ไอโฟน 7 พลัส นับว่าเป็นรุ่นแรกจาก Apple ที่ได้รับการพัฒนาและก็เพิ่มของใหม่ต่างๆเข้าไปในตัวเครื่องมากมายเลยทีเดียวค่ะ ช่วงเวลาที่ตังเครื่อง หรือเรื่องดีไซน์ต่างๆยังคงยึดถือตามแบบเดิมของรุ่นก่อนหน้า นั่นเองค่ะ มาดูในเรื่องของเทคโนโลยีที่เพิ่มเข้าไปดีมากยิ่งกว่าจ้ะว่ารุ่นนี้เค้าใส่อะไรไปบ้าง




เริ่มกันที่ การเพิ่มคุณสมบัติด้านการกันน้ำ แล้วก็กันฝุ่นผง ตามมาตรฐาน IP67, ปุ่ม Home แบบ Force Touch พร้อมระบบ Taptic Engine, ลำโพงเสียงคู่แบบ Stereo, กล้องถ่ายภาพคู่ด้านหลังแบบ Dual-Camera พร้อมระบบ Optical Zoom แล้วก็อัปเกรดสเปกให้แรงขึ้นอีกเท่าตัว ด้วยชิปเซ็ต Apple A10 Fusion และ แรม ขนาด 3 GB
วางแบบโดยรวมของ iPhone 7 Plus มาพร้อมกับจอแสดงผลกว้าง 5.5 นิ้ว แบบ Retina HD IPS LCD (แอลอีดี-Backlit) 3D Touch ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล แต่มีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ที่ข้างหลังของตัวเครื่อง ด้วยการย้ายเสาสัญญาณที่อยู่ด้านหลังไปไว้ที่ข้างบนกับข้างล่างของตัวเครื่องแทน พร้อมด้วยเอาช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรที่เราเคยชินออกไป แล้วใช้เป็นการฟังเพลงผ่ายพอร์ต Lightning แทน หรือสลับกันค่ะถ้าพวกเราต้องการใช้แบบเดิม เค้าก็มีตัวแปลงพอร์ตกลับมาเป็น 3.5 มม. ดังเดิมได้ด้วย
มาดูที่สเปคเครื่องกันบ้างค่ะว่า iPhone 7 Plus ที่มาพร้อมสเปคใหม่มีอะไรบ้างในเครื่องบ้าง
•   จอแสดงผลลัพธ์กว้าง 5.5 นิ้ว แบบ Retina HD IPS LCD (LED-Backlit) 3D Touch Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (401 ppi)

•   ชิปเซ็ต Apple A10 Fusion แบบ Quad-Core Processor พร้อมเทคโนโลยีการประมวลผลแบบ 64-bit และหน่วยประมวลผล M10 motion coprocessor สำหรับในการใช้งานเกี่ยวกับสุขภาพ แล้วก็การบริหารร่างกาย

•   หน่วยประมวลผลภาพแบบ Six-Core Graphics

•   หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB

•   หน่วยความจำหลักตัวเครื่อง ขนาด 32 GB, 128 GB หรือ 256 GB

•   กล้องข้างหน้า ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงสว่างกว้างสูงสุด F/2.2

•   กล้องถ่ายภาพคู่แบบ Dual-Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (มีเลนส์ Wide-Angle และเลนส์ Telephoto) พร้อมแฟลชกล้องแบบ Quad-แอลอีดี True Tone Flash

•   เลนส์ Wide-Angle รูรับแสงสว่างกว้างสูงสุด F/1.8 ส่วนเลนส์ Telephoto รูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.8

•   แบตเตอรี่ขนาด 2900 mAh

•   เทคโนโลยีหน้าจอแบบ Force Touch พร้อมฟังก์ชัน 3D Touch

•   เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Touch ID) บนปุ่ม Home พร้อมฟีพบร์ Taptic Engine

