การเปลี่ยนใช้ใหม่ (อังกฤษ: recycling) เป็นการจัดแจงสิ่งของเหลือกินเหลือใช้ที่กำลังจะเป็นขยะโดยนำไปผ่านขั้นตอนการเปลี่ยนสภาพ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรวม) เพื่อเป็นสิ่งของใหม่แล้วนำกลับมาใช้ได้อีก อุปกรณ์ที่ผ่านการเปลี่ยนแปลงภาวะนั้นบางครั้งอาจจะเป็นผลิตภัณฑ์เดิมหรือสินค้าใหม่ก็ได้ แทงบอลโลกการแปรเปลี่ยนใช้ใหม่สื่อความหมายแตกต่างจาก การใช้ซ้ำ (reusing) ซึ่งก็คือ การนำกลับมาใช้ใหม่โดยไม่ผ่านขั้นตอนเปลี่ยนสภาพใดๆก็ตามทั้งหมด

ในความรู้ความเข้าใจของคนบางกรุ๊ปนั้น การเปลี่ยนแปลงใช้ใหม่ยังเป็น แทงบอลการนำอุปกรณ์เหลือกินเหลือใช้กลับมาเปลี่ยนแปลงแบบอย่างหรือปรับปรุงรูปร่างใหม่ให้สามารถประยุกต์ใช้คุณประโยชน์ในแบบอื่นๆเป็นต้นว่า ขวดน้ำพลาสติก ถ้าเกิดประยุกต์ใช้ใส่น้ำอีกทีคือการใช้ซ้ำ แต่ว่าหากนำเอาขวดนำพลาสติกมาตัดให้เป็นกระป๋อง แล้วค่อยนำไปใช้ตัดดินใส่ในถุง หรือนำขวดพลาสติกมาตัดครึ่งทำเป็นแจกันใส่ดอกไม้หรือเป็นที่ใส่ปากกา มักถูกเรียกว่าเป็นการแปรขวดน้ำพลาสติกเพื่อใช้ใหม่

การเปลี่ยนใช้ใหม่ในสมัยก่อนอุตสาหกรรม (pre-industrial) มีหลักฐานว่าเศษทองบรอนซ์แล้วก็โลหะอื่นๆถูกเก็บรวบรวมรวมทั้งนำไปหลอมเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ในยุโรป2 ในสหราชอาณาจักร ฝุ่นแล้วก็เถ้าถ่านจากการเผาไหม้ไม้ฟืนแล้วก็จากไฟถ่านหิน (coal fire)3 จะถูกเก็บรวบรวมโดยคนเก็บขยะ (dustmen)4 แล้วก็นำไปเปลี่ยนสภาพใหม่แม้ว่าจะมีคุณภาพด้อยลง (downcycled)5 เพื่อใช้เป็นสิ่งของรากฐานสำหรับในการทำก้อนอิฐ กำลังขับเขยื้อนหลักของการแปรเปลี่ยนใช้ใหม่ชนิดนี้มาจากผลตอบแทนด้านเศรษฐกิจสำหรับเพื่อการได้เชื้อเพลิงจากอุปกรณ์ที่แปรใช้ใหม่แทนที่จะจำต้องซื้อวัตถุดิบบริสุทธิ์ทั้งสิ้น และความผิดพลาดสำหรับการกำจัดขยะสาธารณะในพื้นที่ที่มีประชาชนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นมากมาย1 ในปี 1813, เบนจามิน ลอว์ (Benjamin Law) จากเมืองกางตลีย์ ในบริเวณยอร์กเชอร์ ของอังกฤษ (Batley, Yorkshire) ได้พัฒนากระบวนการของการเปลี่ยนเศษผ้าที่ไม่ใช้แล้ว (rag) ให้เปลี่ยนเป็น 'เส้นใยที่ได้จากเศษผ้าเก่าๆ' (shoddy) รวมทั้งผ้าทำจากขนสัตว์คุณภาพแย่ หรือ 'มังโก' (mungo) อุปกรณ์จำพวกใหม่นี้จะรวมผสานเส้นใยที่ได้จากการเปลี่ยนใช้ใหม่กับขนสัตว์บริสุทธิ์ (virgin wool) เข้าไว้ร่วมกัน ในเขตบริเวณยอร์กเชอร์ทางภาคตะวันตก (West Yorkshire) อุตสาหกรรมเส้นใยที่ได้จากเศษผ้าขี้ริ้วในเขตเมือง อย่างเช่น กางตลีย์ แล้วก็ ดิวส์เบอปรี่ (Dewsbury), รับประทานช่วงเวลามาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 ไปจนกระทั่งปี 1914 เป็นขั้นต่ำ