สวัสดี บุคคลทั่วไป

ประวัติศาสตร์กลุ่ม ร็อกแอนด์โรล ต้อง "Jim Marshall"

  • 0 ตอบ
  • 234 อ่าน
                ถ้าคุณเป็นผู้ที่หลงใหลในเสียงเพลง หรือว่าเสียงเพลง มั่นใจว่าคุณจักต้องรู้จักยี่ห้อเครื่องเสียงแบรนด์นี้เป็นอย่างดีแน่นอน ทั้งนี้เพราะเป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมขนานใหญ่ อาทิ ลำโพง หูฟัง เครื่องกระจายเสียง และต่างๆ อีกนานัปการ โดยประวัติภูมิหลังของแบรนด์นี้ ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของตำนานสังคมเพลงRock 'n' Rollเลยก็ว่าได้ และแบรนด์ที่กำลังกล่าวขวัญอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง โดยภูมิหลังของ Marshall นั้น จะมีเรื่องราวประการใดบ้าง พร้อมทั้งเพราะเหตุใดถึงได้มาเป็นยี่ห้อระดับโลกปานนี้ ดิฉันจักมาค้นหาคำตอบกัน
                Marshall นั้น ได้จัดตั้งโดย Jim Marshall ซึ่งจุดกำเนิดอยู่ที่การเป็นนักดนตรีมือโปรมาก่อน ซึ่งเล่นในตำแหน่งมือกลอง ต่อจากนั้นก็ได้ผันตนเองมาบริหารกิจการร้านขายเครื่องดนตรี พร้อมทั้งเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ โดยเริ่มจากการจัดจำหน่ายกลองชุดอีกทั้งกีตาร์ในลอนดอนบริเวณ Hanwell ซึ่งผู้บริโภคส่วนใหญ่จักเป็นนักดนตรีเพลงRock and Roll ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น อย่างเช่น ริตชี แบล็กมอร์ หรือเป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่เป็นเหตุให้มีลูกค้ามากขึ้น
                ภายหลังก็เริ่มมีนักดนตรีมีชื่อเสียง หลายท่านต้องการแอมป์ หรือเครื่องขยายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ พร้อมทั้งดังกว่าแต่ก่อน ด้วยเหตุว่าอุปสรรคที่ประสบเป็นส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องความดังของเครื่องกระจายเสียงที่ไม่พอในการบรรเลงโชว์สดนั่นเอง Marshall จึงได้ตกลงใจทดลองออกมาวางขาย และดันได้ผลเป็นการใหญ่ กลายเป็นการบอกปากต่อปาก จนคณะดนตรีหลายๆ วง สนใจ Marshall จึงจัดหามาจัดทำออกมาวางขายอย่างจริงจัง และได้ก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นณปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นจุดตั้งต้นของยี่ห้อ Marshall อย่างถ่องแท้
                แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่เป็นเหตุให้นักดนตรีทั้งหลายโปรดปราน อีกทั้งยังบอกเป็นความเห็นเดียวกันว่าเป็นแอมป์กีตาร์ที่น้ำเสียงดีเลิศเท่าที่เคยมีมา (ในสมัยนั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และถัดจากนั้นมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาผลิตแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมด้วยตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความน่าเชื่อถือจากมือกีตาร์สายบลูส์ แนวร็อก จากวงโด่งดัง ระดับตำนานเช่น The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมทั้ง AC/DC ฯลฯ
                และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในช่วงเวลา 60 ของ Marshall อย่างสังเขป ถึงกระนั้นเมื่อยุคได้ล่วงก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอล ยี่ห้อ Marshall ที่คร่ำหวอดในแวดวงเครื่องเสียงก็ได้ปรับปรุงและหยิบยกเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าร่วมมือในการผลิตสินค้าเพื่อให้ทันยุค ทันสมัย และถูกต้องตามความหวัง หรือตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone ที่เป็นสินค้าชนิดหูฟัง เพื่อให้ผู้บริโภค หรือว่าคนทั่วๆ ไปให้ได้รับประสบการณ์การรับฟังเสียงเพลงในแบบของ Marshall รวมถึงสินค้าประเภทลำโพงที่สามารถเชื่อมต่อบลูทูธได้ ซึ่งนั่นทำให้ Marshall เป็นที่นิยมอย่างมากมายเช่นเดียวกัน ด้วยแนวเสียงที่ไม่ซ้ำใคร อีกทั้งดีไซน์ที่ดูเป็นวินเทจ คลาสสิก สวยงาม ซึ่งรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่ารู้ และจะแนะนำนั่นก็คือ หูฟังปราศจากสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth พร้อมกับลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore โดยจักมีรายละเอียดดังนี้
 
หูฟังไร้สาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
                คือหูฟังไร้สายที่มีความคลาสสิกอยู่ภายในตัว ดีไซน์สวยงาม งามตามีสไตล์ ขนาดกะทัดรัดสามารถพับได้ ทำให้พกพาไปไหนต่อไหนได้สบาย มีการต่อโดยด่วนด้วย Bluetooth 4.0 ถึงกระนั้นสามารถใช้ร่วมกับเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเช่นกัน  สามารถใช้งานได้เป็นเวลายาวนานถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบต Li-ion Polymer (680mAh) และใช้เวลาชาร์จน้อยกว่า 4 ชั่วโมง โดยผ่าน Micro USB ด้านของน้ำเสียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall ด้วยเบสแน่นๆ เสียงร้องกระจ่าง มีเสียงแหลมที่ไม่ขัดหู และเวทีเสียงที่สามารถแยกย่อยรายละเอียดของชิ้นดนตรีต่างๆ ได้อย่างดีเลิศ เหมาะสมกับการเป็นสุดยอดประวัติศาสตร์แบรนด์เครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกโดยแท้ โดยหูฟังไร้สาย Marshall รุ่นนี้ ราคาจะอยู่ที่ไม่มากเกิน 5,990 บาท
 
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
                คือลำโพงบลูทูธที่มีขนาดออกจะใหญ่ที่ได้ออกขายนานแล้วเช่นกัน แต่ถ้าว่าเรื่องของคุณภาพนั้นไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าแต่ก่อนเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้เสียงที่กระจ่างครบถ้วนบริบูรณ์ ด้วยระบบชิป aptX ออกแบบด้วยไดร์ฟเวอร์ภายในทั้งสิ้น 3 ตัว รวมไปถึงยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือแจ็คขนาด 3.5 มม. และ INPUT2 หรือ RCA นอกจากนี้ยังมีฝีไม้ลายมือในการปรับเสียงทุ้มแหลมได้ด้วย ให้เสียงเหมือนท่านกำลังฟังบทเพลงจากการบรรเลงดนตรีสดเลยก็ว่าได้ ซึ่งลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จะมีราคาถูกที่ไม่เลย 15,900 บาท หากเปรียบกับน้ำเสียงที่ได้ จัดว่าคุ้มค่ามากๆ
                นั่นคือทั้งหมดที่ทางผมได้นำฝากกันในวันนี้ ซึ่งจักเห็นได้ว่าตั้งแต่สมัยก่อนจวบจนกระทั่งปัจจุบันนั้น หมู่เรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์แบรนด์ Marshall สัญชาติอังกฤษนี้แทบทุกเวทีเลย รวมทั้งหูฟัง และลำโพงที่นานัปการหลายรุ่นที่ไม่ว่ากาลเวลาจักล่วงเลยยาวนานแค่ไหน แต่ทว่า Marshall ก็ยังคงไว้ความคลาสสิคตามแนวแบบ Marshall มิเคยเปลี่ยน

Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall