ในเวลานี้สิ่งที่สำคัญอีกอย่างในห้องครัวก็คือความคล่องตัวในการปรุงอาหารจำพวกต่าง ๆ อาทิอาหารหลัก เครื่องดื่ม และอาหารหวาน อีกหนึ่งเครื่องไม้เครื่องมือที่ช่วยมาตอบโจทย์การทำครัวเหล่านี้อย่างรวดเร็วก็คือ
Blender หรือเครื่องปั่นนั่นเอง ยิ่งในยุคที่เราหันมาตั้งอกตั้งใจรักษาสุขภาพอนามัยกันเพิ่มขึ้นเครื่องไม้เครื่องมือชิ้นนี้ก็อาจจะตอบโจทย์ในการปรุงอาหารพวกคลีน หรือว่าชีวจิตได้เป็นอย่างดี จึงมิแปลกที่บรรดาพ่อบ้าน แม่ศรีเรือน ต่างให้ความสนใจที่จะเป็นเจ้าของกันเพิ่มมากขึ้น
ในสมัยนี้มี Blender ออกมาให้เลือกเป็นอย่างมากหลากหลายแบรนด์ ในระดับราคาตั้งแต่ไม่กี่ร้อยบาทจวบจนกระทั่งหลักหมื่นบาท ฟังค์ชั่นการใช้งานก็แหวกแนวกันไป พวกเรามาดูกันดีกว่าว่าสมควรเลือก Blender แบบไหนให้เหมาะสำหรับคุณและครอบครัว
ก่อนอื่นเราควรพิจารณาความอยากของเราว่าต้องการ เครื่องปั่น ไปใช้ในการทำสิ่งไร จักปั่นน้ำผลไม้ ปั่นเครื่องเทศอยู่ที่บ้าน หรือไม่ก็จะปั่นค้าขายเป็นงานการเลย เพื่อที่จะได้ระบุขอบเขตของคุณลักษณะและฟังค์ชั่นของเครื่องมือได้
เครื่องปั่น มีการออกแบบหลากหลายเพื่อการใช้งานที่แตกต่างดังนี้
รูปแบบโถแก้ว ซึ่งก็จะเหมาะกับการทำน้ำผลไม้ปั่นสดเป็นหลัก ปั่นแล้วดื่มได้โดยทันที โดยบางรุ่นมีฝาปิดสามารถพกเป็นกระบอกน้ำได้เลย
ชนิดด้ามจับ คือ Blender ที่เรานำไปปั่นในภาชนะของเราได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องใส่โถ ง่ายแก่กับการพกพา และสามารถปั่นในภาชนะที่พอดีหรือใหญ่ขึ้นได้
ชนิดมาตรฐาน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการ Blender เกี่ยวกับงานครัวทั่วๆ ไป ใช้งานได้อเนกประสงค์ ซึ่งสามารถปั่นได้ทีละจำนวนมากๆ Blender แบบนี้จักมีพละกำลังปั่นที่มหันต์
2. ฟังก์ชั่นการใช้งาน และพลังในการปั่นพึงเลือกสรรเครื่องปั่น ที่มีฟังก์ชั่นหลัก ๆ เช่นนี้
- ระบบ Low - High สามารถปรับกำลังเร็วและความแรงของเครื่องได้
- Ice Breaker สำหรับปั่นน้ำแข็งเปล่า สมูตตี้
- Stir เพื่อกวน หรือคน
- Puree เพื่อบดละเอียด
- Crumb เพื่อบดโดยประมาณ อาทิแครกเกอร์ ทำอาหารหวาน ฯลฯ
- Blend สำหรับปั่น
สำหรับกำลังไฟของ Blender จะมีเครื่องหมาย W เป็นตัวบอกซึ่งกำลังไฟไม่ควรต่ำกว่า 200 W อย่างไรก็ดีหากเอาไปประกอบอาชีพสมควรมีกำลังปั่นอย่างน้อย 600 W ขึ้น
การกรองอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าจะไม่ดูข้อความสำคัญของคุณภาพเครื่องมือไม่ได้เลย Blender ก็เช่นกันเครื่องมืออาทิเช่นโถปั่น ใบมีด ก็ควรเป็นวัสดุที่ดี มีคุณภาพ และคงทนถาวร
