สวัสดี บุคคลทั่วไป

กล้องถ่ายรูป VS กล้องมือถือ ถ้าหนักห่างกันไม่กี่ขีด...แล้วเจ้าจะเลือกอะไร?

  • 0 ตอบ
  • 263 อ่าน
ครั้นเมื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันน่าระลึกจนต้องเก็บบันทึกออกมาเป็นรูปถ่าย และมันจะดีเยี่ยมขึ้นไปอีก เมื่อข้างในภาพมีคนพิเศษอยู่ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่จะช่วยให้คุณได้รวบรวมภาพความทรงจำดีๆเหล่านั้น นอกจากสมอง และหัวใจของเราแล้ว ก็ต้องเป็น "กล้องถ่ายรูป" นั่นเอง โดยในสมัยนี้ ใครๆ ต่างก็มีสมาร์ทโฟนที่มีกล้องถ่ายรูปพร้อมกันมาด้วย เพื่อง่ายต่อการใช้งาน ไม่ต้องสะพายกระเป๋ากล้องใบโต ยิ่งกว่านั้นยังมีความคมชัดไม่ได้แตกต่างไปจากกล้องถ่ายรูป DSLR หรือ Mirrorless ซะทีเดียว แต่ความจริงนั้นมันยังมีอะไรอีกมากหลายที่แตกต่างกันอยู่เยอะแยะเลยทีเดียว
 
อาทิเช่นเรื่องเซนเซอร์ เหตุด้วยกล้องถ่ายภาพจะมีเซนเซอร์ที่ใหญ่กว่าเซนเซอร์ของกล้องจากมือถือ ยิ่งขนาดเซนเซอร์ใหญ่เท่าไหร่ ก็จะรวบรวมแสงได้เหนือกว่า ได้รายละเอียดภาพที่ยิ่งกว่า มีมิติเหนือกว่า รวมถึงทำให้ปรับความตื้นลึกของภาพได้อย่างนานาประการมากกว่า เนื่องด้วยสมาร์ทโฟนอาจจะทำได้ไม่ดีเท่ากล้องถ่ายรูปเท่าไรนัก และสิ่งเหล่านี้ยังมีผลต่อคุณภาพของภาพที่ได้ด้วย ยิ่งกว่านั้นยังช่วยตัดทอน Noise หรือเม็ดสีที่แตกในภาพ โดยเมื่อย้อนกลับไปมาดูภาพจากกล้องโทรศัพท์มือถือก็จะเห็น Noise มากกว่าภาพจากกล้องถ่ายรูปทั่วๆ ไป นั่นก็ทำให้เห็นแล้วว่าเซนเซอร์จาก กล้องสมาร์ทโฟนเล็กกว่ากล้องถ่ายภาพทั่วไป
 
หลังจากนั้นก็จะเป็น Optical zoom ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่ทำให้กล้องถ่ายรูปดีกว่ากล้องถ่ายภาพจากสมาร์ทโฟน หากเป็นการขยายของกล้องถ่ายรูป เจ้าสามารถปรับได้ตามความต้องการได้เลย โดยน้อยรายในหมู่แบรนด์มือถือที่จะมีคุณลักษณะนี้ เพราะว่าภาพบางภาพ ก็ต้องใช้การซูมแบบ Optical เพื่อได้ความเกี่ยวข้องของวัตถุบนภาพที่ดียิ่ง รวมไปถึงหน่วยความจำก็ยังสำคัญ ก็เพราะว่าในสมาร์ทโฟนของเจ้าคงมีทั้งรูปถ่าย เพลง ภาพยนตร์ หรือไฟล์วิดีโอ ซึ่งนั้นเป็นปัญหาแน่ๆ หากท่านคิดว่าจะใช้กล้องโทรศัพท์เคลื่อนที่ถ่ายภาพท่านตลอดทริปที่กินซ่าหรือพาคู่ควงท่องเที่ยว Universal Studios ก็เพราะว่าท่านคงมิอยากมานั่งลบรูป ลบเพลงโปรด ไม่ก็ลิสภาพยนตร์ดังของเธอหรอก แต่ถ้ายอมสะพายกล้องถ่ายภาพสักตัว พร้อมทั้งเมมรี่การ์ดสำรองสัก 2-3 อัน แน่นอนว่าเธอได้ทั้งภาพถ่ายที่มากมาย และไฟล์วิดีโอตลอดทั้งทริปของเธอแน่นอน
 
นั่นเป็นข้อมูลขั้นแรกว่าเพราะเหตุไรคุณถึงต้องยอมสะพายกล้องตัวหนัก แล้วต้องยอมพักกล้องมือถือไว้ก่อน และอาจหยุดพักยาวๆ เลย ถ้าหากได้รู้จักกับกล้องตัวนี้ นั่นก็คือ Olympus OM-D E-M10 III ซึ่งกล้องถ่ายภาพ Olympus ตัวนี้ เป็นรุ่นที่ 3 ในซีรี่ส์ OM-D ซึ่งก่อนหน้านี้จะมีรุ่นพี่เป็น E-M5 และ E-M1 นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าตัวล่าสุด มันจะต้องดีกว่าตัวก่อนๆ แน่นอน เรามาดูจุดดี ๆ ของกล้องถ่ายภาพ Olympus OM-D E-M10 III ดีกว่าว่าคุ้มค่าต่อการพกพา มากกว่ากล้องถ่ายภาพมือถือหรือเปล่า
 
กล้องถ่ายรูป Olympus OM-D E-M10 III เป็นกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ระบบ Micro Four Thirds ใช้เซนเซอร์ 4/3 Live MOS Sensor ความละเอียด 16.1 ล้านพิกเซล และให้ภาพที่ขนาดใหญ่มากที่ 4608 x 3456 และ Ratio ที่พอเหมาะของภาพคือ 4:3 ซึ่งเซนเซอร์ที่ว่ามานี่อาจจะไม่ใหญ่มาก แต่ก็สามารถทำงานได้เป็นอย่างยอดเยี่ยม จุดเด่นของกล้องถ่ายภาพ Olympus ตัวนี้ ในความคิดส่วนตัวน่าจะเป็นเรื่องของการระบบกันสั่นของเขา เนื่องจากว่ากล้องถ่ายภาพ Olympus รุ่นนี้ เป็นระบบกันสั่น 5 แกน สามารถลดความสะเทือนได้ถึง 4 Stop ซึ่งหากว่าถ่ายด้วยความไวชัตเตอร์ที่ 1/10 วินาที แล้วถือถ่ายก็ยังทำได้ดีเลย
 
และด้วยความที่ต้องมี 3 สิ่งต่อไปนี้ ที่ทำให้ระบบกันสั่น 5 แกนทำงานได้ดี นั่นก็คือ เลนส์ เซ็นเซอร์รับภาพ และโปรเซสเซอร์ประมวลภาพ ซึ่งกล้องถ่ายรูป Olympus ตัวนี้ใช้โปรเซสเซอร์ประมวลภาพ TruePic VIII จึงให้รูปถ่ายที่มีคุณภาพสูงสวยงามแม้ที่แสงน้อย โดยที่เธอไม่จำเป็นจะต้องตั้งค่า ISO สูงๆ ด้วยซ้ำ แถมกันการเกิด Noise ด้วย และด้วยระบบกันสั่น 5 แกนนี้ อีกทั้งเป็นเหตุให้การบันทึกภาพยนตร์ของคุณไม่เป็นปัญหาเช่นกัน โดยกล้องถ่ายรูป Olympus OM-D E-M10 III สามารถบันทึกภาพยนต์คุณภาพสูงถึง 4K เลยเทียว ที่ถึงแม้จะถือด้วยมือ และไม่ได้มีวัสดุอุปกรณ์เสริมใดๆ ก็ยังให้ภาพที่ได้ออกมาสะดวก ถ้าเกิดสั่นไหว ก็เกิดได้น้อยที่สุด ยิ่งไปกว่านี้ยังสามารถแยกเฟรมเพื่อบันทึกภาพนิ่งจากวิดีโอ 4K ที่บันทึกไว้เช่นกัน

 จะเห็นว่านี่แค่จุดเด่นเรื่องเดียวของกล้องถ่ายรูป Olympus OM-D E-M10 III ก็เอาชนะกล้องมือถือลอยลำแล้ว นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์หลากหลาย อีกมากมายเลยที่ยังไม่ได้อ้างอิงถึง อาทิ โหมดถ่ายภาพ Auto ที่ให้ท่านปรับตั้งค่าตามที่คุณต้องการ หรือโหมดถ่ายภาพสำเร็จรูป Scene อีกทั้งโหมดถ่ายภาพขั้นสูง Advanced Photo ที่มีให้เลือกหลากหลาย ได้แก่ Live Composite, Live Time และ ถ่ายภาพซ้อน เป็นต้น และโหมด Art Filter ซึ่งก็มีให้เลือกเยอะอยู่เหมือนกัน เพื่อภาพมีความน่าดึงดูดใจมากเพิ่มขึ้น และจุดเด่นอีกอย่างของกล้องถ่ายภาพ Olympus ตัวนี้ คือมีขนาดที่เล็ก และพกพาสะดวกมาก ซึ่งมีน้ำหนักเฉพาะแค่บอดี้แค่ 362 กรัม เพียงเท่านั้น ตัวนี้จึงสามารถลบคำปรามาสที่ว่า "กล้องมันหนัก" ไปได้เลย
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : olympus ราคา

Tags : Olympus,กล้อง olympus,olympus ราคา