • 307 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
            ตอนนี้อากาศที่เราหายใจไปแทบจะคืออากาศที่มีแค่ฝุ่นผงและสิ่งโสโครกที่ปะปนมาในนั้นอาจทำให้ป่วยไม่ยาก หรือไม่ก็หายใจไม่สบายได้ เช่นนั้นแล้วการที่เข้าอยู่อยู่ในมลพิษสารพิษคุณจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จำเป็นต้องสูดสภาพอากาศเอาสิ่งเหล่านั้นเข้าไปในสังขาร
            อย่างไรก็ตามครั้งคุณกลับมาที่อยู่อาศัยคุณเป็นไปได้ว่าเห็นว่าอากาศในที่พักอาศัยใสสะอาดมากกว่าด้านนอกก็จริงแต่ก็ยังมีละอองมาจากของใช้ในบ้านที่บางครั้งเราคงเห็นว่าก็ทำความสะอาดเป้นประจำ หรือที่ติดมาพร้อมกับเสื้อผ้าคุณที่ไปภายนอกมาตลอดทั้งวัน สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้เราต้องอยู่กับมลพิษทุกเมื่อ ดังนั้นแล้วคุณเลยจำเป็นจะต้องมีผู้ช่วยที่มีชื่อว่า เครื่องกรองอากาศ ไว้ในบ้านเพื่อให้ทำให้ที่อาศัยสะอาดสะอ้านและคุณได้อากาศใสสะอาดบ้างกับแต่ละวัน
            โดยที่กรองสภาพอากาศที่ใช้งานภายในบ้านมีอยู่ 4 ประเภทด้วยกันเช่น 1. เครื่องกรองสภาพอากาศประเภทใช้แผ่นสกัดคาร์บอน (Carbon Air Purifiers) โดยที่ตามธรรมดาแล้วล่ะก็คาร์บอนมีคุณสมบัติในการดูดสิ่งสกปรกพร้อมกับกลิ่นตั้งแต่แรกแล้วส่งผลให้เกิดการนำมาทำเป็นไส้กรองอากาศที่ทำมาจากคาร์บอนเพื่อใช้ในขบวนการกรองอากาศ 2. ที่ฟอกอากาศลักษณะใช้ประจุไฟฟ้า (Ionic Air Purifiers) โดยที่ฟอกอากาศรูปแบบนี้มีการเลือกประจุไฟฟ้ามาใช้งานเพื่อล่อฝุ่นต่างๆ เพราะว่าประจุไฟฟ้าสามารถล่อชิ้นเล็กๆได้ดีแม้ว่ามีผงเล็กก็แล้วแต่ ไม่เว้นแต่ฝุ่นผงธรรมดา ขนสัตว์ หรือแม้กระทั่งควันบุหรี่ เป็นเหตุให้เครื่องกรองอากาศดังนี้เหมาะสมกับผู้ที่มีเรื่องมีราวเรื่องทางเดินหายใจ ไม่ก็เป็นภูมิแพ้ 3. เครื่องฟอกสภาพอากาศลักษณะศักยภาพในการกรองสูง (High Efficiency Particle Arresting) หรือที่เรียกกันว่า HEPA นับเป็นเครื่องฟอกอากาศที่มีศักยภาพสำหรับกรองอากาศดีมากเพราะว่าตัวไส้กรองผลิตเข้ามาจากใยแก้วละเอียด สามารถสกัดสภาพอากาศให้บริสุทธิ์มากที่สุด 99% อย่างไรก็ตามจุดบกพร่องก็คือไม่สามารถดูดควันหรือว่าซับกลิ่นได้ เป็นเครื่องกรองสภาพอากาศที่มักใช้ข้างในโรงพยาบาลหรือไม่ก็โรงงานบางอย่าง โดยที่กรองอายุการทำงานนานถึง 4 ปี  4. ที่ฟอกสภาพอากาศแบบผสมผสาน ประกอบด้วยที่กรองสภาพอากาศที่ลักษณะผสาน 2 หน่วยด้วยกันคงจะเป็นการรวมระหว่าง Carbon กับ Ionic หรือไม่ก็ HEPA กับ Ionic ก็ได้ตามใจว่าผู้สร้างอยากได้ให้เครื่องกรองอากาศทำงานออกมาด้วยแบบใด
