สวัสดี บุคคลทั่วไป

ประวัติศาสตร์แวดวง Rock 'n' Roll ต้อง "Jim Marshall"

  • 0 ตอบ
  • 221 อ่าน
ประวัติศาสตร์แวดวง Rock 'n' Roll ต้อง "Jim Marshall"
« เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2018, 02:07:21 AM »
                ถ้าท่านเป็นผู้ที่หลงรักในเสียงดนตรี หรือเสียงดนตรี มั่นใจว่าท่านจะต้องรู้จักมักจี่แบรนด์เครื่องเสียงยี่ห้อนี้เป็นอย่างดีแน่นอน เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมชมชอบอย่างหนัก ตัวอย่างเช่น ลำโพง หูฟัง เครื่องขยายเสียง และอื่นๆ อีกเยอะแยะ โดยเรื่องราวความเป็นมาของแบรนด์นี้ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของตำนานกลุ่มดนตรีร็อกแอนด์โรลเลยก็ว่าได้ อีกทั้งแบรนด์ที่กำลังเอ่ยถึงอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง โดยความเป็นมาของ Marshall นั้น จักมีความเป็นมาอย่างไรบ้าง อีกทั้งด้วยเหตุใดถึงได้มาเป็นแบรนด์ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ข้าพเจ้าจักมาค้นหาคำตอบกัน
                Marshall นั้น ได้ก่อตั้งโดย Jim Marshall ซึ่งจุดแรกเริ่มอยู่ที่การเป็นนักดนตรีมือเก่ามาก่อน ซึ่งเล่นในตำแหน่งมือกลอง หลังจากนั้นก็ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองมาดำเนินงานธุรกิจการค้าร้านรวงขายเครื่องดนตรี พร้อมทั้งวัสดุอุปกรณ์หลายอย่าง ซึ่งริเริ่มจากการค้าขายกลองชุดและกีตาร์ในลอนดอนอาณาบริเวณ Hanwell โดยผู้ซื้อส่วนใหญ่จะเป็นนักดนตรีดนตรีRock and Roll ที่มีความเด่นในยุคนั้น อย่างเช่น ริตชี แบล็กมอร์ หรือไม่ก็เป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้ซื้อเพิ่มมากขึ้น
                ภายหลังก็เริ่มมีนักดนตรีชื่อดัง หลายท่านอยากได้แอมป์ หรือเครื่องขยายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ พร้อมกับเสียงดังกว่าเดิม เหตุเพราะปมปัญหาที่ประสบเป็นส่วนใหญ่ค่อนข้างเป็นเรื่องความดังของเครื่องขยายเสียงที่ไม่พอดีในการสำแดงแสดงสดนั่นเอง Marshall จึงได้ตัดสินใจลองทำออกมาขาย และดันประสบผลอย่างสูง กลายเป็นการบอกปากต่อปาก จนวงดนตรีหลายๆ วง ให้ความสนใจ Marshall จึงได้จัดการออกมาค้าขายอย่างเอาเป็นเอาตาย อีกทั้งได้จัดตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นณปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นจุดเริ่มของยี่ห้อ Marshall อย่างแท้จริง
                แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่ทำให้นักดนตรีทั้งหลายประทับใจ อีกทั้งยังบอกคือความเห็นเดียวกันว่าเป็นแอมป์กีตาร์ที่น้ำเสียงดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา (ในระยะเวลานั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และหลังจากนั้นมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาผลิตแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลากหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความไว้วางใจจากมือกีตาร์แนวบลูส์ แนวร็อก จากวงดัง ระดับตำนานตัวอย่างเช่น The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมทั้ง AC/DC เป็นอาทิ
                และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในยุค 60 ของ Marshall อย่างรวบรัดตัดความ แม้กระนั้นเมื่อยุคได้ล่วงเลยเข้าสู่ยุคดิจิตอล แบรนด์ Marshall ที่คร่ำหวอดในกลุ่มเครื่องเสียงก็ได้ปรับปรุงและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาร่วมมือในการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อให้ทันยุค ทันสมัย อีกทั้งตรงตามความอยาก หรือตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone โดยเป็นสินค้าเหล่าหูฟัง เพื่อให้ผู้ใช้ หรือมนุษย์สามัญให้ได้รับประสบการณ์การรับฟังเพลงในสไตล์ของ Marshall รวมถึงสินค้ากลุ่มลำโพงที่สามารถเชื่อมต่อบลูทูธได้ ที่นั่นทำให้ Marshall เป็นที่นิยมอย่างมากมายเช่นกัน ด้วยสไตล์เสียงที่ไม่เหมือนใคร และการออกแบบที่ดูเป็นย้อนยุค คลาสสิก สละสลวย ซึ่งรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่าสนใจ พร้อมทั้งจักแนะนำนั่นก็คือ หูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth และลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore ซึ่งจะมีรายละเอียดปลีกย่อยดังต่อไปนี้
 
หูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
                เป็นหูฟังไม่มีสายที่มีความคลาสสิคอยู่ในตัว ออกแบบสวยงาม งามตามีสไตล์ ขนาดกระชับสามารถพับได้ ทำให้พกพาไปไหนต่อไหนได้ง่าย มีการเชื่อมต่อโดยเร็วด้วย Bluetooth 4.0 แต่ว่าสามารถใช้ร่วมกับวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเช่นเดียวกัน  สามารถใช้งานได้นานมากถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบตเตอรี่ Li-ion Polymer (680mAh) และใช้เวลาชาร์จต่ำกว่า 4 ชั่วโมง โดยผ่าน Micro USB ด้านของสุรเสียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall เหตุด้วยเบสแน่นๆ เสียงร้องกระจ่าง มีเสียงแหลมที่ไม่บาดหู และเวทีเสียงที่สามารถแยกย่อยรายละเอียดปลีกย่อยของชิ้นดนตรีต่างๆ ได้อย่างดีเลิศ เหมาะสมกับการเป็นสุดยอดประวัติศาสตร์แบรนด์เครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกโดยแท้ ซึ่งหูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่นนี้ มูลค่าจักอยู่ที่ไม่มากเกิน 5,990 บาท
 
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
                เป็นลำโพงบลูทูธที่มีขนาดออกจะใหญ่ที่ได้ออกค้าขายนานแล้วเหมือนกัน แต่เรื่องของคุณภาพนั้นไม่ได้แย่ไปกว่าแต่ก่อนเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้น้ำเสียงที่ชัดครบบริบูรณ์ ด้วยระบบชิป aptX ดีไซน์ด้วยไดร์ฟเวอร์ภายในทั้งหมด 3 ตัว รวมไปถึงยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือแจ็คขนาด 3.5 มม. พร้อมด้วย INPUT2 หรือว่า RCA ยิ่งไปกว่านี้ยังมีสมรรถภาพในการปรับน้ำเสียงทุ้มแหลมได้อีกด้วย ให้น้ำเสียงเสมือนคุณกำลังฟังเพลงจากการบรรเลงดนตรีสดเลยก็ว่าได้ ซึ่งลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จะมีความถูกที่ไม่เลย 15,900 บาท ถ้าเปรียบเทียบน้ำเสียงที่ได้ ถือได้ว่าคุ้มมากๆ
                นั่นคือทั้งหมดที่ทางดิฉันได้นำฝากกันในวันนี้ โดยจะเห็นได้ว่าตั้งแต่สมัยเก่าจวบจนกระทั่งสมัยนี้นั้น ชาวเรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์แบรนด์ Marshall สัญชาติอังกฤษนี้เกือบจะทุกเวทีเลย รวมทั้งหูฟัง และลำโพงที่จำนวนมากมากหลายรุ่นที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด แต่ทว่า Marshall ก็ยังคงความคลาสสิคตามแนวแบบ Marshall ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : marshall ราคา

Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall