สวัสดี บุคคลทั่วไป

Huawei P10 และ Huawei P10 Plus อีกหนึ่งช่องทางที่ยังคุ้มค่า

  • 0 ตอบ
  • 237 อ่าน
ภายในปี 2018 ถึงแม้ Huawei จะเปิดตัว Huawei P20(หัวเว่ย p20) และ P20 Pro(หัวเว่ย p20Pro)ออกมาแล้ว โดยมาในสเปคโหดถูกอกถูกใจคนชื่นชอบของแรงเช่นเคยโดย P20 Pro จะมาพร้อมกับกล้อง 3 ตัว (P20 มีแค่ 2 ตัว) พร้อมทั้งเลนส์ Leica และเทคโนโลยี AI ที่จะทำให้กล้องรู้จักวัตถุและเลือกการตั้งค่าที่เหมาะสม ราคา Huawei P20 อยู่ที่ 19,990 บาท และ Huawei P20 Pro ราคา 27,990 บาท

 หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่า แล้วรุ่นที่ออกมาครั้งก่อนในปี 2017 อย่าง Huawei P10 (หัวเว่ย p10) และ Huawei P10 Plus (หัวเว่ย p10Plus) นั้นยังน่าควักกระเป๋าหามาใช้งาน อยู่หรือไม่ในตอนนี้ อิฉันจึงจะมาพิเคราะห์สเปคและจุดดีให้ได้ดูเพื่อช่วยในการตัดสินใจ       


  •  ลวดลายเฉพาะเจาะจง


P10 และ P10 Plus ได้ใช้บริการของ Pantone บริษัทออกแบบระดับโลกสร้างสีเฉพาะอย่าง สีเขียว Greenery และ สีน้ำเงิน Dazzling Blue สำหรับสีเขียว Greenery เป็นสีที่ให้อารมณ์เป็นอันเดียวกับธรรมชาติ ด้านสีน้ำเงิน Dazzling Blue นั้นเป็นสีที่ดูนุ่มลึกเสมือนหนึ่งสีจากน้ำทะเล โดยสีที่มีออกมาให้เลือกทั้งหมดที่มี คือ Greenery - สีเขียว, Dazzling Blue - สีน้ำเงิน,Dazzling Gold - สีทอง (สะท้อนแสง),Graphite Black - สีดำ,Mystic Silver - สีเงิน,Prestige Gold - สีทอง,Rose Gold - สีชมพู,Ceramic White - สีขาว
 

  • กล้องถ่ายรูปข้างหลังคู่ แบบ DUAL CAMERA 2.0


ถ้าหากกล่าวถึงยี่ห้อ Huawei สิ่งที่นึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ ก็คงเป็นเรื่องกล้อง โดยรุ่นนี้เป็นกล้องถ่ายภาพข้างหลังคู่พร้อมทั้งเลนส์ที่ได้รับการยืนยันจาก Leica ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล (mono) + 12 ล้านพิกเซล (RGB) และยังได้รับการอัพเกรดเป็น Leica Dual Camera 2.0 Pro Edition ในรุ่น P10 Plus เช่นกัน พร้อมด้วยระบบ OIS กันสั่น, Hybrid Zoom 2 เท่า และ 4-in-1 hybrid auto-focus ที่จะช่วยให้การถ่ายรูปนั้นนิ่ง เพิ่มเติมความสามารถในการซูม โฟกัสได้ไวเพิ่มมากขึ้น ยิ่งไปกว่านี้ยังมีโหมดการจับภาพใหม่เสริมเข้ามานั่นก็คือโหมด portrait ที่ใช้เทคโนโลยี Leica Style Portraiture ซึ่งเป็นโหมดที่จะช่วยให้การถ่าย portrait นั้นมีมิติมากขึ้น และเทคโนโลยีตรวจค้นใบหน้าแบบ 3 มิติ
 
 Huawei P10 และ P10 Plus ไม่ได้ใช้เลนส์ประเภทเดียวกัน เพราะ P10 Plus มาพร้อมกับเลนส์อีกรุ่นของ Leica ที่มีชื่อว่า SUMMILUX โดยมีค่า F อยู่ที่ F1.8 ซึ่งจะช่วยในเรื่องของถ่ายรูปแบบ Bokeh ได้ดีขึ้น รวมไปถึงการชักรูปเวลาค่ำก็ดีขึ้นอีกด้วย ส่วนของ P10 ยังคงใช้เป็นรุ่น SUMMARIT แบบเดียวกับตอน Mate 9 และ P9 โดยค่า F นั้นอยู่ที่ F2.2


  •  กล้องด้านหน้าของ LEICA


P10 และ P10 Plus นั้นเป็นโทรศัพท์มือถือตัวแรกของโลกที่มาพร้อมกับกล้องด้านหน้าพร้อมกับเลนส์ที่ผ่านการรับรองจาก Leica โดยกล้องถ่ายรูปข้างหน้าของทั้งคู่นั้น มีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล และมีค่า F อยู่ที่ F1.9 ช่วยให้การถ่ายภาพในที่มืดได้ดีขึ้น เพราะสามารถรับแสงได้มากขึ้นถึง 2 เท่า
 
 4. ความแรงของ CPU KIRIN 960
ชิปที่ใช้ภายใน Huawei P10 และ P10 Plus คือ Kirin 960 ตัวเดียวกับที่ใช้ใน Mate 9 และ Mate 9 Pro ซึ่งทาง Huawei ก็ย้ำในเรื่องของการใช้งานว่าความไวจักไม่ลดลงครั้นเมื่อใช้งานไปนานๆ ทั้งยังมี Machine Learning พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้
 

  • ซอฟต์แวร์ EMUI 5.1


P10 และ P10 Plus ใช้ EMUI 5.1 โดยคุณลักษณะไฮไลท์คือการนำซอฟต์แวร์จาก GoPro มาใช้ ซึ่งเป็นการนำภาพถ่ายที่เป็นไฮไลท์ต่างๆ จากในสมุดภาพมาเล่นเป็นวิดีโอ


  •  มือถือตัวแรกที่รองรับสัญญาณ 4.5G LTE


Huawei เป็นแบรนด์ผู้ก่อกำเนิดอุปกรณ์เครือข่ายรายใหญ่อีกด้วย จึงทำให้ P10 Plus เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่รองรับการใช้งาน 4.5G LTE แถมยังมาพร้อมกับเสาสัญญาณภายในตัวถึง 4 เสา ส่วนของ P10 ยังคงเป็น 2 เสาอยู่ตามปกตินะฮะ


  •  แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น และชาร์จรวดเร็วขึ้น


P10 และ P10 Plus มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่มีความจุใหญ่ขึ้นเมื่อเปรียบกับตอน P9 และ P9 Plus ซึ่งแบตเตอรี่ของ P10 นั้นมีขนาดอยู่ที่ 3,200 mAh ด้าน ของ P10 Plus นั้นมีความจุอยู่ที่ 3,750 mAh


  •  ราคาที่ไม่แพงในปัจจุบัน


ในปฐมฤกษ์ที่เปิดฉาก Huawei P10 และ Huawei P10 Plus สนนราคาอยู่ที่
Huawei P10 (32GB) มูลค่า 17,900 บาท
Huawei P10 (64GB) สนนราคา 19,900 บาท
Huawei P10 Plus (64GB) ราคา 23,900 บาท

 แต่ว่าหลังจากที่ Huawei P20 และ HuaweiP20 Pro เปิดตัวมา ราคาของ HuaweiP10 และ HuaweiP10 Plus นั้นย่อมเยาลงมาก บางคราวหากว่าจ่ายเงินพร้อมกับโปรโมชั่นราคาก็ลดลงกว่าครึ่งเลยเทียว

 นี่คือข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้ผู้ที่คิดจะซื้อ Huawei P10 และ Huawei P10 Plus ในระยะนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย

Tags : huawei p10,หัวเว่ย p10,huawei p10 ราคา