สวัสดี บุคคลทั่วไป

โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่

  • 0 ตอบ
  • 268 อ่าน
โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่
« เมื่อ: ตุลาคม 27, 2018, 05:53:16 AM »
ย้อนกลับในศก 2001 มือถือได้เริ่มมีการขายในวงกว้างแต่ทว่าเนื่องจากความเจริญของเทคโนโลยี ดังเช่นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือเครือข่าย ยังไม่พร้อมต่อการใช้งานอย่างเคร่งครัดมากนัก เมื่อผนวกกับราคาที่สูงเป็นปกติของเครื่องไม้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ๆ ในขณะนั้น มีผลให้มีลูกค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่เท่าไหร่นักเมื่อเทียบเคียงกับท้องตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่รวมทั้งหมด
 
 แต่กระนั้นเวลาก็เปลี่ยนแปลงพร้อมทั้งการเจริญเติบโตของเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ จนถึงช่วงปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือ กลายเป็นสาระสำคัญอีกอย่างหนึ่งในชีวิตของหลายๆ คน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และโครงข่ายต่าง ๆ ส่งเสริมให้ผู้ใช้งานหลาย ๆ ล้านคนได้สื่อสารและมีกิจกรรมอื่น ๆ บนโทรศัพท์มือถือได้สบาย
 
 ในปี 2017 ยอดสุทธิส่งออกมือถือทั่วโลกอยู่ที่ 408 ล้านเครื่องซึ่งในไตรมาสที่ 3 ปี 2017 นั้นมือถือถูกจำหน่ายไปรวมทั้งสิ้นประมาณ 383 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 2016 โดยประมาณ 5% ซึ่ง 3 ระดับของแบรนด์ที่มียอดขายสูงสุดคือ 1. ซัมซุง ส่วนแบ่งตลาด 21%,2. แอปเปิ้ล ส่วนแบ่งตลาด 12%และ 3. หัวเว่ย ส่วนแบ่งการตลาด 10% พวกเราไปเจาะใจสภาพการณ์ของแต่ละแบรนด์กันเลย

 ท้ายปีที่ผ่านมา ซัมซุงเพิ่งจะเผยสถิติผลกำไรมากเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017ซึ่งเงินกำไรสุทธิตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงธันวาคมกระโจนไปแตะ 357,000 ล้านบาทแต่ดูเหมือน ซัมซุงจะทุบสถิติลงอีกครั้งหลังจากผ่านไปเพียง 3 เดือน พอเข้าสู่มีนาคม 2018โดยสร้างรายรับโดยประมาณ 1.7 ล้านล้านบาทแล้ว

 
โดยแม้เงินรายได้รวมเบ็ดเสร็จในไตรมาสแรกของปี 2018 นั้นจะต่ำกว่าไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา แต่กระนั้นด้วยค่าใช้จ่ายต่างๆ นั้นต่ำกว่า ทำเอา ซัมซุงสามารถสร้างเงินกำไรได้เป็นสถิติใหม่ของบริษัทอีกครั้งที่ 14,600 ล้านเหรียญ แปลงเป็นเงินไทยที่ 450,000 ล้านบาท

ที่มาของเงินกำไรที่เป็นสถิตินี้ ก็เป็นชิ้นงานของสมาร์ทโฟนซัมซุง Galaxy S9 / S9+ ที่ศกนี้เลื่อนมาจำหน่ายรวดเร็วขึ้น ผนวกกับความสำเร็จของ Galaxy A (2018) ที่เป็นโทรศัพท์ซัมซุงมูลค่าไม่แพงที่ขายในหลายๆ เมือง และหน้าจอ OLED แต่ที่เป็นตัวทำเงินรายได้สูงสุดจริงๆ นั้นเป็นชิป DRAM ที่สามารถทำการผลกำไรได้สูงถึง 70% ของท้องตลาด

 ส่วนแอปเปิ้ลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงิน 2018 ของบริษัท (ตุลาคม-ธันวาคม 2017) โดยรายได้รวมทำสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัทอีกครั้ง 88,293 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.83 ล้านบาท ขยาย 13% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีผลกำไรสุทธิ 20,065 ล้านดอลลาร์ หรือ 643,485 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นสถิติใหม่บริษัทเหมือนกัน ส่วนรายรับจากต่างประเทศนอกอเมริกาคิดเป็น 65% ของรายรับรวม

 ไตรมาสที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเริ่ม ขาย iPhone X โดยคาดหมายกันว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่ทำกำไร แม้จะมีข่าวใส่สีออกมาไม่ดีนัก ซึ่งในรายงานผลประกอบการนั้นแอปเปิ้ลชี้แจงตัวเลขรวมของ iPhone ทั้งหมดว่าขายได้ 77.316 ล้านเครื่อง ลดลงจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน 1% (78.290 ล้านเครื่อง)

 เงินได้จาก iPhone ทุกรุ่นอยู่ที่ 61,576 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% (54,378 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.74 ล้านบาท)
                ที่น่าสนใจคือ iPhone X เป็นไอโฟนรุ่นที่ขายดิบขายดีที่สุดของแอปเปิ้ลในทุกอาทิตย์ นับจากเริ่มต้นส่งมอบเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 และจำหน่ายได้มากกว่าที่แอปเปิลหวัง
 
 ทางด้านหัวเว่ยสรุปผลประกอบการรวมปี 2017 ยังคงมีรายได้ที่ดีแตะ 9,250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 296.64 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2016 ถึง 15.7% คิดเป็นกำไรสุทธิ 730,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 23.4 ล้านบาท พอกพูน 28.1% ในปีที่ผ่านมา

 โดยในปี 2017 หัวเว่ยได้ส่งมอบสมาร์ทโฟนทั้งหมด 153 ล้านเครื่อง (รวมยี่ห้อ Honor ที่เป็นเจ้าตำรับเดียวกัน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 จากปี 2016

 โดยครั้นปี 2016 CEO ของ หัวเว่ยเคยป่าวประกาศเอาไว้ว่า เป้าหมายของบริษัทคือการก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทโทรศัพท์มือถือยิ่งใหญ่อันดับ 1 ของโลกให้ได้ภายใน 5 ปี อย่างไรก็ตามทุกวันนี้ หัวเว่ยยังค่อนข้างจะมีปัญหาในการพยายามเจาะตลาดโซนอเมริกาเหนือ ทั้งนี้เพราะฝั่งนั้นยังมีเจ้าตลาดอย่าง iPhone ควบคุมอยู่ ด้านตลาดในฝั่งยุโรปนั้น หัวเว่ยทำได้สวยเลยเทียว เพราะโทรศัพท์มือถือขั้นไฮเอนด์ในซีรีส์ Mate และ P ได้รับความนิยมชมชอบเป็นอย่างดี

 ถึงแม้ยอดสรุป3 เดือนล่าสุดปี 2018 ของหัวเว่ยยังไม่ประกาศออกมา แต่ปี 2018หัวเว่ย ก็หมายมุ่งไปที่การใช้งานเทคโนโลยีใหม่ในสเกลใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Internet of Thing, Cloud Computing, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 5G
 
 ในหลายปีที่ผ่านมาเครือข่ายไร้สาย 3G มีการใช้งานทั่วโลก หลายบ้านเมืองมี 4G และปี2018 เดาว่าเป็นการเปิดฉากแห่งยุค 5G ซึ่งจะมีการใช้งานในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 23 (พย็องชัง 2018) ที่ประเทศเกาหลีใต้ เป็นการทดลองศักยภาพก่อนจะใช้อย่างเป็นทางการใน 2 ปีข้างหน้า
 
 การแสดงตัวของโครงข่ายไร้สาย 5G เป็นเหตุให้มีการคาดการณ์กันว่า โทรศัพท์มือถือจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันมากขึ้นไปอีกโดยจำเป็นต้องเฝ้ารอจับตามองดูว่าแบรนด์สมาร์ทโฟนเหล่านี้จักใช้โอกาสนี้เป็นประโยชน์ได้มากแค่ไหนในการเพิ่มยอดขายและชิงชัยความเป็นที่ 1 ต่อไป

Tags : โทรศัพท์ซัมซุง,โทรศัพท์ซัมซุงราคา,โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่