สวัสดี บุคคลทั่วไป

Fujifilm บริษัทใหญ่ที่ไม่เคยล้ม

  • 0 ตอบ
  • 212 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
Fujifilm บริษัทใหญ่ที่ไม่เคยล้ม
« เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2018, 12:46:58 AM »
                ในเหล่ากล้องดิจิตอลกับทั้งกล้องมิลเลอร์เลสที่กำลังเป็นที่ชื่นชอบในบ้านเราพร้อมกับแนวทางในทั่วโลกนั้น หากไม่กล่าวถึงแบรนด์ ฟูจิ ก็อาจจะเหมือนกับขาดอะไรไปบางอย่าง ในสมัยปัจจุบันกล้องฟูจิ ราคาหลายหลากที่มีให้คัดเลือกซื้อหานั้น  ได้ย่างเหยียบนั่งอยู่ในใจของผู้ที่ชอบพอการถ่ายภาพอย่างกว้างขวาง จัดว่าเป็นยี่ห้อที่สำเร็จในปัจจุบัน มียอดจำหน่ายในแต่ละปีสูงที่สุดในประเทศไทยและระดับต้นๆในทวีปเอเชียรวมทั้งทั่วโลกในเหล่ากล้องถ่ายภาพมิลเลอร์เลสนั้น กว่าจะตัดผ่านมาจนจุดนี้ได้ นับได้ว่าฝ่าระลอกคลื่นมรสุมทางเศรษฐกิจและกระแสเทคโนโลยีที่บริษัทเก่าแก่อย่าง Fujifilm ต้องหมั่นตะเกียกตะกายและวิ่งให้ทันโลกอยู่เสมอ ซึ่งก็เหลือเชื่อว่า Fujifilm ก็ทำมันได้อย่างน่าประหลาดเลยทีเดียว
                ฟูจิ โฟโต้ ฟิล์ม ก่อตั้งเมื่อปี 1934 ตามแนวทางของรัฐบาลญี่ปุ่นในยุคนั้นที่ประสงค์จะมีบริษัทฟิล์มถ่ายรูปเป็นของตนเอง และมีการเจริญมาอย่างสม่ำเสมอตามลำดับ จนปี 1965 จึงได้เข้าไปทำส่วนย่อยที่สหรัฐอเมริกาและทั่วโลก พร้อมทั้งในปี 1995 ฟูจิก็ตกลงใจย่างก้าวเข้ามาบุกท้องตลาดแข่งขันกับเจ้าวงการในสหรัฐฯและในตลาดโลกอย่าง โกดัก ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 90% ฟูจิกลับใช้แผนการกลับด้านมาช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจากโกดักได้ยิ่งกว่า เป็นผลให้มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มมากขึ้นเป็น 33% ในปี 1995 กับทั้งทวีคูณอีกเป็น 60% ในปี 1996 ที่ในเวลานั้นทั้งกล้องฟูจิฟิล์ม และโกดักต่างขับเคี่ยวกันที่จะเป็นเจ้าวงการฟิล์มถ่ายภาพ แต่หารู้ไม่ว่ามีเกลียวคลื่นเทคโนโลยีลูกใหม่ที่กำลังถั่งโถมเตรียมที่จะเข้าผลัดเปลี่ยนอยู่เสมอ
                ช่วงจุดเปลี่ยน ช่วงมรสุมของธุรกิจกล้องถ่ายรูปฟิล์มคือช่วงเวลาปี 2000 ต้นๆ ในห้วงที่บริษัท SONY และ HP ออกจำหน่ายกล้องดิจิตอลขึ้นมาเป็นครั้งแรกและสามารถร้องเรียกจุดสนใจจากคนรักการถ่ายภาพไปได้ไม่ใช่หยอกเลยทีเดียวในช่วงนั้น โดยเฉพาะการเข้ามาของ smart phone และ social media ยิ่งกว่านั้นการถ่ายรูปดิจิทัลนั้น ย่อมเยากว่า ง่ายกว่า และรวดเร็วกว่ามาก จึงทำให้พฤติกรรมผู้ใช้ผันแปรไป  หน่วยงานอีสต์แมนโกดักในขณะนั้นเอาแต่คิดว่าการใช้ฟิล์มถ่ายรูปจะคงอยู่ได้อีกห้วงหนึ่ง ได้แก่ไม่ตกลงฮวบฮาบอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นโกดักจึงยังมองว่าจะเก็บกระแสกล้องฟิล์มไปอีกสักพักนึง แต่ฟูจิคิดว่าสุดท้ายนี้แล้ว ดิจิตอลต้องมากัดกินเนื้อธุรกิจการค้าฟิล์มถ่ายภาพอย่างแน่นอนกับทั้งรวดเร็วด้วย CEO ของบริษัทก็ได้ตกลงใจที่จะนำหน่วยงานเข้าสู่ความเป็นดิจิทัล
ที่จริงแล้วกล้องถ่ายภาพดิจิตอลที่กำเนิดขึ้นมาได้บนโลกโมเดลแรกๆนั้นก็เป็นของบริษัทโกดักนั้นแหละ ที่อุตส่าห์ผลิตเนรมิตขึ้นมาได้แต่ระดับผู้บริหารไม่สืบต่ออย่างเอาจริง กลับเห็นเป็นเพียงสิ่งที่จะมาบ่อนทำลายกิจการค้าหลักคือฟิล์มถ่ายรูป แปลกแยกจากระดับผู้บริหารของ ฟิจิฟิล์ม ที่ถึงจะมิได้เริ่มต้น แม้กระนั้นก็ไม่มีวันตกเทรนด์ ได้ปรับปรุงกล้องถ่ายภาพดิจิตอลออกวางจำหน่ายอย่างจริงจัง ผู้บริหารฟูจิมีโลกทัศน์ที่ต่างจากผู้บริหารโกดัก ที่ตระเตรียมก้าวเข้าสู่ยุคใหม่อย่างค่อยเป็นค่อยไป อีกทั้งเคยได้ใช้เทคโนโลยีที่ตัวเองมีและเทคนิคต่างๆ ที่ใช้ดำรงสภาพสีบนแผ่นฟิล์ม มาประยุกต์กับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์แทน โดยเฉพาะเทคโนโลยี collagen ที่ช่วยคงทนสภาพความชุ่มชื้น และความอ่อนเยาว์ของผิวได้ ออกแบรนด์เครื่องสำอางภายใต้ชื่อ Astalift ในปี 2007 พร้อมด้วยขายในตลาดจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น รวมไปถึงประเทศในยุโรป ซึ่งล่าสุดได้กำไรให้บริษัทกว่า 3.4 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ไม่ใช่แค่นั้น Fujifilm ยังนำเทคโนโลยี Digital Camera Tech ประยุกต์ใช้กับเครื่องมือทางการแพทย์ สำหรับการเก็บภาพเพื่อวินิจฉัยโรค พร้อมกับพัฒนาการผลิตยาเยียวยาโรคมะเร็ง กับโรคความจำเสื่อม ลดงบประมาณการพัฒนาด้าน Film & Analog ลงให้มากที่สุด
การอยู่รอดของ Fujifilm ในสมัยปัจจุบันที่ยังมีกล้องฟูจิ ราคาหลากหลายให้ได้เลือกซื้อของกันอยู่นั้น กุญแจสำคัญคือการมองวิสัยทัศน์และการรับทราบการเปลี่ยนทิศทางของกระแสลมเทคโนโลยีของท่านประธาน Shigetaka Komori, CEO of Fujifim ซึ่งมีเซนส์ของความระวังระไวภัยยิ่งกว่าบริษัทอื่นใด เพราะเห็นเทรนด์ดิจิตอลพร้อมๆ กันกับแบรนด์อื่นแต่เชื่อว่าตลาดฟิล์มจะสิ้นซากอย่างเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเพราะฟิล์มเป็นธุรกิจหลัก ถ้าไม่สามารถปรับตัวได้อย่างเร็วและสร้างกิจการค้าใหม่ทันท่วงที ชะตากรรมก็คงไม่พ้นจากการล้มละลาย และการปรับปรุงสภาพการณ์จากการเห็นภัยอันตรายจากเทคโนโลยีที่แปรเปลี่ยนอยู่ตลอดแล้วไม่หยุดอยู่กับที่เปลี่ยนวิสัยทัศน์และกลยุทธ์องค์กรให้เข้ากับสภาพการณ์สมัยนี้ขณะนั้นๆให้มากที่สุด เสนอให้เราเห็นว่าเราไม่ควรที่จะหยุดนิ่งไม่อย่างนั้นเราก็จะไม่เห็นความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นในเบื้องหน้านั่นเอง

Tags : กล้องฟูจิ,กล้องฟูจิ ราคา,Fujifilm