- ตัวโถปั่นหากเป็นพลาสติกควรเป็นพลาสติกเกรดดีชนิด Polycarbonate ที่มีความคงทนสูง ไม่แตกง่ายๆ และควรจะคัดแบรนด์ที่ผ่านการรับรองความปลอดภัย เหตุเพราะโถพลาสติกคุณภาพแย่อาจมีสิ่งเจือปนที่น่ากลัวต่อสมาชิกในที่อยู่อาศัยได้
- ใบมีดควรจะเป็นสแตนเลส แข็งแรง คม และไม่เป็นสนิม
4. งบประมาณ
ครั้นเมื่อพวกเราจำกัดความจำเป็นในการใช้งานของเราได้แล้ว ขั้นต่อมาก็ได้เวลาสรุปมูลค่าว่าเรามีงบประมาณเท่าใด หากสำหรับคุณแม่บ้านแม่เรือนที่ความจำเป็นในการใช้งานมีแค่การปั่น มูลค่าก็อาจจะไม่แพงจนเกินไป ราวๆ 1,500 - 3,000 บาท แม้กระนั้นสำหรับใครที่อยากนำไปประกอบอาชีพฟังก์ชั่นมากขึ้นมาหน่อย สนนราคาก็จักแพงขึ้นไปจนกระทั่งหลักหมื่น
เมื่อได้ เครื่องปั่น ที่ต้องใจกันไปแล้ว สิ่งที่ไม่รับผิดชอบไปมิได้เลยคือการดูแลรักษาพร้อมกับการล้างเพื่อวัสดุอุปกรณ์อยู่กับพวกเราไปได้ยาวนาน ดังนี้
ห้ามปั่นผลไม้ที่มีชิ้นใหญ่เกินควร ต้องหั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนนำเข้าเครื่อง รวมไปถึงไม่สมควรปั่นของที่หยาบกระด้างจนเกินควรด้วย
- ไม่ควรเปิด เครื่องปั่น ให้ทำงานทั้งที่ไม่มีสิ่งไรอยู่ในโถ
- ในการปั่นแต่ละหนไม่ควรปั่นติดต่อกันเกิน 2 นาที (หรือระยะเวลาตามหนังสือคู่มือของเครื่อง)
- ถ้าหากเครื่องทำงานเกือบจักเสร็จแล้ว อย่าเพิ่งรีบดึงโถปั่นออก ต้องรอให้เครื่องหยุดเต็มที่ก่อนแล้วก็ค่อยๆดึงออกมา
วิธีการชะล้าง เครื่องปั่น
- ถ้าหากปั่นน้ำผลไม้ที่มีส่วนที่เหลือมากๆ แล้วเอาออกได้ค่อนข้างจะยากลำบาก ให้เทน้ำเปล่าลงไปให้ล้นใบมีดต่อจากนั้นก็นำน้ำยาล้างจานใส่ตามลงไปไม่เท่าไรหลังจากนั้นเปิดสวิทช์เครื่อง ให้ทำงานประมาณ 30 วินาที ก็ค่อยๆปิดต่อจากนั้นเอาโถปั่นไปล้างน้ำอีก 1-2 ครั้ง
- ถ้าไม่มีเศษมากนักก็เพียงแค่ใช้ฟองน้ำชุบน้ำยาล้างจานชำระล้างเหมือนเดิม แต่กระนั้นหากยังมีกลิ่นอยู่ ให้ใช้น้ำเกลือมาชำระล้างอีก 1 รอบจะช่วยได้
- หากว่าฐานของเครื่องเปื้อนหรือเปรอะเปื้อนหนักหนา ให้ใช้ผ้าแช่น้ำส้มสายชูหน่อยเดียว ถูให้ทั่ว
และนี่คือเรื่องราวน่ารู้ของ Blender หรือ เครื่องปั่น รวมทั้งวิธีการเลือกซื้อ พร้อมกับวิธีการดูแลรักษา เห็นไหมว่าที่จริงแล้วเรื่องของอุปกรณ์ไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเลย หวังว่าล้วนแล้วจักอำนวยประโยชน์ให้ทุก ๆ ครอบครัวนะครับผม
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
เครื่องปั่น ราคาTags : Blender,เครื่อง ปั่น blender,เครื่องปั่น ราคา
