สวัสดี บุคคลทั่วไป

อากาศในบ้านหมดจดไม่ยาก ด้วยที่กรองสภาพอากาศ

  • 0 ตอบ
  • 272 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
            ปัจจุบันนี้อากาศที่พวกเราหายใจไปแทบจะเป็นอากาศมีแค่ละอองกับสารพิษที่แปลกปลอมมาในนั้นสามารถส่งผลให้ไม่สบายง่าย และสูดไม่ง่ายได้ อย่างนั้นการที่อยู่ท่ามกลางมลภาวะสารพิษเราเลยหลบไม่ได้ที่ต้องสูดสภาพอากาศนำพวกนั้นไปข้างในร่างกาย
            แต่ตอนเรากลับที่อยู่อาศัยคุณเป็นไปได้ว่ามองว่าสภาพอากาศในบ้านบริสุทธิ์มากกว่าด้านนอกก็จริงอยู่แต่ทว่าก็สามารถมีฝุ่นผงที่มาจากสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านที่บางทีเราอาจคาดว่าก็ทำความสะอาดอยู่บ่อย หรือว่าที่ติดมาพร้อมกับเครื่องนุ่งห่มเราที่ไปข้างนอกมาตลอดทั้งวัน ทั้งหมดนี้กระตุ้นให้คุณแทบจะต้องอยู่กับมลพิษเป็นประจำ ดังนั้นคุณเลยต้องมีตัวช่วยที่มีชื่อว่า ที่กรองอากาศ ไว้ในบ้านสำหรับทำให้ที่อาศัยใสสะอาดและเราได้สภาพอากาศบริสุทธิ์บ้างกับทุกวัน
            โดยที่ที่กรองสภาพอากาศที่ใช้งานในบ้านมี 4 ประเภทด้วยกันเป็น 1. เครื่องฟอกสภาพอากาศรูปแบบใช้แผ่นสกัดคาร์บอน (Carbon Air Purifiers) โดยโดยปกติแล้วล่ะก็คาร์บอนประกอบด้วยคุณสมบัติในการดักจับสารพิษบวกกับกลิ่นตั้งแต่แรกแล้วเลยมีการเอามาผลิตเป็นที่กรองอากาศที่ประกอบด้วยคาร์บอนให้ทำงานกับขบวนการกรองสภาพอากาศ 2. เครื่องฟอกสภาพอากาศรูปแบบใช้ประจุไฟฟ้า (Ionic Air Purifiers) โดยที่กรองอากาศลักษณะนี้มีการกรองประจุไฟฟ้ามาใช้ในการดักฝุ่นละอองต่างๆ ก็เพราะว่าประจุไฟฟ้าสามารถล่อฝุ่นผงได้ดีแม้ว่าจะมีฝุ่นเล็กมากก็ตาม อาทิผงธรรมดา ขนสัตว์ หรือแม้แต่ควันไฟบุหรี่ ทำให้เครื่องกรองอากาศแบบนี้เหมาะสมกับคนที่มีเรื่องมีราวเกี่ยวกับทางเดินหายใจ หรือเป็นภูมิแพ้ 3. เครื่องกรองอากาศลักษณะสมรรถนะในการกรองดี (High Efficiency Particle Arresting) หรือว่า HEPA เป็นเครื่องฟอกสภาพอากาศที่คุณภาพในการสกัดอากาศดีมากเพราะตัวที่กรองทำเข้ามาจากใยแก้วละเอียด สามารถกรองอากาศให้สะอาดมากที่สุด 99% แต่ว่าข้อบกพร่องก็คือไม่สามารถซับควันหรือว่าดูดซับกลิ่นได้ ถือเป็นที่ฟอกสภาพอากาศที่โดยมากใช้ภายในสถานพยาบาลหรือไม่ก็โรงงานบางชนิด โดยที่ที่กรองมีอายุการทำงานนานถึง 4 ปี  4. ที่ฟอกอากาศแบบประสม ประกอบด้วยที่กรองสภาพอากาศที่ลักษณะรวม 2 ระบบไปด้วยกันสามารถเป็นการผสานระหว่าง Carbon และ Ionic หรือ HEPA กับ Ionic ก็ได้สุดแล้วแต่ว่าผู้ประดิษฐ์ต้องการให้เครื่องฟอกสภาพอากาศทำงานออกมาในประเภทใด
