สวัสดี บุคคลทั่วไป

เครื่องดูดฝุ่น ทางเลือกเพื่อช่วยการทำงานบ้าน

  • 0 ตอบ
  • 200 อ่าน
            ที่ดูดฝุ่นนับว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประจำบ้านเลยก็เป็นไปได้ ด้วยความที่ใช้งานง่าย สะดวก อีกทั้งทำให้ลดระยะเวลาสำหรับเก็บกวาดบ้านทำให้เกือบจะทุกๆบ้านจำเป็นต้องมีที่ดูดฝุ่นไว้ติดที่พัก แต่การที่จะเลือกใช้ที่ดูดฝุ่นเพื่อจะเอามาใช้งานซักเครื่องจำเป็นจะต้องมีปัจจัยหลายเรื่องมาเกี่ยวในการตัดสินใจซื้อให้เหมาะกับการใช้งานดังนั้นมาดูกันว่าควรจะมีวิธีเพื่อเลือกกับมีแบรนด์ใดเสนอแนะกันบ้าง
            ข้อแรกคือ ประเภทสำหรับที่ดูดฝุ่น เป็นสิ่งที่จำเป็นก็เพราะว่าแบบของเครื่องดูดฝุ่นที่แตกต่างกันก็เหมาะกับการทำงานที่ไม่เหมือนกันออกไป เครื่องดูดฝุ่นประกอบด้วย 4 ชนิด
1.) ที่ดูดฝุ่นแบบแห้ง เหมาะสำหรับการใช้งานกับห้องธรรมดา แต่ไม่เหมาะสำหรับบนพื้นพรม เพราะว่ากำลังสำหรับดูดฝุ่นไม่มาก
2.)  เครื่องดูดฝุ่นไม่มีสาย มุ่งเน้นความคล่องตัวสำหรับใช้ เพราะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ก่อนที่จะนำไปใช้ รวมไปถึงน้ำหนักน้อยใช้ไม่ยาก เหมาะสำหรับห้องที่พื้นที่ไม่มาก
3.) ที่ดูดฝุ่นมือถือ ที่ดูดฝุ่นขนาดย่อม น้ำหนักน้อย ไม่มีที่เก็บฝุ่น สะดวกสบายสำหรับการทำงานกับพื้นที่ขนาดเล็ก อย่างเช่น รถยนต์
4.) หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ทำให้ทำความสะอาดอัตโนมัติได้ตามการตั้งโปรแกรม และยังช่วยให้เข้าไปในพื้นที่ที่ตั้งใจเก็บกวาดได้อย่างสะดวกมาก พร้อมทั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางบวกกับยางป้องกันชน
            เรื่องถัดมา สถานที่สำหรับทำงาน คือเรื่องที่จำเป็นจะต้องเอามาพิจารณาเนื่องจากจะเป็นสิ่งสำคัญในการซื้อขนาดของที่ดูดฝุ่น รวมทั้งบ้านช่องของเรามีมุมอับหรือเปล่า หากซื้อที่ดูดฝุ่นขนาดเล็กเกินพอดีทำให้เครื่องดูดฝุ่นทำหน้าที่หนัก ทำความสะอาดได้ไม่ดี พร้อมกับทำให้ชำรุดรวดเร็วมากขึ้น
อย่างถัดมา เรื่องของโครงสร้าง รวมถึงทักษะในการเก็บกวาดของที่ดูดฝุ่น ประเด็นนี้ควรจะคิดเริ่มตั้งแต่แรงไฟ ซึ่งจำเป็นต้องต้องเลือกซื้อให้เหมาะสมกับการใช้งานเพราะถ้าหากแรงไฟน้อยก็ส่งผลต่อกำลังในการดูดฝุ่น ถัดมาคือพวกโครงสร้างทั้งหลาย ในแต่ละแบรนด์กับทุกรุ่นก็จะมีโครงสร้างที่แตกต่างกันออกไป เช่น อาจจะอัดฝุ่นละอองเป็นปึกเพื่อสะดวกสบายกับการเก็บกวาด หรือไม่ก็มีระบบการสกัดหลายชั้นสำหรับที่จะไม่ให้ฝุ่นออกจากเครื่อง เป็นต้น คุณจึงจำเป็นที่จะเช็คว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบใดที่ตอบโจทย์เรามากที่สุด
            สุดท้ายนี้คือ เรื่องของคุณภาพ ราคา บวกกับอายุการใช้งาน ถือเป็นเรื่องที่ควรพิจารณาเกี่ยวกับคุณภาพและมูลค่าดำเนินไปในคู่ควรกันหรือเปล่าและคุ้มที่ควรเลือกซื้อเพื่อนำไปใช้หรือเปล่าก็เพราะว่าต่อมาก็เป็นอายุใช้งานถ้าตัดสินใจสินค้าที่ไม่ตรงในการทำงานไปทำให้อายุการใช้งานสั้นลงกับนับว่าเป็นการสิ้นเปลือง
เครื่องดูดฝุ่นที่น่าซื้อที่จะนำมาเสนอแนะ ยกตัวอย่างเช่น

  • HITACHI ที่ดูดฝุ่นประเภทกล่อง แบบ CV-SH20V กำลังมอเตอร์ 2000 วัตต์ น้ำหนัก9 กิโลกรัม ช่วยให้เรากำจัดฝุ่นได้การพิสูจน์คุณภาพโดยสถาบันโรคภูมิแพ้ ในประเทศอังกฤษ (Allergy UK) กล่องเก็บฝุ่นไซโคลน ปริมาตรปริมาตร 1.6 ลิตร บีบอัดฝุ่นกลายเป็นก้อนช่วยให้ง่ายกับการกำจัด ไม่ฟุ้งกระจาย โดยใช้ระบบสกัดฝุ่น 7 กระบวนการ พร้อมแผ่นกรองเฮป้า และนาโน ไททาเนียม ดักจับกลิ่น หยุดการใช้งานอัตโนมัติกรณีเครื่องร้อน สนนราคา 4,190 บาท
  • PHILIPS หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ประเภท FC8822/01 พร้อมด้วยระบบ SMART DETECTION SYSTEM ปรับเปลี่ยนโหมดตามสภาพรอบๆ ตัว แบตเตอรี่ LI-ION สามารถทำงานต่อเนื่องได้ถึง 120 นาที ระบบเก็บกวาด 3 ขั้นตอน ที่ประกอบด้วยการถูเก็บฝุ่นละอองรูปแบบแห้ง หุ่นยนต์จะตรวจบริเวณที่สกปรกมากเพื่อที่จะเก็บกวาดโดยเฉพาะ รวมทั้งมีโหมดสแกนพื้นที่ที่ไม่เหมือนกันเพื่อทำความสะอาดแบบถูกวิธี มูลค่า 21,990 บาท
  • DYSON เครื่องดูดฝุ่นชนิดด้ามจับ (0.54 ลิตร) รุ่น SV10(V8) Absolute PlusV8 Absolute Plus ที่ดูดฝุ่นไร้สาย พร้อมกับการใช้งาน ทั่วถึงทุกทาง มีความแน่นหนาแข็งแรง ใช้งานสะดวกสบาย เพราะว่าระบบพายุไซโคลนเรเดียล 2 ระดับ ที่จะเพิ่มเติมการไหลวนของอากาศพร้อมกับดักจับฝุ่นละอองเล็ก หัวทำความสะอาดลักษณะ Direct-drive ทำความสะอาดตรงเข้าไปในพรมสำหรับขจัดรอยเลอะบนพื้น ในด้าน หัวเก็บกวาดประเภทลูกกลิ้งนิ่มออกแบบมาที่เหมาะกับพื้นแข็ง และยังมาพร้อมด้วยระบบกลั่นรูปแบบถอดออกไปชำระล้างได้ ในสนนราคา 28,900 บาท


จะเห็นว่า ยี่ห้อแทบทุกแบรนด์พยายามปรับปรุงรวมทั้งใส่เทคโนโลยีใหม่ๆ ใส่ไปเพื่อให้ง่ายต่อผู้บริโภค ดังที่กล่าวมา การตัดสินใจซื้อเครื่องดูดฝุ่นซักเครื่องให้เหมาะกับการทำงานก็เลยไม่ได้เป็นส่วนทรามเสมอไป

Tags : เครื่องดูดฝุ่น,เครื่องดูดฝุ่น ราคา,เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี