สวัสดี บุคคลทั่วไป

Fujifilm บริษัทใหญ่ที่ไม่มีวันล้ม

  • 0 ตอบ
  • 256 อ่าน
Fujifilm บริษัทใหญ่ที่ไม่มีวันล้ม
« เมื่อ: ตุลาคม 13, 2018, 06:51:39 AM »
                ในบรรดากล้องถ่ายรูปดิจิตอลและกล้องมิลเลอร์เลสที่กำลังเป็นที่นิยมในบ้านเรากับกระแสในทั่วโลกนั้น หากไม่อ้างอิงถึงแบรนด์ ฟูจิ ก็อาจจะเหมือนกับขาดสิ่งไรไปบางอย่าง ในสมัยนี้กล้องฟูจิ ราคาหลากหลายที่มีให้เลือกสรรซื้อหานั้น  ได้ย่างเหยียบนั่งอยู่ในใจของผู้ที่รักการถ่ายภาพอย่างกว้างขวาง จัดว่าเป็นแบรนด์ที่ประสบผลสำเร็จในยุคปัจจุบัน มียอดขายในแต่ละปีสูงที่สุดในไทยและระดับต้นๆในเอเชียรวมไปถึงทั่วโลกในกลุ่มกล้องถ่ายภาพมิลเลอร์เลสนั้น กว่าจะตัดผ่านมาตราบจุดนี้ได้ เรียกได้ว่าฝ่าลูกคลื่นมรสุมทางเศรษฐกิจกับทั้งแนวทางนวัตกรรมที่บริษัทเก่าอย่าง Fujifilm ต้องหมั่นตะเกียกตะกายและวิ่งให้มีไหวพริบอยู่เสมอ ซึ่งก็เหลือเชื่อว่า Fujifilm ก็ทำมันได้อย่างน่าประหลาดเลยทีเดียว
                ฟูจิ โฟโต้ ฟิล์ม ก่อตั้งเมื่อปี 1934 ตามแนวนโยบายของรัฐบาลญี่ปุ่นในช่วงเวลานั้นที่อยากจะมีบริษัทฟิล์มถ่ายรูปเป็นของตนเอง และมีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่องตามลำดับ จนปี 1965 จึงได้เข้าทำส่วนย่อยที่สหรัฐฯและทั่วโลก และในปี 1995 ฟูจิก็ตกลงใจก้าวเข้ามาบุกตลาดแข่งขันกับเจ้าวงการในประเทศสหรัฐอเมริกาพร้อมทั้งในตลาดโลกอย่าง โกดัก ที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 90% ฟูจิกลับใช้เทคนิคพลิกมาช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดจากโกดักได้มากกว่า ทำให้มีส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นเป็น 33% ในปี 1995 กับทั้งเพิ่มพูนอีกเป็น 60% ในปี 1996 ที่ขณะนั้นทั้งกล้องฟูจิฟิล์ม และโกดักต่างต่อสู้กันที่จะเป็นเจ้าตลาดฟิล์ม แต่หารู้ไม่ว่ามีคลื่นเทคโนโลยีลูกใหม่ที่กำลังถาโถมเตรียมที่จะเข้าผลัดเปลี่ยนอยู่เสมอ
                ช่วงจุดเปลี่ยน ช่วงความปั่นป่วนของธุรกิจกล้องฟิล์มคือตอนปี 2000 ต้นๆ ในขณะที่บริษัท SONY กับ HP ออกจำหน่ายกล้องถ่ายภาพดิจิตอลขึ้นมาเป็นครั้งแรกอีกทั้งสามารถร้องเรียกความสนใจจากคนรักการถ่ายภาพไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียวในช่วงนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ามาของ smart phone และ social media ยิ่งกว่านั้นการถ่ายรูปดิจิทัลนั้น ถูกกว่า ง่ายกว่า และเร็วกว่ามาก จึงเป็นผลให้พฤติกรรมผู้ซื้อเปลี่ยนไป  หน่วยงานอีสต์แมนโกดักขณะนั้นเอาแต่คิดว่าการใช้ฟิล์มถ่ายรูปจะหลงเหลืออยู่ได้อีกระยะหนึ่ง ได้แก่ไม่ตกลงฮวบฮาบอย่างแน่แท้ โดยเหตุนั้นโกดักจึ่งยังคิดว่าจะเก็บกระแสกล้องถ่ายรูปฟิล์มไปอีกสักระยะนึง แต่ฟูจิมองว่าสุดท้ายนี้แล้ว ดิจิตอลต้องมากัดกินเนื้อธุรกิจการค้าฟิล์มถ่ายรูปอย่างแน่นอนกับทั้งรวดเร็วด้วย CEO ของบริษัทก็ได้ตกลงใจที่จะนำหน่วยงานเข้าสู่ความเป็นดิจิทัล
ที่จริงแล้วกล้องถ่ายรูปดิจิตอลที่สร้างขึ้นมาได้บนโลกโมเดลแรกๆนั้นก็เป็นของบริษัทโกดักนั่นแหละ ที่อุตส่าห์สร้างเนรมิตขึ้นมาได้แต่ระดับผู้บริหารไม่สานต่ออย่างเป็นจริงเป็นจัง กลับเห็นเป็นเพียงสิ่งที่จะมาทำลายกิจการค้าหลักคือฟิล์ม ฉีกแนวจากผู้บริหารของ ฟิจิฟิล์ม ที่ถึงแม้จะมิได้ริเริ่ม แต่ว่าก็ไม่เคยตกเทรนด์ ได้พัฒนากล้องถ่ายภาพดิจิตอลออกจำหน่ายอย่างจริงจัง ระดับผู้บริหารฟูจิมีโลกทัศน์ที่แตกต่างจากผู้บริหารโกดัก ที่วางแผนไปสู่สมัยใหม่อย่างค่อยเป็นค่อยไป อีกทั้งเคยได้ใช้นวัตกรรมที่ตัวเองมีและกลยุทธ์ต่างๆ ที่ใช้ถนอมสภาพสีบนแผ่นฟิล์ม มาประยุกต์ใช้กับสินค้าเครื่องสำอางค์แทน โดยเฉพาะนวัตกรรม collagen ที่ช่วยรักษาสภาพความชุ่มชื้น พร้อมด้วยความอ่อนเยาว์ของผิวได้ ออกยี่ห้อเครื่องสำอางภายใต้ชื่อ Astalift ในปี 2007 อีกทั้งออกขายในตลาดจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น รวมถึงประเทศในยุโรป ซึ่งปัจจุบันนี้ได้กำไรให้บริษัทกว่า 3.4 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ไม่ใช่แค่นั้น Fujifilm ยังนำเทคโนโลยี Digital Camera Tech ประยุกต์ใช้กับเครื่องมือทางการแพทย์ สำหรับการบันทึกภาพเพื่อวินิจฉัยโรค พร้อมกับพัฒนาการผลิตยาเยียวยาโรคมะเร็ง พร้อมกับโรคความจำเสื่อม ลดงบการพัฒนาด้าน Film & Analog ลงให้มาก
การรอดตายของ Fujifilm ในสมัยปัจจุบันที่ยังมีกล้องฟูจิ ราคามากมายให้ได้เลือกซื้อกันอยู่นั้น กุญแจสำคัญคือการมองการณ์ไกลและการรับทราบการเปลี่ยนเป้าหมายของกระแสลมเทคโนโลยีของท่านประธาน Shigetaka Komori, CEO of Fujifim ซึ่งมีเซนส์ของความระแวดระวังภัยมากกว่าบริษัทอื่นใด ทั้งนี้เพราะเห็นเทรนด์ดิจิตอลพร้อมๆ กันกับยี่ห้ออื่นแต่เชื่อว่าตลาดฟิล์มจะสูญพันธุ์อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเพราะฟิล์มถ่ายรูปเป็นธุรกิจหลัก ถ้าไม่สามารถปรับตัวได้อย่างทันทีทันใดและสร้างธุรกิจการค้าใหม่ทันท่วงที เคราะห์กรรมก็คงไม่พ้นจากการหมดตัว และข้อแก้ไขการณ์จากการเห็นภัยอันตรายจากเทคโนโลยีที่แปรเปลี่ยนอยู่ตลอดแล้วไม่หยุดอยู่กับที่เปลี่ยนวิสัยทัศน์และกลยุทธ์องค์การให้เข้ากับสภาพประจุบันขณะนั้นๆให้มากที่สุด กล่าวถึงให้เราเห็นว่าเราไม่ควรที่จะหยุดอยู่กับที่ไม่เช่นนั้นเราก็จะไม่เห็นความน่าจะเป็นที่จะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นในอนาคตนั่นเอง

Tags : กล้องฟูจิ,กล้องฟูจิ ราคา,Fujifilm