            โดยประเภทที่กรองอากาศทั้งหมดที่เอ่ยถึงเป็นไปได้ว่าได้มีหลายๆคนข้องใจว่าแล้วจะที่มีวิธีการคัดเลือกเครื่องฟอกสภาพอากาศเช่นใดให้เหมาะสำหรับตนเองที่สุด ข้อแรกต้องรู้จักสภาพอากาศในที่พักอาศัยตนเองว่าประเภทสภาพอากาศรอบบ้านเป็นยังไง มีละอองจำนวนมากหรือไม่ หรือมีกลิ่นเหม็นหรือไม่ก็เลยค่อยเลือกซื้อเครื่องกรองสภาพอากาศต่อมาที่การเลือกตัวเครื่องฟอกสภาพอากาศโดยตัวที่ีมีประสิทธิภาพควรมี  2 ระบบข้างในเครื่องเดียวก็คือ  สกัดฝุ่นละออง ดักจับฝุ่น พร้อมทั้งซึมซับกลิ่นในเพียงอันเดียว รวมทั้งมีพลังที่จะสามารถสูบอากาศโดยรอบ เพื่อให้นำไปกรองพร้อมทั้งปล่อยสภาพอากาศใสสะอาดถ่ายมา ตรวจสอบดูให้ดีว่าหน่วยกรองอากาศกับแผ่นกรองเป็นแบบที่เราตั้งใจหรือเปล่าพร้อมกับสามารถนำไปล้างได้ง่ายหรือไม่รวมไปถึงพวกมูลค่าแผ่นกรองเป็นแบบไหนเพื่อที่เวลาที่กรองหมดเขตจะหาเลือกซื้อได้ไม่ยาก ท้ายที่สุดคือการพิจารณาค่าที่มีชื่อว่า  CADR (Clean  Air  Delivery  Rate)  ตัวเลขนี้คือตัวเลขเพื่อช่วยตรวจวัดความสามารถในการทำงานสำหรับเครื่องกรองอากาศซึ่งตัวเลขนี้จะมีการเพิ่มสูงขึ้นสมมติว่ามีผู้ใช้งานอยู่ในห้อง
            ในเรื่องเกี่ยวกับการทำงานพร้อมด้วยการดูแลรักษาก็คือ การทำงานสำหรับเครื่องกรองสภาพอากาศควรปิดห้องเพื่อให้เครื่องทำงานเอาไว้ก่อนที่เข้าภายในห้องเพื่อให้สภาพอากาศบริสุทธิ์ก่อนหน้า เรื่องการเอาใจใส่ชะล้างก็เป็นพึงเก็บกวาดแผ่นกรองขั้นต่ำทุกๆ  3 เดือน  โดยการนำมาทำความสะอาดแล้วไปตากให้หายชื้น  สำหรับที่จะฆ่าเชื้อไวรัส  หรือว่าล้างดังที่คำแนะนำบ่งชี้เอาไว้ แต่ในส่วนคนที่ไม่อยากล้างเป็นประจำ ก็ควรจะเลือกซื้อรูปแบบประจุไฟฟ้า เนื่องจากถึงแม้ว่าจะสนนราคาสูงกว่าประเภทอื่นๆแต่ก็ไม่ต้องเก็บกวาดบ่อยไปจนถึงรักษาง่ายกว่า
จะเห็นได้ว่าที่ฟอกสภาพอากาศมีหลายอย่างพร้อมด้วยวิธีการในการเลือกซื้อให้เหมาะกับการทำงานก็ไม่ยากเหมือนที่คิดไว้นอกจากนั้นแล้วการดูแลรักษาความสะอาดก็ยังง่ายมากอีกด้วย โดยที่เครื่องฟอกอากาศมีมาให้เลือกซื้อกันมากมายด้วยกันตัวอย่างเช่น Sharp , Philip , Dyson ,Blueair ฯลฯ มีตั้งแต่มูลค่า 2-3พันบาทจนถึง 4-5 หมื่นเลยทีเดียว

Tags : เครื่องฟอกอากาศ,เครื่องฟอกอากาศ ราคา,เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี