สวัสดี บุคคลทั่วไป

Fujifilm บริษัทใหญ่ที่ไม่เคยโค่นล้ม

  • 0 ตอบ
  • 290 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
Fujifilm บริษัทใหญ่ที่ไม่เคยโค่นล้ม
« เมื่อ: กันยายน 30, 2018, 04:19:53 PM »
                ในเหล่ากล้องดิจิตอลพร้อมทั้งกล้องมิลเลอร์เลสที่กำลังเป็นที่นิยมในบ้านเราและแนวทางในทั่วโลกนั้น หากไม่เปรยตรา ฟูจิ ก็อาจจะเหมือนกับขาดอะไรไปบางอย่าง ในสมัยนี้กล้องฟูจิ ราคาหลากหลายที่มีให้เลือกเฟ้นซื้อหานั้น  ได้เข้าไปนั่งอยู่ภายในใจของผู้ที่รักการถ่ายภาพอย่างกว้างขวาง ถือว่าเป็นแบรนด์ที่บรรลุผลในปัจจุบัน มียอดขายในแต่ละปีสูงที่สุดในไทยอีกทั้งระดับต้นๆในทวีปเอเชียรวมถึงทั่วโลกในกลุ่มกล้องมิลเลอร์เลสนั้น กว่าจะตัดผ่านมาจนถึงจุดนี้ได้ นับได้ว่าฝ่าเกลียวคลื่นมรสุมทางเศรษฐกิจกับแนวทางนวัตกรรมที่หน่วยงานโบราณอย่าง Fujifilm ต้องหมั่นตะกายพร้อมด้วยวิ่งให้มีไหวพริบอยู่เสมอ ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่า Fujifilm ก็ทำมันได้อย่างน่าประหลาดใจเลยทีเดียว
                ฟูจิ โฟโต้ ฟิล์ม ตั้งเมื่อปี 1934 ตามแผนการของรัฐบาลประเทศญี่ปุ่นในยุคนั้นที่ต้องประสงค์จะมีบริษัทฟิล์มถ่ายรูปเป็นของตนเอง และมีการเติบโตมาอย่างไม่ขาดสายตามลำดับ จนปี 1965 จึงได้เข้าทำสาขาย่อยที่สหรัฐฯและทั่วโลก พร้อมทั้งในปี 1995 ฟูจิก็ตัดสินใจย่างก้าวเข้ามาลุยท้องตลาดงัดข้อกับเจ้าวงการในสหรัฐฯกับทั้งในตลาดโลกอย่าง โกดัก ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 90% ฟูจิกลับใช้แผนการพลิกมาช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจากโกดักได้ยิ่งกว่า เป็นผลให้มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มมากขึ้นเป็น 33% ในปี 1995 พร้อมกับมากขึ้นอีกเป็น 60% ในปี 1996 ซึ่งขณะนั้นทั้งกล้องฟูจิฟิล์ม และโกดักต่างแข่งขันกันที่จะเป็นเจ้าตลาดฟิล์ม แต่หารู้ไม่ว่ามีคลื่นนวัตกรรมลูกใหม่ที่กำลังถาโถมเตรียมที่จะเข้าผลัดเปลี่ยนอยู่เสมอ
                ช่วงจุดเปลี่ยน ช่วงสาหัสของธุรกิจกล้องถ่ายรูปฟิล์มคือขณะปี 2000 ต้นๆ ในระยะเวลาที่บริษัท SONY และ HP เบิกฤกษ์กล้องดิจิตอลขึ้นมาเป็นครั้งแรกพร้อมกับสามารถร้องเรียกจุดสนใจจากคนรักการบันทึกภาพไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียวในช่วงนั้น โดยเฉพาะการเข้ามาของ smart phone และ social media ยิ่งกว่านั้นการถ่ายรูปดิจิทัลนั้น ย่อมเยากว่า ง่ายกว่า และรวดเร็วทันใจกว่ามาก จึงเป็นเหตุให้พฤติกรรมผู้บริโภคแปรผันไป  หน่วยงานอีสต์แมนโกดักในตอนนั้นมัวแต่คิดว่าการใช้ฟิล์มจะดำรงอยู่ได้อีกพักหนึ่ง ได้แก่มิตกลงฮวบฮาบอย่างแน่นอน โดยเหตุนั้นโกดักจึงยังคาดว่าจะเก็บกระแสกล้องถ่ายภาพฟิล์มไปอีกสักระยะนึง แต่ฟูจิคิดว่าในบั้นปลายแล้ว ดิจิตอลต้องมาทำลายเนื้อกิจการฟิล์มถ่ายภาพอย่างแน่นอนและรวดเร็วด้วย CEO ของบริษัทก็ได้ตัดสินใจที่จะนำบริษัทเข้าสู่ความเป็นดิจิทัล
แท้ที่จริงแล้วกล้องถ่ายรูปดิจิตอลที่ผลิตขึ้นมาได้บนโลกรุ่นแรกๆนั้นก็เป็นของบริษัทโกดักนั่นแหละ ที่อุตส่าห์สร้างคิดค้นขึ้นมาได้แต่ระดับผู้บริหารไม่ทำต่ออย่างเป็นจริงเป็นจัง กลับเห็นเป็นเพียงสิ่งที่จะมาทำลายกิจการค้าหลักคือฟิล์ม ผิดแผกจากผู้บริหารของ ฟิจิฟิล์ม ที่ถึงแม้ว่าจะมิได้เริ่มต้น แต่กระนั้นก็ไม่เคยตกเทรนด์ ได้ปรับปรุงกล้องถ่ายรูปดิจิตอลออกวางจำหน่ายอย่างจริงจัง ระดับผู้บริหารฟูจิมีความคิดเห็นที่แปลกจากผู้บริหารโกดัก ที่เตรียมการเข้าสู่สมัยใหม่อย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งยังเคยได้ใช้เทคโนโลยีที่ตนเองมีและกลยุทธ์ต่างๆ ที่ใช้ดูแลรักษาสภาพสีบนแผ่นฟิล์ม มาดัดแปลงกับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์แทน โดยเฉพาะเทคโนโลยี collagen ที่ช่วยจัดเก็บสภาพความชุ่มชื้น พร้อมกับความอ่อนวัยของผิวได้ ออกยี่ห้อเครื่องสำอางภายใต้ชื่อ Astalift ในปี 2007 พร้อมทั้งขายในตลาดจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น รวมไปถึงประเทศในยุโรป ซึ่งปัจจุบันนี้ทำกำไรให้บริษัทกว่า 3.4 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ไม่ใช่แค่นั้น Fujifilm ยังนำนวัตกรรม Digital Camera Tech นำมาใช้กับเครื่องมือทางการแพทย์ สำหรับการบันทึกภาพเพื่อวินิจฉัยโรค และพัฒนาการผลิตยาเยียวยาโรคมะเร็ง และโรคความจำเสื่อม ลดงบประมาณการพัฒนาด้าน Film & Analog ลงให้มากที่สุด
การอยู่รอดของ Fujifilm ในยุคปัจจุบันที่ยังมีกล้องฟูจิ ราคาหลายหลากให้ได้เลือกสรรซื้อของกันอยู่นั้น กุญแจสำคัญคือการมองวิสัยทัศน์และการรับรู้การเปลี่ยนเป้าหมายของกระแสลมเทคโนโลยีของผู้นำองค์กร Shigetaka Komori, CEO of Fujifim ซึ่งมีเซนส์ของความระวังภัยยิ่งกว่าบริษัทอื่นใด ด้วยเหตุว่าเห็นเทรนด์ดิจิตอลพร้อมๆ กันกับแบรนด์อื่นแต่เชื่อว่าท้องตลาดฟิล์มจะสิ้นซากอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่เพราะฟิล์มถ่ายภาพเป็นธุรกิจหลัก ถ้าไม่สามารถปรับตัวได้อย่างทันทีทันใดและสร้างธุรกิจใหม่ทันท่วงที โชคชะตาก็คงไม่พ้นจากความสิ้นเนื้อประดาตัว และการปรับปรุงสภาพจากการเห็นภัยอันตรายจากเทคโนโลยีที่แปรเปลี่ยนอยู่ตลอดแล้วไม่หยุดอยู่กับที่เปลี่ยนวิสัยทัศน์และกลยุทธ์หน่วยงานให้เข้ากับสภาพประจุบันขณะนั้นๆให้มากที่สุด ส่อให้เราเห็นว่าเราไม่ควรที่จะหยุดนิ่งกับที่มิเช่นนั้นเราก็จะไม่เห็นความน่าจะเป็นที่จะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นในอนาคตกาลนั่นเอง

Tags : กล้องฟูจิ,กล้องฟูจิ ราคา,Fujifilm