สวัสดี บุคคลทั่วไป

มองดูผลสำเร็จจากแบรนด์ผู้เป็นใหญ่เทคโนโลยีที่นาม Asus

  • 0 ตอบ
  • 247 อ่าน
ในกลุ่มสินค้าเทคโนโลยีในสมัยนี้ ชื่อของ Asus ถือว่าเป็นอีกแบรนด์ที่ค่อยๆ ชนะใจผู้บริโภค จนกระทั่งขึ้นเป็นเบอร์ต้นๆ ของตลาดได้บรรลุเป้าหมายโดยเป็นทั้งผู้ผลิต และผู้จัดจำหน่ายชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ไปจวบจนถึงโทรศัพท์เคลื่อนที่, แฟบเล็ต, แท็บเล็ต หรือแม้แต่นาฬิกาอัจฉริยะ (Smartwatch) อะไรคือสิ่งที่เป็นที่ดึงดูดและเป็นจุดกำเนิดผลสำเร็จของบริษัทจากไต้หวันแห่งนี้ มาสืบหากันได้เลยครับผม
 
 บริษัท Asus จัดตั้งขึ้นครั้นเมื่อปี 1989 ณ กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน จากบุรุษทั้งหมด 4 คน ได้แก่ Wayne Hsieh, Ted Hsu, MT Liao และ TH Tung โดยทั้ง 4 คนนั้น ทำงานที่ Acer ร่วมกันมาก่อนจะตกลงใจลาออกมาเปิดบริษัทของตัวเอง โดยดำเนินกิจการค้าเกี่ยวกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ พร้อมทั้งอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งก่อนจะมาเป็นชื่อบริษัท Asus เดิมทีเดียวถูกตั้งชื่อว่า Pegasus หมายถึงม้าที่มีปีกในเทพนิยายกรีกโบราณ หมายถึงเครื่องหมายของความบันดาลใจและความรอบรู้ผู้บุกเบิกทั้ง 4 เอามาแต่งตั้งเป็นนามบริษัท เพื่อแทนความมุ่งหมายว่าตั้งใจจะดำเนินกิจการด้วยความสง่าน่าไว้วางใจ         

 ภายหลังได้เปลี่ยนนามบริษัทเป็น  Asus แทนที่ เนื่องจากว่ามีคำจำกัดความที่คล้องจองกัน และที่ต้องนับถือในกลเม็ดด้านธุรกิจเป็นหลักการที่ว่าเมื่อค้นเป็นลำดับอักษร จะพบเห็นชื่อดังกล่าวก่อนเป็นอันดับแรก
 
                 และแน่นอนว่าถ้าหากกล่าวถึง Asus หลายคนอาจจะรำลึกถึงคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ซึ่งจุดแรกเริ่มของสายการผลิตนี้อยู่โดยประมาณ ปี 2006 ที่ Asus ได้รวมหัวกับทีมรถซุปเปอร์คาร์อย่าง Lamborghini ในการพัฒนาคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่เน้นความไว พละกำลัง มีการใช้สีและตราของ Lamborghini โดยโน้ตบุ๊กในรุ่นนี้ใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า VX series
 
ปี 2007 Asus ก็ได้คิดค้นความแปลกใหม่ให้กับสังคมโน้ตบุ๊กด้วยการเปิดฉาก Eee PC เน็ตบุ๊กรุ่นแรกๆ ของปฐพี ในงาน Computex ที่ประเทศไต้หวัน ซึ่งในช่วงนั้นทำให้กระแสเน็ตบุ๊กเป็นที่สนใจ และทำให้ Asus ถูกจับตาในฐานะผู้เป็นใหญ่ด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ตั้งแต่นั้น
 
 สืบมา Asus ก็ได้ผลิตคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กออกมาอีกหลากหลายรุ่น ซึ่งก็มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ใส่เข้ามากระทั่งในศักราช 2011 ในงาน CES Asus ได้เปิดตัว Asus Eee Pad Transformer แท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Android ตัวแรกเริ่มที่มีหน้าจอ พร้อมกับ Docking แป้นอักษรมาให้
 
 การแบ่งกลุ่มโน้ตบุ๊กของ Asus ใช้การแบ่งตามการใช้งาน เช่น
                รุ่นมัลติมีเดียจะเป็นซีรีย์ N เน้นย้ำการใช้งานเพื่อความสนุกสนานเป็นหลัก
                รุ่นสำหรับนักเล่นเกมจะใช้โค้ดซีรีย์ ROG (Republic of Gamer) ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานด้านเกมโดยเฉพาะ
 
โดยคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กในสังคมกิจการจะมี 3 ซีรีย์ คือ ZENBOOK เป็น Ultrabook ที่มุ่งเน้นการดีไซน์หรู มีสไตล์ VivoBook มุ่งเน้นที่ความเบาบาง เบา Transformer Book โน้ตบุ๊กที่ปลดจอออกมาเป็นแท็บเล็ตได้ และ TAICHI คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กลูกผสม สามารถเป็นไปได้ทั้งคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กและแท็บเล็ต

 แน่นอนว่า ครั้นเมื่อประสบชัยชนะกับตลาดคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กแล้ว  Asus ก็ต้องหันมาบุกตลาดมือถือด้วย ซึ่งเริ่มจากการทำ PDA และโทรศัพท์มือถือแบบฝาพับวางขาย โดยได้เลือกใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Mobile ส่วนใหญ่ และยังออกคุณลักษณะ ได้แก่ รุ่น "ASUS J101" ที่มีขนาดเล็ก พร้อมด้วยกล้องถ่ายภาพดิจิตอล 3.3 ล้านพิกเซล

 ในปี 2014 Asus ได้เปิดตัวตระกูลโทรศัพท์เคลื่อนที่ตัวหลักของบริษัทในระบบปฏิบัติการ Android ที่ชื่อว่า Zenfone โดยมีข้อดีที่สเปกจัดเต็มในมูลค่าที่ประหยัด โดยคำว่า Zen เป็นคำที่สอดคล้องเข้ากับสำนวนหนึ่งของแดนไต้หวัน ซึ่งแปลความได้ว่า การใช้ชีวิตอยู่กับในช่วงเวลาปัจจุบัน ส่วน Fone เป็นคำผสมผสานที่มาจากคำว่า Futer + Phone เปรียบเสมือนกับเป็นมือถือในอนาคต ความหมายรวมคือ วัสดุอุปกรณ์ที่ตอบความต้องการทั้งในช่วงนี้และภายหน้า Asus ยังสร้างสถิติโลกให้ Zenfone ด้วยการเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องแรกของโลกที่มี Ram 4GB ในรุ่น Zenfone2

 ในปี 2018 Zenfone ได้แยกประเภทเป็นรุ่นหลักๆ ดังนี้
ZenFone 4 ได้รับการออกแบบให้บางเบา ประณีต พกพาสะดวก
ZenFone 4 Max เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ได้รับการออกแบบให้เหมาะสำหรับการสัญจร เนื่องด้วยแบตเตอรีมีความจุสูงถึง 4100 mAh
ZenFone4 Selfie มุ่งเน้นการถ่ายแบบถ่ายภาพตัวเองด้วยกล้องหน้าคู่ บันทึกวีดีโอได้คมชัดด้วยความละเอียดสูงถึง 4K
ZenFone Live โทรศัพท์มือถือเครื่องแรกของโลกที่มีเทคโนโลยีการปรับภาพให้ดูดีแบบเรียลไทม์ช่วยจ่ายเสียงรบกวนรอบตัว เหมาะสำหรับสตรีมเมอร์
ZenFone สมาร์ทโฟนที่ดีไซน์ออกมาเอาใจวัยหนุ่มวัยสาว

 ในส่วนของแท็บเล็ต Asus ก็ได้รับการปรับปรุงมาอย่างไม่ขาดสาย แยกเป็นซีรีย์ตามวัตถุประสงค์การใช้งานดังต่อไปนี้
 
Ponepad เป็นการผสานดีไซน์ และฟังก์ชั่นการใช้งานระหว่างมือถือกับแท็บเล็ต (Fone + Pad)
Memo Pad ออกแบบลักษณะคล้ายๆไดอารี่จดบันทึก สามารถจับถือได้มือเดียว และฟังก์ชั่นการใช้งานที่เอื้ออำนวยความคล่องให้กับผู้ใช้งาน ต่อการจดบันทึกกิจกรรมต่างๆ
Padfone ผู้ใช้งานสามารถแปลงการใช้งานจากมือถือ ให้เป็นแท็บเล็ตได้ด้วยอุปกรณ์เสริม "Padfone Station"
Transformer Pad สามารถแปลงตัวเป็น Notebook ได้

 
วันนี้ Asus ได้แยกย่อยตนเอง ออกเป็นสามบริษัทอย่างเป็นทางการ คือ
                Pegatron บริษัทผลิตอะไหล่ เช่น เมนบอร์ด และการ์ดต่อพ่วงต่างๆ
                Unihan เป็นผู้ประดิษฐ์เคสคอมพีซี และอุปกรณ์อื่นๆ
                Asus จะทำการค้าตรงตัวผลิตภัณฑ์ที่เป็นยี่ห้อ Asus เดิมเท่านั้น

Tags : Asus,Asus ราคา,เอซุส