•   รองรับเทคโนโลยี NFC

•   ดำเนินการบนระบบปฏิบัติการ iOS 10

•   คุณลักษณะด้านการกันน้ำ กันฝุ่นผง ตามมาตรฐาน IP67 *****
( สำหรับตัวในที่สุดต้องกาดอกจันทน์ไว้หลายๆดอกค่ะ ด้วยเหตุว่านี่เป็นตัวชูโรงของรุ่นนี้เลยทีเดียว )




สำหรับตัวเครื่อง apple iphone 7 plus มาพร้อมหน้าพร้อมตาจอขนาด 5.5 นิ่ว ก็เรียกว่าใหญ่ดูสะใจเยอะขึ้นเรื่อยๆแล้วสำหรับไอโฟน ส่วนของจอแสดงผลลัพธ์เป็นจอแบบ Retina HD IPS LCD (LED-Backlit) 3D Touch ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ส่วนขนาดตัวเครื่อง อยู่ที่ 158.2 x 77.9 x 7.3 มม.
ด้านบนของตัวเครื่องประกอบด้วย กล้องถ่ายภาพหน้า ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล ลำโพงสำหรับเสวนา, Proximity Sensor และก็ Ambient Light Sensor ในส่วนของปุ่ม Home นั้นเป็นปุ่ม Home แบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี Soft Touch ซึ่งก็คือว่าพวกเราจะไม่สามารถใช้งานปุ่มนี้ได้จนกว่าเราจะสัมผัสที่ปุ่มเบาๆแล้วจอจะเริ่มดำเนินงาน หลังจากนั้นจึงสามารถใช้งานปุ่มนี้ได้นั่นเองค่ะ ลักษณะเด่นก็คือ พวกเราจะได้ไม่ต้องไปกดเล่นขณะที่พวกเรามิได้ใช้งานจริง ซึ่งมันทำให้ปุ่มพังเร็วนั่นเอง นี่ก็เรียกว่าเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างหนึ่งที่ดีเลิศเลยล่ะ
ส่วนทางด้านขวาของตัวเครื่อง แน่นอนว่าเค้าใส่ช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ nano SIM และก็มีปุ่ม Power สำหรับเปิด ดับเครื่อง หรือล็อคหน้าจอนั่นเองจ้ะ ส่วนของทางซ้ายจะมีเพียงแค่ปุ่มเปิดปิดเสียงและก็ปรับระดับเสียงดังเดิม

ข้างบนตัวเครื่อง ไม่มีปุ่มการทำงานใดๆก็ตามตามสไตล์ของ Apple จะมีก็แม้กระนั้นในส่วนของด้านล่างที่ประกอบไปด้วย ไมโครโฟน พอร์ต Lightning และลำโพงเสียงแบบสเตอริโอ ซึ่งใน iPhone 7 Plus มีลำโพงเสียงทั้งสิ้น 2 ตัวด้วยกันจ้ะ คือ ข้างบนของตัวเครื่อง 1 ตัว แล้วก็ข้างล่างตัวเครื่อง 1 ตัว
ในส่วนของกล้องถ่ายภาพ รุ่นนี้มาพร้อมกล้องถ่ายรูปคู่แบบ Dual-Camera ที่ข้างหลังตัวเครื่อง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ทั้งยัง 2 เลนส์ ซึ่งประกอบด้วย เลนส์ Wide-Angle รวมทั้งเลนส์ Telephoto พร้อมรองรับการซูมแบบ Optical Zoom ได้ 2 เท่า ซึ่งเป็นรุ่นแรกของ iPhone ที่มีกล้องถ่ายภาพคู่ และที่สำคัญคือ มีไฟแฟรช 4 ดวงอีกด้วย

และอย่างที่บอกไปจ้ะว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นแรกที่มีคุณสมบัติด้านการป้องกันน้ำ กันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP67 เป็นสามารถกันน้ำพอดีระดับน้ำลึก 1 เมตร ในช่วงเวลาที่เครื่องแช่น้ำ 1 นาที นั่นเองค่ะ