ก้าวย่างหน้าฝนที่ดินฟ้าอากาศมืดมัวไม่มีแสงอาทิตย์ทีไร หลายๆ คนอาจมีอุปสรรคกับการตากเสื้อผ้าหลังซักกันแน่ๆ เนื่องมาจากแห้งยากมาก อีกทั้งยังต้องกล้ำกลืนกับกลิ่นอับที่ไม่ปรารถนาด้วย โดยสิ่งที่สามารถตอบคำถามปัญหาความหนักใจนี้อย่างดีเด่นคือวัสดุอุปกรณ์ที่ชื่อเครื่องอบผ้านั่นเอง
 
โดยเครื่องอบผ้านั้นก็ได้รับความนิยมขึ้นไปเรื่อยๆ เนื่องด้วยมีความคล่องแคล่วและแก้ไขได้ถูกจุด จึงทำให้หลายยี่ห้อผู้ประกอบการออกสินค้าใหม่ๆ มาสำหรับรองรับท้องตลาด พร้อมด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ อาทิ เครื่องอบผ้า Electrolux, เครื่องอบผ้า LG หรือเครื่องอบผ้า Haier เป็นต้น
 
 ถ้าหากว่าท่านใดที่กำลังสนใจจักซื้อเครื่องอบผ้าอยู่ละก็ ผมมีกระบวนการเลือกซื้อและรุ่นที่น่าสนใจมามุ่งเสนอกัน
 
 แบบของเครื่องอบผ้ามีดังนี้

• ชนิดลมร้อน (Venting)

                กระบวนการปฏิบัติการคือใช้ลมร้อนทำให้ผ้าแห้ง  ซึ่งปฏิบัติการแบบขั้นต้นคือเป่าลมร้อนจากนั้นปล่อยออก ทำให้ผ้าแห้งสนิท โดยระบบนี้ต้องใช้ที่ระบายลมออกจากเครื่องสู่อากาศข้างนอก มีให้เลือกทั้งแบบตั้งนาฬิกาเองหรือแบบออโต้เครื่องจะหยุดการทำงานเองทันทีที่ผ้าหมดความชื้น เครื่องอบผ้าแบบนี้จำเป็นต้องมีการเชื่อมท่อระบายลมร้อนด้วยจึงเหมาะสำหรับการใช้ที่บ้านเรือนมากกว่าคอนโดมีเนียม
 
 2. ประเภทควบแน่น (Condensing)
                ใช้ระบบการดึงดูดความชื้นจากผ้า ประเภทนี้เหมาะกับที่ที่มิสะดวกในการเชื่อมท่อระบายลมร้อนออก ทำงานด้วยลมร้อนเช่นกัน ต่างกันตรงมีการควบแน่นความชื้นไปเก็บไว้ชั้นในภาชนะบรรจุน้ำในเครื่องแล้วเทน้ำออกทีหลัง ด้านลมร้อนจักถูกลดความร้อนผ่านครีบโลหะเพื่อที่จะลดความร้อนก่อนปล่อยออกจากเครื่อง ประเภทนี้จักมีมูลค่าสูงกว่าแบบแรก และมีข้อน่าสังเกตว่าผ้าจะมีความชื้นเหลืออีกนิดนึงไม่ได้แห้งสนิท จำเป็นต้องเอามาผึ่งลมอีกสักพัก แต่ถ้าหากรีดเลยก็จักทำให้รีดคล่องขึ้น เนื่องจากผ้ายังมีความชื้นเหลืออยู่
 
 ครั้นเรารู้ถึงประเภทของเครื่องอบผ้าแล้ว ก่อนปลงใจเลือกซื้อเครื่องอบผ้าเราควรจะคำนึงดังนี้
 

• เครื่องอบผ้าส่วนใหญ่ มีความจุตั้งแต่ 6kg, 7kg, 8kg, 9kg, 10.5kg ซึ่งเราควรจะเลือกให้ความจุเกี่ยวเนื่องกับความจุของเครื่องซักผ้า เหตุด้วยครั้นเวลาทำความสะอาดเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะสามารถนำใส่ถังอบได้ในความจุที่พอเหมาะกัน
• พื้นที่ ชั้นในหรือข้างนอกเรือน ต้องจัดวางลักษณะใด เพื่อให้จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์อื่นๆ ได้ครบครัน และเลือกแบบได้เหมาะกับการใช้งาน
• อย่าลืมสังเกตฉลากที่ระบุบนอาภรณ์ด้วยว่าสามารถใช้กับเครื่องอบผ้าได้หรือไม่
• ระวังมิเอาเครื่องแต่งกายที่มีรอยเปื้อนน้ำมันหลายอย่าง ไปอบเด็ดขาด เหตุเพราะความร้อนจะทำให้เกิดเพลิงลุกได้
• ทำความสะอาด Filter เป็นประจำ เพื่อเครื่องมีความสามารถการทำงานที่ดีและใช้งานได้นานขึ้น
   
   หากว่าท่านใดยังไม่ทราบว่าจะซื้อเครื่องอบผ้าแบรนด์ใดรุ่นอะไรละก็ ผมจะแนะนำเครื่องอบผ้าที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
   
   1. เครื่องอบผ้า Electrolux แบบฝาหน้า (8 กิโลกรัม) รุ่น EDH3786GDW

เครื่องอบผ้าชนิดฝาหน้า ขนาด 60x85x60(เซนติเมตร)บรรจุเสื้อผ้าได้ 8 กิโลกรัม
มีระบบ Heat Pump ประหยัดพลังงาน ช่วยประหยัดค่าไฟ Inverter ประหยัดพลังงาน ทำงานเงียบเชียบ Woolmark ได้รับการรับประกันจาก Woolmark สามารถอบเสื้อผ้าขนสัตว์ได้โดยไม่ทำร้ายเนื้อผ้า Condensing ง่ายดายในการติดตั้ง ไม่จำต้องต่อท่อระบายอากาศ
รายการการอบ 14 รายการ สามารถเลือกได้ตามความต้องการ อาทิเช่นเลือกตามชนิดเนื้อผ้า เลือกตามเวลา คัดเลือกตามระดับความแห้ง Auto Sensing ช่วยวัดระดับความชื้นในผ้าเพื่อมีความถูกต้องมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งให้ผ้าแห้งได้อย่างเหมาะควรเครื่องอบผ้า Electrolux รุ่นนี้มูลค่าคร่าวๆ 34,990 บาท
 
 2. เครื่องอบผ้า BEKO ชนิดฝาหน้า (9 กิโลกรัม) รุ่น DH9535RX0W           
รุ่นนี้มาในขนาด 60.9x84.6x59.5(ซม.) จุผ้าได้ 9 กิโลกรัม มีโปรแกรมอบผ้าทุกวันสำหรับผ้า 4 กิโลกรัมในระยะเวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมง มีโหมด 'ผ้ายีนส์' สำหรับผ้าที่หนาเหมาะกับการอบแห้งตามรอยตะเข็บของเครื่องแต่งตัว อาทิ กางเกงยีนส์หรือเสื้อผ้าขนแกะ ให้ความสมบูรณ์แบบอีกทั้งการอบแห้งได้ดีเลิศทำนองเดียวกับเสื้อผ้าอาภรณ์ต่างๆ มีอุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณดูแลในรายการการดูแลพิเศษสำหรับซักเสื้อผ้าที่ละเอียดอ่อนเพื่อให้มั่นอกมั่นใจว่าผ้าจะแห้งเบา จากการใช้อุณหภูมิที่ต่ำมาก ที่สำคัญคือมีตัวเลือกดูแลลูก สามารถใช้งานเพื่อคุ้มกันมิให้มือเล็กๆ ไปยุ่งเกี่ยวกับปุ่มหลากหลาย ระหว่างที่เครื่องทำงาน รุ่นนี้ราคาราว 48,990 บาท
 
เทคโนโลยีในสมัยนี้ได้ออกมาทุเลาปัญหาและเอื้ออำนวยความปลอดภัยในชีวิตประจำวันเป็นอย่างยิ่ง เครื่องอบผ้าก็เช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรดูถึงฟังก์ชั่นที่ขาดไม่ได้ในการใช้งานและงบของท่านด้วยนะขอรับ

Tags : เครื่องอบผ้า Electrolux,เครื่องอบผ้า electrolux ราคา,เครื่องอบผ้า electrolux รุ่นไหนดี