สวัสดี บุคคลทั่วไป

ประวัติศาสตร์แวดวง Rock and Roll ต้อง "Jim Marshall"

  • 0 ตอบ
  • 288 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
ประวัติศาสตร์แวดวง Rock and Roll ต้อง "Jim Marshall"
« เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2018, 11:16:18 AM »
                หากคุณเป็นผู้ที่หลงรักในเสียงเพลง หรือว่าเสียงดนตรี เชื่อว่าคุณจะต้องรู้จักมักจี่แบรนด์เครื่องเสียงแบรนด์นี้เป็นอย่างดีแน่นอน เพราะว่าเป็นแบรนด์ที่ได้รับความชื่นชมอย่างมาก อาทิเช่น ลำโพง หูฟัง เครื่องกระจายเสียง และต่างๆ อีกมากมายก่ายกอง โดยเรื่องราวภูมิหลังของแบรนด์นี้ จัดว่าเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของประวัติศาสตร์แวดวงเพลงRock and Rollเลยก็ว่าได้ อีกทั้งแบรนด์ที่กำลังกล่าวขวัญอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง โดยเรื่องราวของ Marshall นั้น จะมีประวัติยังไงบ้าง พร้อมด้วยเพราะเหตุใดถึงได้มาเป็นยี่ห้อระดับโลกปานฉะนี้ ดีฉันจักมาค้นหาคำตอบกัน
                Marshall นั้น ได้ตั้งโดย Jim Marshall ซึ่งจุดตั้งต้นอยู่ที่การเป็นนักดนตรีผู้เชี่ยวชาญมาก่อน โดยเล่นในตำแหน่งมือกลอง ตอนหลังก็ได้ผันตัวเองมาทำกิจการร้านค้าขายเครื่องดนตรี พร้อมกับอุปกรณ์หลายชนิด โดยเริ่มจากการจัดจำหน่ายกลองชุดพร้อมทั้งกีตาร์ในลอนดอนย่าน Hanwell ซึ่งผู้ใช้โดยมากจักเป็นนักดนตรีเพลงRock and Roll ที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น ไม่ว่าจะเป็น ริตชี แบล็กมอร์ หรือไม่ก็เป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่เป็นเหตุให้มีผู้ใช้มากขึ้น
                แล้วก็เริ่มมีนักดนตรีโด่งดัง หลายท่านอยากได้แอมป์ หรือเครื่องขยายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ และเสียงดังกว่าเดิม เพราะปมปัญหาที่พบเป็นส่วนใหญ่ค่อนข้างเป็นเรื่องความดังของเครื่องขยายเสียงที่ไม่พอในการเล่นแสดงสดนั่นเอง Marshall จึงได้ตัดสินใจทดลองออกมาขาย และดันบรรลุผลอย่างยิ่ง กลายเป็นการเล่าปากต่อปาก จนคณะดนตรีหลายๆ วง สนใจ Marshall จึงจัดหามาจัดทำออกมาวางขายอย่างเอาจริงเอาจัง พร้อมกับได้จัดตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นในปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Marshall อย่างแท้จริง
                แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่ทำให้นักดนตรีทั้งหลายประทับใจ รวมถึงยังเอื้อนคือความเห็นเดียวกันว่าเป็นแอมป์กีตาร์ที่เสียงเยี่ยมตามที่เคยมีมา (ในช่วงเวลานั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และหลังจากนั้นมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาผลิตแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความเชื่อมั่นจากมือกีตาร์สายบลูส์ สายร็อก จากวงโด่งดัง ระดับตำนานเช่นว่า The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมถึง AC/DC เป็นอาทิ
                และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในช่วงเวลา 60 ของ Marshall แบบรวบรัดตัดความ อย่างไรก็ดีเมื่อสมัยได้ล่วงก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอล ยี่ห้อ Marshall ที่ชำนาญในสังคมเครื่องเสียงก็ได้ปรับปรุงและเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาร่วมมือในการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อทันยุค ทันสมัย พร้อมทั้งตรงตามความต้องการ หรือตอบโจทย์ผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone โดยเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มหูฟัง เพื่อให้ผู้ซื้อ หรือบุคคลสามัญให้ได้รับประสบการณ์การรับฟังเสียงเพลงในสไตล์ของ Marshall รวมถึงผลิตภัณฑ์ประเภทลำโพงที่สามารถเชื่อมต่อบลูทูธได้ ที่นั่นทำให้ Marshall เป็นที่นิยมอย่างเยอะแยะเหมือนกัน ด้วยสไตล์เสียงที่ไม่ซ้ำใคร และดีไซน์ที่ดูเป็นวินเทจ คลาสสิค สวยงาม ซึ่งรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่าสนใจ พร้อมกับจักแนะนำนั่นก็คือ หูฟังไร้สาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth และลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore โดยจะมีรายละเอียดดังนี้
 
หูฟังไร้สาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
                คือหูฟังไม่มีสายที่มีความคลาสสิกอยู่ภายในตัว ดีไซน์สวยงาม งามตามีสไตล์ ขนาดพอดีสามารถพับได้ ทำให้พกพาไปไหนต่อไหนได้ง่ายดาย มีการเชื่อมอย่างรวดเร็วด้วย Bluetooth 4.0 อย่างไรก็ดีสามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเช่นกัน  สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบต Li-ion Polymer (680mAh) อีกทั้งใช้เวลาชาร์จน้อยกว่า 4 ชั่วโมง ซึ่งผ่าน Micro USB ส่วนของสำเนียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall เหตุด้วยเบสแน่นๆ เสียงร้องกระจ่าง มีเสียงแหลมที่ไม่บาดหู และเวทีเสียงที่สามารถแยกส่วนรายละเอียดของชิ้นดนตรีต่างๆ ได้อย่างดีมาก เหมาะสมกับการเป็นสุดยอดตำนานยี่ห้อเครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกโดยแท้จริง ซึ่งหูฟังไร้สาย Marshall รุ่นนี้ ราคาจักอยู่ที่ไม่เกิน 5,990 บาท
 
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
                เป็นลำโพงบลูทูธที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ที่ได้ออกขายเป็นเวลายาวนานแล้วเหมือนกัน ทว่าเรื่องของคุณภาพนั้นมิได้ต่ำไปกว่าแต่แรกเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้สุรเสียงที่กระจ่างครบถ้วน ด้วยระบบชิป aptX ดีไซน์ด้วยไดร์ฟเวอร์ข้างในทั้งสิ้น 3 ตัว ยิ่งกว่านั้นยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือว่าแจ็คขนาด 3.5 มม. พร้อมทั้ง INPUT2 หรือ RCA ยิ่งไปกว่านี้ยังมีสมรรถนะในการปรับเสียงทุ้มแหลมได้อีกด้วย ให้เสียงเปรียบเสมือนท่านกำลังฟังเสียงดนตรีจากการแสดงดนตรีสดเลยก็ว่าได้ โดยลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จักมีความถูกที่ไม่มากเกิน 15,900 บาท ถ้าหากเทียบกับสุรเสียงที่ได้มา จัดว่าคุ้มมากๆ
                นั่นคือทั้งหมดที่ทางอิฉันได้หยิบยกฝากกันในวันนี้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าตั้งแต่อดีตกระทั่งวันนี้นั้น ชาวเรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์แบรนด์ Marshall เชื้อชาติอังกฤษนี้เกือบทุกเวทีเลย รวมถึงหูฟัง และลำโพงที่จำนวนมากมากหลายรุ่นที่ไม่ว่าระยะเวลาจักผ่านพ้นนานแค่ไหน ทว่า Marshall ก็ยังคงไว้ความคลาสสิคตามสไตล์แบบ Marshall ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall