บริษัท Fuji นับว่าถือเป็นบริษัทผู้นำตลาดในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับกล้องถ่ายรูปมาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นอนาล็อกโดยที่ในยุคนั้นคู่แข่งคนยิ่งใหญ่ภายในตลาดเหมือนกันคงเป็นผู้ใดไม่ได้นอกจาก Kodak ที่เป็นเจ้าตลาดทางฟากของอเมริกา ซึ่งตอนเข้ามาถึงในตอนระบบดิจิตอลกำลังเข้ามาพร้อมด้วยโลกของทุกคนกำลังก้าวย่างสู่ยุคสมัยจุดต่อระหว่างยุคอนาล็อกและช่วงดิจิตอลส่งผลกระเทือนกับบริษัทรวมทั้งผลิตภัณฑ์จำนวนมากหนึ่งในนั้นก็คือสินค้าของบริษัท Fuji รวมถึง Kodak ซึ่งก็คือกล้องและฟิล์ม
ผลพวงที่มีขึ้นที่มาจากการเปลี่ยนผ่านไปทำจากสมัยดิจิตอลส่งผลให้ฟูจิพยายามเอาตัวรอดเพื่อที่จะให้บริษัทของตนเองคงอยู่ต่อไปในสภาวการณ์เช่นนี้ โดยที่ Fuji ได้จัดทำ 3 ประการ คือการตัดทอนงบส่วนการทำงานของด้านอนาล็อกลง ทำการเพิ่ม ช่องทาง ลงไปยังดิจิตอลเยอะขึ้น รวมทั้งทำประเภทผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อการปรับเรื่องที่ตนเองมีอยู่ จะเห็นว่า Fuji ไม่เพิกเฉยที่จะปรับตัวพร้อมกับพัฒนาตนเองสำหรับก้าวเข้าสู่อีกโลกได้อย่างดี
ภายหลังการปฏิรูปรวมทั้งเริ่มต้นเข้าสู่ระบบดิจิตอลมาแล้ว ปัจจุบันนี้ Fuji ก็ยังคงคุณภาพของตัวเองไว้ได้พร้อมกับยังเป็นเจ้าในด้านกล้องถ่ายภาพอยู่ โดยสิ่งที่ Fuji ปรับปรุงรวมทั้งทำได้อย่างยอดเยี่ยมก็คือ กล้องถ่ายภาพ Fuji ที่เป็นตัวกล้องถ่ายภาพ Mirrorless ที่กำลังที่นิยมกันมากมายในตอนนี้เนื่องจากด้วยมูลค่าที่ถูกมาก พกไม่ยาก รวมถึงความคล่องตัวในการใช้งานยิ่งกว่ากล้องถ่ายภาพตัวใหญ่พวก DSLR เลยช่วยให้กล้องชนิดนี้ตรงใจผู้บริโภค
มาถึงตรงนี้ทุกคนอาจจะมองว่ากล้อง Mirrorless มันหมายถึงอะไร แล้วกล้องถ่ายภาพ Mirrorless ต่างหรือมีจุดแข็งที่แตกต่างจากกล้องถ่ายรูปประเภท DSLR เป็นอย่างไรบ้างกล้อง Mirrorless ก็คือ กล้องถ่ายภาพที่ไม่มีกระจกสะท้อนรูปภาพ รูปภาพจากเซนเซอร์จะมาแสดงที่รูมองภาพแทนที่เพราะตรงนี้เองที่ทำให้กล้องกลุ่มนี้มีสัดส่วนเล็กลงรวมทั้งใช้งานได้คล่องมากขึ้น โดยที่จุดแข็งของกล้อง Fuji ประเภท Mirrorless มีอีกหลายประเภท ข้อแรกก็คือการตอบสนองที่คล่องแคล่วของการปฏิบัติการชัตเตอร์รวมทั้ง Live View ถ้าเปรียบเทียบแล้ว กล้อง DSLRแบบปกติหากเปิดใช้ Live View หลังจากนั้นจะทำให้กล้องถ่ายรูปช้าและจับโฟกัสช้า รวมถึงความถูกต้องในการดูแลสีรวมถึงแสงโดยที่กล้องถ่ายภาพ Fuji กลุ่ม Mirrorless เซนเซอร์จับภาพมาที่จอแสดงผลหลังจากนั้นเราอาจปรับค่าแสง สี หรือว่าปรับเปลี่ยน White Balance ได้ก่อนที่จะจิ้มชัตเตอร์รวมถึงภาพที่เห็นในหน้าจอสีรวมถึงแสงจะตรงกับรูปภาพที่ออกมาเป็น JPEG ยิ่งกว่ากล้อง DSLR ที่โดยมากเห็นจากกล้องถ่ายภาพชนิดนึงหลังกดชัตเตอร์จะได้รูปอีกแบบ รวมถึงความเร็วของชัตเตอร์ที่หลังจากจิ้มก็จะถ่ายภาพแบบทันที ต่อมาเรื่องของปุ่มต่างๆ Fuji เองก็ทำดีผู้ใช้สามารถสั่งการกับแก้ไข การทำงานได้ด้วยตนเองเนื่องจากระบบของปุ่มสั่งการการใช้งานผ่านโปรแกรมทำให้ง่ายกับการทำงานมาก ในเรื่องของช่องดูรูปภาพก็ทำให้แก้ปัญหาจากการดำเนินงานของกล้องถ่ายรูปทั่วๆ ไปด้วยการที่ขยายช่องดูรูปภาพทำให้ช่องสามารถแสงสว่างผ่านได้มากขึ้นได้เพิ่มขึ้น รูปภาพละเอียด จับสีดีขึ้น รวมไปถึงการทำให้ปรากฏ Black Out น้อยลงจนเกือบจะไม่มีแล้ว โดยทั่วไปทำให้รูปที่ได้คล้ายคลึงกับเรื่องจริงมากขึ้น
ในส่วนที่จำเป็นมากสำหรับกล้องก็คงเป็น การโฟกัสข้อเด่นคือการที่กล้องถ่ายภาพประกอบด้วยระบบโฟกัส 2 ประเภท คือแบบ Auto Focus และชนิด Manual Focus  เป็นจำต้องจับโฟกัสเอง ความสะดุดตาของ Auto Focus ก็คือเราไม่จำเป็นต้องมาคอยจับโฟกัสเองรวมถึงก็ช่วยปรับแสงให้โดยอัตโนมัติโดยการทำให้รูปออกมาสว่างขึ้นถึงแม้ว่าจะอยู่ในที่ แสงน้อยก็ยังสามารถทำงานได้อย่างดี รวมทั้งระบบ Focus มีประสิทธิภาพสูงมากทั้งส่วนที่มีจุดโฟกัสทั่วเฟรมรูปถ่ายหรือจะเป็นฟังก์ชัน Wide screenที่ช่วยให้ลากจุดไปวางไว้กับวัตถุถ้าสิ่งของนั้นเคลื่อนที่ก็จะมีการถ่ายภาพไล่ตามเพราะว่าฟังก์ชั่นนี้โดยปกติมักจะเพียงแค่ในกล้องถ่ายรูปDSLR ราคาแพงเพียงอย่างเดียว และฟังก์ชันที่ทำให้รูปภาพ JPEG ของกล้องถ่ายภาพ Fuji ถูกใจผู้บริโภคหลายๆคนคือ Face detection ก็คือการที่กล้องสามารถจับโฟกัสหน้าตาของคนได้รวมถึงเปรียบเทียบแสงเปลี่ยนแสงเปลี่ยนสีให้โดยอัตโนมัติซึ่งกล้องถ่ายรูป DSLR ธรรมดาจะไม่มีระบบนี้ รวมทั้งแบตเตอรี่ใช้ได้นานกว่ากล้องถ่ายรูป DSLR ในขนาดแบตเตอรี่ที่เท่ากัน
จากข้างต้น จะเห็นว่ากล้อง Fuji ได้ทำมาจากกล้องออกมาตอบโจทย์ผู้ใช้ไม่ว่าจะเป็นคนที่ถ่ายภาพเอาจริงรวมทั้งทั่วๆ ไปได้อย่างดี เพราะFujiเองก็มีกล้องออกขายหลายรุ่นอย่างเช่น A-series ที่เหมาะกับทุกคนใช้งานสะดวกสบาย F-series ดีไซน์มีคุณสมบัติเฉพาะ S-series ที่เหมาะสำหรับมืออาชีพในการถ่ายภาพ อย่างนั้นแล้วกล้อง Fuji น่าจะเป็นอีกหนึ่งในช่องทางเพื่อผู้ที่มองหากล้องถ่ายรูปฟังก์ชันคุณภาพดีกับราคาน่าซื้อเพื่อใช้งานถ่ายภาพซักตัว

Tags : Fuji,กล้อง fuji,กล้อง fuji รุ่นไหนดี