            โดยแบบเครื่องฟอกอากาศทั้งหลายที่กล่าวถึงคงจะได้มีหลายคนคลางแคลงใจเกี่ยวกับแล้วจะประกอบด้วยแนวทางการเลือกเครื่องฟอกสภาพอากาศอย่างใดเพื่อให้เหมาะสำหรับตัวเองมากที่สุด ข้อแรกจำเป็นต้องคุ้นเคยอากาศภายในที่อยู่ตนเองก่อนว่าลักษณะอากาศในตัวบ้านเป็นอย่างไร มีละอองมากหรือไม่ หรือมีกลิ่นไม่ดีหรือเปล่าจึงค่อยเลือกที่ฟอกอากาศต่อมาที่การเลือกตัวเครื่องฟอกอากาศโดยตัวมีคุณภาพน่าจะต้องมี  2 ระบบข้างในเพียงอันเดียวก็คือ  สกัดฝุ่น ดักจับขี้ฝุ่น และดูดกลิ่นภายในเครื่องเดียว รวมทั้งมีแรงที่จะสามารถดึงอากาศรอบๆ สำหรับนำไปกรองรวมถึงปล่อยอากาศบริสุทธิ์ถ่ายมา ตรวจสอบดูก่อนว่าหน่วยกรองสภาพอากาศพร้อมทั้งแผ่นกรองเป็นแบบที่คุณหวังหรือเปล่าพร้อมกับเป็นไปได้ว่าเอาไปชะล้างสะดวกหรือไม่รวมไปถึงพวกราคาที่กรองเป็นแบบไหนเพื่อที่จะตอนที่แผ่นกรองหมดเขตจะหาซื้อหาง่าย ท้ายที่สุดคือการคิดทบทวนค่าที่มีชื่อว่า  CADR (Clean  Air  Delivery  Rate)  ค่านี้ก็คือค่าเอาไว้เทียบสมรรถนะในการทำงานของที่กรองสภาพอากาศโดยที่ค่านี้จะเพิ่มสูงขึ้นสมมติว่ามีมนุษย์ในห้อง
            ในส่วนจากการใช้งานพร้อมทั้งการดูแลรักษาก็เป็น การใช้งานส่วนเครื่องฟอกสภาพอากาศควรปิดห้องให้เครื่องใช้งานเอาไว้ก่อนที่จะเข้าไปภายในห้องเพื่ออากาศบริสุทธิ์ก่อนหน้า ส่วนการเอาใจใส่ทำความสะอาดก็คือควรจะเก็บกวาดที่กรองอย่างน้อยทุก  3 เดือน  โดยการเอามาชะล้างแล้วไปตากให้หายชื้น  สำหรับที่จะฆ่าไวรัส  หรือชำระล้างตามที่คำแนะนำระบุเอาไว้ อย่างไรก็ดีสำหรับคนที่ไม่อยากทำความสะอาดประจำ ก็ควรจะเลือกซื้อแบบประจุไฟฟ้า ก็เพราะว่าแม้จะสนนราคาสูงกว่าประเภทนอกจากนี้แต่ว่าไม่จำเป็นต้องเก็บกวาดประจำตลอดจนดูแลรักษาไม่ยาก
จะเห็นว่าเครื่องฟอกสภาพอากาศประกอบด้วยหลายแบบไปจนถึงแนวทางสำหรับเลือกซื้อให้เหมาะสำหรับการใช้งานก็ไม่ยากอย่างที่คิดนอกจากนั้นแล้วการบำรุงรักษาความสะอาดก็ยังสะดวกมากอีกเช่นกัน โดยที่เครื่องฟอกสภาพอากาศมีเลือกกันมากมายด้วยกันเช่น Sharp , Philip , Dyson ,Blueair ฯลฯ ตั้งแต่สนนราคา 2-3พันบาทจนถึง 4-5 หมื่นเลยทีเดียว
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี

Tags : เครื่องฟอกอากาศ,เครื่องฟอกอากาศ ราคา,เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี