แฟชั่นหรือความนิยม (อังกฤษ: fashion) ราชบัณฑิตยสถาน สมัคร ufabet นิยามว่า "ความนิยม, แบบหรือกระบวนการที่นิยมกันทั่วๆไปในเลวทรามช่วงเวลาหนึ่ง." เป็นการเห็นด้วยกระทั่งกำเนิดเป็นความนิยม มีแนวทางการกำเนิดภาษาใหม่ ซึ่งเป็นช่วงๆเวลาหนึ่งเพียงแค่นั้น

ประวัติความเป็นมา

เสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวเป็น 1 ในต้นสายปลายเหตุ 4 ที่มุนษย์อยากสำหรับการดำรงชีพเพื่อปกปิดร่างกายรวมทั้งให้ความอบอุ่น ความก้าวหน้าของคนเราทำให้เสื้อผ้าและก็อาภรณ์เปลี่ยนไปตามช่วง เสื้อผ้ายังบอกถึงรูปแบบของผู้ใส่ได้ด้วย อาทิเช่น ฐานะ, เชื้อชาติ, อื่นๆอีกมากมาย

การพัฒนาของแฟชั่นในแต่ละช่วงไม่เหมือนกันมากมาย ขึ้นกับสาเหตุหลายๆอย่าง เป็นต้นว่า การบ้านการเมือง เศรษฐกิจ ลักษณะอากาศ อื่นๆอีกมากมาย ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 แฟชั่นโลกเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนเจน โดยยิ่งไปกว่านั้นปี คริสต์ศักราช 1920 - 1930 หรือเรียกว่ายุค แฟลปเปอร์ (Flapper) หญิงสวมกระโปรงสั้นเป็นครั้งแรก และก็ข้างหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในสภาพเศรษฐกิจเสื่อมถอย เพศหญิงจำต้องออกมาจากบ้านเพื่อดำเนินงานหารายได้ โดยเหตุนั้นเสื้อผ้าที่ใส่ย่อมแปรไปเพื่อเอื้อประโยชน์ในผู้สวมมากยิ่งขึ้น กางเกงก็เลยเป็นที่ชื่นชอบ ตั้งแต่สมัยแฟลปเปอร์เป็นต้นมา แฟชั่นของโลกได้ก้าวเข้าสู่ความเป็นสากล เพราะว่าการติดต่อสื่อสารของโลกตะวันตกรวมทั้งทิศตะวันออกเป็นไปได้เปิดกว้างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีการไปมาหาสู่กัน แฟชั่นของโลกตะวันตกก็เลยเข้ามามีหน้าที่กับโลกทิศตะวันออก ดังเช่น ชาวไทยรณรงค์ให้สวมหมวก หรือ สตรีไทยเลิกสวมโจงกะเบน เพื่อความเป็นสากล

ลักษณะหรือแบบแผนของเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวของแต่ละช่วง เรียกว่า สไตล์ (Style) แต่ละคนมีสไตล์การแต่งตัวแตกต่างกัน อาทิเช่น บางบุคคลถูกใจแต่งตัวสไตล์ พั้งค์ (Punk) หรือเด็กหญิงๆถูกใจสไตล์เย้ายวน ที่ฝรั่งเรียกว่า ราซี่ (Racy or Provocative) ส่วนคำว่า เทรนด์ (Trend)หมายถึงแฟชั่นปัจจุบันที่กำลังเป็นที่ชื่นชอบ

สไตล์การแต่งตัวสามารถจำแนกประเภทได้เป็นจำพวกนับไม่ถ้วน ตั้งแต่นี้ต่อไปเป็นสไตล์เด่นๆสำคัญๆที่ได้รับความนิยมในอดีตกาลจนถึงเดี๋ยวนี้ บางสไตล์จัดว่าโบราณไปแล้วในตอนนี้ บางสไตล์ถือได้ว่าคลาสสิก เพราะว่าแต่งเวลาใด ก็ผิดคิดว่าเชยหรือตกรุ่น แม้กระนั้นยังมีบางสไตล์ที่เคยเชยไปแล้วบางทีอาจเวียนกลับมาเทรนด์อีกที