สวัสดี บุคคลทั่วไป

Huawei P10 และ Huawei P10 Plus อีกหนึ่งโอกาสที่ยังคุ้มค่า

  • 0 ตอบ
  • 199 อ่าน
ภายในปี 2018 ถึงแม้ว่า Huawei จะเปิดตัว Huawei P20(หัวเว่ย p20) และ P20 Pro(หัวเว่ย p20Pro)ออกมาแล้ว โดยมาในสเปคโหดถูกอกถูกใจคนชอบของแรงเช่นเคยโดย P20 Pro จะมาพร้อมกับกล้อง 3 ตัว (P20 มีแค่ 2 ตัว) พร้อมกับเลนส์ Leica และเทคโนโลยี AI ที่จะทำให้กล้องรู้จักวัตถุและเลือกการตั้งค่าที่พอเหมาะ สนนราคา Huawei P20 อยู่ที่ 19,990 บาท และ Huawei P20 Pro ราคา 27,990 บาท

 หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยว่า แล้วรุ่นที่ออกมาก่อนหน้าในปี 2017 อย่าง Huawei P10 (หัวเว่ย p10) และ Huawei P10 Plus (หัวเว่ย p10Plus) นั้นยังน่าจะซื้อหาหามาใช้งาน อยู่หรือเปล่าในตอนนี้ กระผมจึงจะมาพินิจพิเคราะห์สเปคและจุดดีให้ได้ดูเพื่อช่วยในการตัดสินใจ       


  •  สีสันเฉพาะเจาะจง


P10 และ P10 Plus ได้ใช้บริการของ Pantone บริษัทดีไซน์ระดับโลกสร้างสีเฉพาะอย่าง สีเขียว Greenery และ สีน้ำเงิน Dazzling Blue สำหรับสีเขียว Greenery เป็นสีที่ให้อารมณ์เป็นอันเดียวกับธรรมชาติ ส่วนสีน้ำเงิน Dazzling Blue นั้นเป็นสีที่ดูนุ่มลึกเสมือนหนึ่งสีจากน้ำทะเล โดยสีที่มีออกมาให้เลือกทั้งหมดที่มี คือ Greenery - สีเขียว, Dazzling Blue - สีน้ำเงิน,Dazzling Gold - สีทอง (สะท้อนแสง),Graphite Black - สีดำ,Mystic Silver - สีเงิน,Prestige Gold - สีทอง,Rose Gold - สีชมพู,Ceramic White - สีขาว
 

  • กล้องถ่ายภาพข้างหลังคู่ แบบ DUAL CAMERA 2.0


ถ้าพูดถึงแบรนด์ Huawei สิ่งที่คิดถึงเป็นอันดับแรก ๆ ก็อาจจะเป็นเรื่องกล้องถ่ายรูป ซึ่งรุ่นนี้เป็นกล้องหลังคู่พร้อมกับเลนส์ที่ได้รับการรับรองจาก Leica ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล (mono) + 12 ล้านพิกเซล (RGB) และยังได้รับการอัพเกรดเป็น Leica Dual Camera 2.0 Pro Edition ในรุ่น P10 Plus อีกด้วย พร้อมด้วยระบบ OIS กันสั่น, Hybrid Zoom 2 เท่า และ 4-in-1 hybrid auto-focus ที่จะช่วยให้การถ่ายภาพนั้นนิ่ง เพิ่มเติมความสามารถในการซูม โฟกัสได้ไวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีโหมดการจับภาพใหม่เสริมเข้ามานั่นก็คือโหมด portrait ที่ใช้เทคโนโลยี Leica Style Portraiture ซึ่งเป็นโหมดที่จะช่วยให้การถ่าย portrait นั้นมีมิติมากขึ้น และเทคโนโลยีตรวจค้นหน้าแบบ 3 มิติ
 
 Huawei P10 และ P10 Plus ไม่ได้ใช้เลนส์ชนิดเดียวกัน เพราะ P10 Plus มาพร้อมเลนส์อีกรุ่นของ Leica ที่มีชื่อว่า SUMMILUX โดยมีค่า F อยู่ที่ F1.8 ซึ่งจะช่วยในเรื่องของฉายรูปแบบ Bokeh ได้ดีขึ้น รวมถึงการถ่ายรูปตอนค่ำก็ดีขึ้นอีกด้วย ส่วนของ P10 ยังคงใช้เป็นรุ่น SUMMARIT แบบเดียวกับตอน Mate 9 และ P9 โดยค่า F นั้นอยู่ที่ F2.2


  •  กล้องถ่ายภาพด้านหน้าของ LEICA


P10 และ P10 Plus นั้นเป็นมือถือตัวแรกของโลกที่มากับกล้องถ่ายรูปด้านหน้าพร้อมกับเลนส์ที่ผ่านการรับรองจาก Leica โดยกล้องข้างหน้าของทั้งคู่นั้น มีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล และมีค่า F อยู่ที่ F1.9 ช่วยให้การชักรูปในที่เวลาค่ำได้ดีขึ้น เนื่องด้วยสามารถรับแสงได้มากขึ้นถึง 2 เท่า
 
 4. ความแรงของ CPU KIRIN 960
ชิปที่ใช้ภายใน Huawei P10 และ P10 Plus คือ Kirin 960 ตัวเดียวกับที่ใช้ใน Mate 9 และ Mate 9 Pro ซึ่งทาง Huawei ก็เน้นย้ำในเรื่องของการใช้งานว่าความไวจักมิเพลาลงครั้นเมื่อใช้งานไปนานๆ ทั้งยังมี Machine Learning พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้
 

  • ซอฟต์แวร์ EMUI 5.1


P10 และ P10 Plus ใช้ EMUI 5.1 โดยฟีเจอร์ไฮไลท์คือการนำซอฟต์แวร์จาก GoPro มาใช้ ซึ่งเป็นการนำภาพถ่ายที่เป็นไฮไลท์ต่างๆ จากในอัลบั้มมาแสดงเป็นวิดีโอ


  •  โทรศัพท์มือถือตัวแรกที่รองรับสัญญาณ 4.5G LTE


Huawei เป็นแบรนด์ผู้ก่อกำเนิดอุปกรณ์เครือข่ายรายใหญ่ด้วย จึงทำให้ P10 Plus เป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นแรกที่รองรับการใช้งาน 4.5G LTE แถมยังมาพร้อมกับเสาสัญญาณภายในตัวถึง 4 เสา ส่วนของ P10 ยังคงเป็น 2 เสาอยู่อย่างเดิมนะฮะ


  •  แบตเตอรี่ที่ยิ่งใหญ่ขึ้น และชาร์จรวดเร็วขึ้น


P10 และ P10 Plus มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับตอน P9 และ P9 Plus ซึ่งแบตเตอรี่ของ P10 นั้นมีขนาดอยู่ที่ 3,200 mAh ด้าน ของ P10 Plus นั้นมีความจุอยู่ที่ 3,750 mAh


  •  ราคาที่แสนจะถูกในปัจจุบันนี้


ในครั้งแรกที่เปิดตัว Huawei P10 และ Huawei P10 Plus สนนราคาอยู่ที่
Huawei P10 (32GB) มูลค่า 17,900 บาท
Huawei P10 (64GB) สนนราคา 19,900 บาท
Huawei P10 Plus (64GB) มูลค่า 23,900 บาท

 แต่ทว่าภายหลังที่ Huawei P20 และ HuaweiP20 Pro โหมโรงมา ราคาของ HuaweiP10 และ HuaweiP10 Plus นั้นย่อมเยาลงมาก บางคราวหากว่าจ่ายเงินพร้อมโปรโมชั่นราคาก็ต่ำกว่าครึ่งเลยทีเดียว

 นี่คือข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้ผู้ที่คิดจะซื้อ Huawei P10 และ Huawei P10 Plus ในเวลานี้ หวังว่าจะเป็นผลประโยชน์ไม่มากก็น้อย

Tags : huawei p10,หัวเว่ย p10,huawei p10 ราคา