สวัสดี บุคคลทั่วไป

บรรพบุรุษ Huawei P Series

  • 0 ตอบ
  • 231 อ่าน
บรรพบุรุษ Huawei P Series
« เมื่อ: ธันวาคม 11, 2018, 07:58:05 AM »
ถ้ากล่าวถึง Huawei สาย P Series ตัวแรกที่ระลึกถึงเลย ก็น่าจะหลีกเลี่ยงไม่พ้น Huawei P9 เพราะว่าช่วงที่เปิดฉากรุ่นนี้ออกมาเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559 นับว่าเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เหตุด้วยความเป็นกล้องถ่ายภาพคู่ที่ได้รับการประสานของเทคโนโลยีที่เข้าร่วมพัฒนากับ LEICA จึงทำให้ Huawei P9 ที่สามารถถ่ายภาพที่มีรายละเอียดสูงได้อย่างสวยงาม และยังได้รับความชื่นชอบอยู่ในตอนนี้ วันนี้ผมจะนำทางย้อนรอยเรื่องกล้องถ่ายรูปของ Huawei P9 อีกครั้ง ไปดูกันครับ
 
 Huawei P9 มีกล้องข้างหลัง 2 กล้องที่ทาง Huawei ได้ร่วมมือกับทาง LEICA ซึ่งเป็นบริษัทกล้องถ่ายรูประดับตำนานมาร่วมออกแบบกล้องถ่ายภาพให้กับทาง Huawei P9 โดยบริเวณกล้องถ่ายภาพข้างหลังจะมีข้อความกำกับไว้ว่า LEICA ซึ่งล่าง LEICA จะเขียนไว้ว่า Summarit H 1:2.2/27 APSH ซึ่ง Summarit เป็นการแสดงช่วงขนาดรูรับแสงของเลนส์ LEICA ส่วนเลขห้อยท้าย 1:2.2 คือเลนส์มีรูรับแสงขนาด 2.2 และเลข 27 คือทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 27mm ซึ่งนับว่าเป็นระยะที่ให้มุมกว้างที่พอดีเลยเชียว
 
 โดยกล้องถ่ายภาพตัวแรกของ Huawei P9 เป็นกล้องที่มีเซนเซอร์รับภาพสี (RGB) ในขณะกล้องตัวที่ 2 จะเป็นกล้องถ่ายรูปที่ใช้เซ็นเซอร์รับภาพขาว-ดำ (Monochrome) ซึ่งให้ภาพที่กระจ่างกว่า สามารถรับแสงได้มากกว่าปกติ และการที่รับแสงได้มากกว่า นั่นหมายถึงปริมาณ noise ที่น้อยกว่านั่นเอง จึงได้คุณภาพของไฟล์ภาพที่ดีกว่า แต่กล้องทั้งสองตัวก็มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดพิกเซล 1.25 ไมครอน, ไฟแฟลช LED แบบ Dual-Tone และระบบการโฟกัสภาพแบบ Hybrid Autofocus แบบเดียวกันเลย อีกอย่างแม้จะแยกเป็นกล้อง RGB กับ กล้อง Monochrome แต่กล้องทั้งสองตัวจะทำงานด้วยกันอยู่แล้ว จึงทำให้ภาพที่ได้มีสีสัน และรายละเอียดปลีกย่อยในส่วนสีขาว-ดำชัดมากกว่าการถ่ายด้วยกล้องทั่วๆ ไป รวมทั้งสามารถปรับโฟกัสหลังจากทำการถ่ายภาพได้ด้วยเช่นกัน

 ด้านกล้องด้านหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง 2.4 ซึ่งก็ยังถือว่ายังทำออกมาได้ดีแม้ว่าจะไม่ใช่ LEICA แล้วก็ตาม และสามารถปรับระดับความฟรุ้งฟริ้งกิงก่องแก้ว หรือ Beauty Mode ได้ถึง 10 ระดับเลยทีเดียว ที่สำคัญคือกล้องถ่ายรูปหน้าของ Huawei P9 สามารถวัดแสงและชดเชยออกมาได้ค่อนข้างสว่าง หน้าขาวใส หากใครที่ชื่นชอบถ่ายภาพตัวเอง ก็ไม่ควรพลาด ยิ่งกว่านั้นยังสามารถถ่ายได้แม้ในที่แสงน้อย ก็ยังทำได้ดีอีกเช่นกัน เช่นคุณไปงานฉลองยามค่ำคืน แต่ว่าอยากเซลฟี่ คุณก็สามารถถ่ายได้ทุกสถานที่ โดยไม่ต้องสอดส่ายหาแสงจากที่ไหน เพราะจอของ Huawei P9 จะส่องสว่างโดยทันทีที่ท่านลั่นชัตเตอร์ ซึ่งทำหน้าที่ยังกะไฟแฟลชข้างหน้าเลยทีเดียว
 
