สวัสดี บุคคลทั่วไป

ทำความรู้จักมักจี่ Xiaomi มังกรหนุ่มแห่งแวดวงเทคโนโลยี

  • 0 ตอบ
  • 203 อ่าน
ปฎิเสธไม่ได้ว่าระยะนี้ โทรศัพท์มือถือจากแบรนด์โทรศัพท์เคลื่อนที่เมืองจีนมาแรงมากไม่ใช่เล่น และเชื่อว่าในปัจจุบันนี้หลายๆ คนคงชินหูชินตาชื่อกับ Xiaomi (เสี่ยวมี่)หนึ่งในยี่ห้อสมาร์ทโฟนระดับต้นๆ ของจีนที่ข้ามน้ำมาทำตลาดในเมืองไทยอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมด้วยจุดเด่นในเรื่องประสิทธิภาพการใช้งาน ในมูลค่าไม่แพงมาก แถมมาในดีไซน์พรีเมี่ยมอีกต่างหาก ทั้งที่จะเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นแรกมาไม่นานก็นับว่าประสบผลและที่สำคัญยังต่อยอดไปในผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีอื่น ๆ เช่นกัน เราไปทำความรู้จักกับ Xiaomi ให้เพิ่มมากขึ้นดีกว่า
 
 ก้าวแต่แรกของ Xiaomi เริ่มแรกในเดือน เมษายนปี 2010 โดย Lei Jun (เหลย จุน) อดีตซีอีโอของ Kingsoft ที่เป็นบริษัทที่พัฒนาแอพพลิเคชั่นทางด้านเอกสารออฟฟิศอย่าง Word, Excel และ PowerPoint ระยะเริ่มต้น เสี่ยวหมี่ ยังไม่ได้ทำฮาร์ดแวร์ของตัวเอง แต่ว่าเริ่มจากเป็นฝ่ายทำรอมแบบ After Market ให้มือถือแอนดรอยด์ในนาม MIUI (อ่านว่า "Me You I")
 
 ปี 2011 Xiaomi เริ่มพัฒนาตนเองจากการทำรอม มาเป็นการผลิตฮาร์ดแวร์ของตัวเองด้วยการเปิดฉากสมาร์ทโฟน Mi One ออกจำหน่ายในเมืองจีนและสร้างความฮือฮา เพราะเป็นมือถือสเปกสูงในราคาย่อมเยา จนกวาดยอดขายได้กว่า 7 ล้านเครื่อง เกินเป้าที่ตั้งไว้เพียงหลักแสนเครื่องเท่านั้น
 
 ในปีต่อมาก็ปล่อย Mi2 ก็พบกับยอดขายล็อตแรก 50,000 เครื่องในจีนหมดเกลี้ยงใน 3 นาที จนทำให้ทางบริษัทรู้ตัวว่าผลิตผลของตัวเองนั้นถูกชะตาผู้บริโภคในวงกว้างแค่ไหน
 
 และในปี 2014 Xiaomi ก้าวข้ามแนวคิดว่าสมาร์ทโฟนประเทศจีนผลิตเพื่ออาหมวยอาตี๋เท่านั้น โดยบุกเบิกออกไปทำตลาดโลก ซึ่งริเริ่มจากสิงคโปร์ ด้วยการเปิดประวัติศาตร์ในการจำหน่ายสมาร์ทโฟนบนระบบ E-commerce ที่สามารถจำหน่ายหมดได้เพียงสองนาทีแรกของการเปิดขาย เมื่อได้รับการตอบสนองมากเกินความคาดหมาย Xiaomi ไม่เพียงก้าวต่อไปเรื่อยๆ เหมือนแผนธุรกิจของหลายๆยี่ห้อในปัจจุบันที่หวังการเป็นเจ้าของตลาดเฉพาะภายในประเทศและประเทศใกล้เคียงเท่านั้น เช่น ดินแดนในแถบทวีปเอเชีย ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศมาเลเซีย ประเทศฟิลิปปินส์ ไต้หวัน อินเดีย แต่ยังมุ่งหมายไปถึงการยึดครองตลาดโลกอย่าง ตุรกี ประเทศรัสเซีย ประเทศบราซิล พร้อมด้วย แม็กซิโก เพื่อเน้นว่าผลิตภัณฑ์จากแดนมังกรก็มีคุณภาพที่ระดับโลกยกนิ้วให้
 
 จุดเด่นของมือถือ แท็บเล็ต และสินค้าอื่น ๆ ของทาง เสี่ยวหมี่ จะอยู่ที่สเปกของฮาร์ดแวร์ครั้นเมื่อเทียบกับราคาแล้วคุ้มค่ามาก อย่างเช่นสมาร์ทโฟน Mi8 ตัวเรือธงณ เวลานี้ ท่านจะได้โทรศัพท์มือถือ ชิป Snapdragon Snapdragon845, RAM 6/8 GB, ROM 64/128/256 GB กล้องถ่ายรูปหลังคู่ความละเอียด 12 + 12 MP พร้อมทั้งระบบถ่ายด้วย AI ด้านกล้องถ่ายรูปด้านหน้า 20 MP รองรับสแกนลายพิมพ์นิ้วมือและ 3D Face Unlock รวมไปถึงมี Dual GPS เพื่อความแม่นยำ และเร็ว ส่วนแบตเตอรี่ขนาด 3400mAh ในราคาประมาณหมื่นบาทกลาง ๆ เท่านั้น
 
 ในส่วนฮาร์ดแวร์ Xiaomi จัดทำไปไกลกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือTabletมาก บริษัททยอยเปิดตัวสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อีกหลายตัว อย่างเช่น
 
 Mi TV 2 เป็นสมาร์ททีวี 4K ขนาด 49 นิ้ว สนนราคา 3,999 หยวน (โดยประมาณ 21,000 บาท) พร้อมทั้งชิปประมวลผลและกราฟิกในตัว เพื่อใช้เล่นเกม เชื่อมต่อบริการคอนเทนต์เพลิดเพลินต่างๆ
 
อุปกรณ์สุขภาพ Xiaomi ก็ขอติดสอยห้อยตามสมัยนิยม Wearable Device ด้วย Mi Band ที่เป็นอุปกรณ์ตรวจวัดค่าสุขภาพอนามัยประเภทใส่ติดตัว เพื่อที่จะตรวจดูเป้าหมายการดำเนินชีวิตในแต่ละวันในราคาไม่ถึงพันบาท
 
 และอื่นๆ อีกเยอะแยะ ตัวอย่างเช่น วัสดุอุปกรณ์อย่างหูฟัง, เครื่องชั่งน้ำหนัก, กล้องแอ๊กชั่นแคม (Yi), แบตเตอรี่สำรอง, เครื่องฟอกอากาศ เป็นอาทิ
 
 ปี 2017 ที่ผ่านมา จัดว่าคือปีที่ดีของ เสี่ยวหมี่ ทั้งนี้เพราะในช่วง3 เดือนหลังสุดของปี แม้ว่ายอดขาย เบาบางลงทั่วโลก 6.3% แต่ทว่าหากเทียบเคียงกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า Xiaomi มียอดขายเพิ่มถึง 96.9% เลยทีเดียว โดยมียอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือมากขึ้นถึง 75% และขยายตลาดสู่ระดับสากลด้วยการหนุนไปสู่ตลาดประเทศสเปน และทำยอดขายมหาศาลในตลาดอินเดีย ประเทศอินโดนีเซีย และโซเวียต โดยในปี 2017 นี้ Xiaomi คือผู้ผลิตลำดับ 5 ของโลกที่ผลิตโทรศัพท์มือถือมากที่สุด และเป็นลำดับ 4 ของโลกในด้านยอดขาย ด้วยการทำผลรวมมากกว่า 1แสนล้านหยวน เลยทีเดียว
 
 โดย Lei Jun ผู้ก่อตั้ง และ CEO ของ Xiaomi ป่าวร้องว่าพันธกิจสำหรับปี 2018 นี้ จะเป็นผู้ก่อตั้งในตลาดโลกและดำรงฐานะอันดับ 1 ในบ้านเกิดอย่างประเทศจีนใน 30 เดือน
 
 จะเห็นได้ว่าโมเดลการทำธุรกิจการค้าของ Xiaomi นั้น ไม่เคยที่จะอยู่กับที่และติดอกติดใจกับผลสำเร็จในปัจจุบัน แต่กลับยังคงรุดหน้าเพื่อที่จะปฏิรูปผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มิใช่เพียงไลน์ของโทรศัพท์มือถือ แต่ยังรวมถึงสมาร์ทแก็ดเจ็ตอื่น ๆ ด้วย หวังว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งแนวนโยบายให้ท่านผู้อ่านที่กำลังประกอบธุรกิจการค้านำไปเป็นแรงผลักดันและปรับใช้กันนะครับผม

Tags : Xiaomi,ราคา Xiaomi,เสี่ยวหมี่