 และถ้าหากเจาะลึกไปทีละโหมดการใช้งาน ก็คงจะเริ่มที่โหมดออโต้ ซึ่งเป็นโหมดที่ใช้งานง่ายที่สุด เนื่องจากเพียงแค่ยก Huawei P9 ขึ้นมาแล้วกดชัตเตอร์แค่นั้น เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยอยากปรับอะไรมาก หรือผู้ที่ฝึกถ่ายรูป แต่ต้องการภาพถ่ายที่สวยงาม โหมดอัตโนมัติก็สามารถตอบโจทย์ส่วนนี้ได้ดี ถัดมาเป็นโหมดโปร เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานการถ่ายรูปอยู่บ้าง ซึ่งคุณสามารถเลือก ISO / WB / Shutter Speed แต่ไม่สามารถปรับรูรับแสงได้ ซึ่งตัวเครื่องจะกำหนดพื้นฐานที่ 2.2 และในโหมดโปรสามารถเลือกบันทึกภาพเป็นแบบ raw file ได้ด้วย ถ้าหากว่าใครอยากนำไปแต่งในโปรแกรมต่างๆ ต่อ แต่ก็มิได้มีอานุภาพในการแต่งเยอะมากมาย ด้วยขีดจำกัดเรื่องขนาดเซนเซอร์นั่นเอง
 
 ถัดมาเป็นโหมดขาว-ดำ ในกล้องถ่ายภาพ Monochrome ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งข้อดีเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นแบรนด์เริ่มแรกที่มีกล้องถ่ายภาพเพื่อถ่ายขาวดำโดยเฉพาะซึ่งจะสามารถเก็บรายละเอียดปลีกย่อยความต่างแสง (Dynamic range) ได้มากกว่าถ่ายแบบสี ซึ่งได้ภาพที่คมชัด สวยงามมาก เหมือนราวกับมาจาก LEICA ซะเองเลย และอีกโหมดที่น่าสนใจคือ โหมด Wide Aperture ซึ่งเป็นโหมดหน้าชัดหลังเบลอนั่นเองซึ่งในโหมดนี้เป็นการเลียนแบบรูรับแสง ซึ่งสามารถปรับต่ำสุดได้ที่ F 0.95 และสูงสุดที่ F 16 ซึ่งอาจทำได้ไม่ดีเหมือนกล้องใหญ่อย่าง DSLR เนื่องจากมีขนาด Sensor ที่เล็กกว่านั่นเอง แต่ก็ไม่ได้ทำออกมาจนขี้ริ้วขี้เหร่
 
 และโหมดสุดท้ายที่ไม่แนะนำไม่ได้ นั่นคือ โหมดถ่ายกลางคืน หรือว่า Night mode นั่นเอง ซึ่งถ้าหากว่าท่านมีขาตั้งอีกตัว ภาพที่ท่านจะได้นี่ทัดเทียมกล้องใหญ่ๆได้เลยนะ เพราะว่าถ้าปราศจากขาตั้งกล้อง อาจจะทำให้ภาพสั่นไหวได้ และโหมดนี้ท่านสามารถเลือก ISO ได้สูงสุดที่ 1600 และ Shutter Speed เลือกเปิดได้นานถึง 32 วินาทีเลยเทียว แต่ถ้าไม่ต้องการปรับเปลี่ยนอะไร ก็สามารถให้ระบบเลือกให้ออโต้ได้เลย
 
 นี่เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นของ Huawei P9 ซึ่งยังมีประเด็นสำคัญ สเปคการใช้งานต่างๆ ที่น่าศึกษาอีกมาก แต่อย่างที่กล่าวไปในข้างต้น ว่า Huawei เชื้อสาย P Series นั้น มีข้อดีที่กล้องถ่ายรูปอยู่แล้ว ซึ่งถ้าหากใครที่โปรดปรานการถ่ายรูป และต้องการรูปที่ค่อนข้างจะมีคุณภาพทัดเทียมกล้องใหญ่ๆ แถมสามารถพกพาได้อย่างง่ายดายมากกว่าพกกล้องถ่ายรูปจริงๆ เสียอีก ก็ขอแนะนำเครื่องนี้เลย ซึ่งตอนนี้ Huawei P9 ราคาได้ลดลง ซึ่งเริ่มต้นเพียง 7,300 บาทเท่านั้น โดยแต่ละเว็บไซต์ หรือร้านค้า ราคาอาจแตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ลองสำรวจราคากันอีกครั้งนะขอรับกระผม
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : รีวิว Huawei P9

Tags : Huawei p9,Huawei p9 ราคา,รีวิว Huawei P9