ในทุกวันนี้ได้มีสื่อความบันเทิงหลายอย่าง มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ที่พวกเราชินกันเป็นอย่างดีก็คือ สื่อทีวีและวิทยุนั้นเอง โดยเป็นสื่อที่รับชมได้สะดวกมากที่สุด พร้อมกับเนื้อหาที่ทั่วถึงมากที่สุด อาทิ ข่าวสาร ละคร เพลง และอื่นๆ อีกหลากหลาย นอกจากนี้ก็ยังมีสื่อดนตรี บทเพลงหลายอย่าง รวมถึงคาราโอเกะ, สื่อสิ่งพิมพ์ เช่น หนังสือพิมพ์ หนังสือการ์ตูน นิตยสาร ฯลฯ, สื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ค ตัวอย่างเช่น Facebook, Twitter, Instagram, Tumblr, Line เป็นต้น, สื่ออุปกรณ์ไอที ตัวอย่างเช่น Tablet โทรศัพท์มือถือ เครื่องเล่นเกม, สื่อรูปภาพ ก็จักเป็นจำพวกภาพเขียน รูป รวมไปถึงกล้องถ่ายภาพชนิดต่างๆ และสุดท้ายนี้คือ สื่อภาพยนตร์ โดยเป็นสื่อที่มีอิทธิพลต่อประชาชนมากๆ ในสังคม อีกทั้งเป็นสื่อที่เป็นที่นิยมมากมายเช่นเดียวกัน และในเมืองไทยเรานั้นก็มีผู้คนที่ชื่นชอบการดูสื่อภาพยนตร์เพิ่มมากขึ้นทุกวี่ทุกวันด้วย ถ้าหากได้ชมกับ Blu-ray Player หรือเครื่องเล่นบลูเรย์ดีๆ สักเครื่องก็อาจเป็นเหตุให้คนรักภาพยนตร์ไม่เป็นอันทำอะไรแน่ๆ
ซึ่งหากผู้ที่ชอบการรับชมหนังแล้วนั้น เชื่อมั่นว่าต้องมี Blu-ray Player หรือว่า เครื่องเล่นบลูเรย์ ไว้ที่บ้านอย่างแน่นอน และด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันนี้ ก็ได้พัฒนา Blu-ray Player หรือว่า เครื่องเล่นบลูเรย์ ให้มีการรองรับความคมชัดได้ถึงในขั้น 4K เลยเชียว ถ้ายิ่งได้เชื่อมร่วมกับโทรทัศน์ขนาดใหญ่ที่มีความละเอียดถึงระดับ 4K หรือ Ultra HD แน่นอนว่าท่านจักได้ทั้งความชัด ได้ภาพที่คุณภาพสูง และเสียงที่เหมือนจริง เป็นการเพิ่มเติมอรรถรสในการชมให้ตื่นตาตื่นใจเหมือนกับท่านกำลังดูอยู่ที่โรงหนัง รวมไปถึงบางรุ่นบางแบรนด์ยังสามารถต่ออินเตอร์เน็ตได้ ทำให้สามารถใช้บริการวีดีโอสตรีมมิ่งจากผู้ให้บริการมากมาย ที่กำลังเป็นเทรนด์ที่เป็นที่นิยมทวีเรื่อยๆ ด้วย ดังนั้น Blu-ray Player 4K ที่พวกเราจักมาแนะนำกันในวันนี้จักเป็นยี่ห้ออะไร รุ่นไหนนั้น ต้องรอรับชม แต่ทว่าก่อนอื่นไปดูกันก่อนดีกว่าว่ามีหลักเกณฑ์อะไรบ้างในการตกลงใจเลือกซื้อ
- Disc Formats ควรหลายหลาก และเพียงพอต่อความจำนงของท่าน ดังเช่น AVI, WMA, MP4, MP3 ฯลฯ
- ขนาดของดิสก์ บางแบรนด์จะผลิตให้มีฮาร์ดไดรฟ์ติดอยู่ข้างในกับเครื่องเล่นมาด้วย (Internal Storage) โดยสามารถเก็บสื่อบันเทิงอื่นๆ ได้ ทำให้เพิ่มความคล่องในการเล่นเพิ่มมากขึ้น ถ้างบถึงก็จัดไป แต่ทว่าถ้าหากคิดว่ามิได้จำเป็นอะไรมาก ก็ข้ามหัวเรื่องนี้ไปได้เลย
- Component Video Outputs จำเป็นต้องสังเกตโทรทัศน์ที่จะเอาไปใช้ให้เรียบร้อยก่อน ถ้าทีวีไม่มีพอร์ต HDMI ก็จำต้องเลือกซื้อเครื่องเล่นที่มี Component Video Outputs (แจ็คเสียบ 3 สี เขียว น้ำเงิน และแดง) แต่กระนั้นภาพที่ได้ก็จะมิได้ความละเอียดสูงตามที่ต้องการ
- ระบบการดู 3D ถ้าคุณนิยมชมชอบการดูภาพยนตร์รูปแบบ 3 มิติ สามารถหาเครื่องเล่นบลูเรย์ ที่รองรับระบบการรับชมแบบ 3D ได้เลย ซึ่งอาจจำเป็นต้องใช้ร่วมกับแว่นตา 3D รวมไปถึงทีวีที่รองรับระบบ 3D ด้วย
- 4K Upscaling ถ้าหากคุณมีทีวี 4K หรือว่า Ultra HD Blu-ray Player หรือเครื่องเล่นบลูเรย์ที่จะเลือกซื้อควรมีระบบแปลงความละเอียดของภาพให้สูงขึ้นที่เรียกว่า 4K Upscaling โดยภาพจากดิสก์ Blu-ray ที่มีความละเอียดระดับ Full HD หรือ 1920x 1080 พิกเซล จักถูกทำให้เป็นความละเอียดขั้น Ultra HD หรือว่า 3840 x 2160 พิกเซล ซึ่งเหมาะสมกับการแสดงผลได้ดีบนโทรทัศน์ 4K ของคุณนั่นเอง
- Video Streaming อย่างที่บอกกล่าวไปแล้วว่า Blu-ray Player บางยี่ห้อสามารถใช้บริการวีดีโอสตรีมมิ่งจากผู้ให้บริการต่างๆ ได้ ตัวอย่างเช่น Netflix, CinemaNow, Vudu, Hulu Plus ฯลฯ หรือบางยี่ห้อมีคุณลักษณะเพื่อสตรีมวิดีโอจาก Youtube จุดเด่นคือสามารถเลือกรับชมคอนเทนต์อื่นๆ จากอินเตอร์เน็ตโดยตรงได้เลย อย่างไรก็ตามข้อเสียหายก็คือหากว่าปราศจากอินเตอร์เน็ตก็ไม่สามารถดูได้ รวมไปถึงถ้าความเร็วอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมอืด ก็จักทำให้ความละเอียดของภาพถูกลดน้อยลงได้
- ระบบเสียงรอบทิศทาง นอกจากเรื่องของภาพที่กระจ่างแล้ว เรื่องของสุรเสียงก็สำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นควรเลือกระบบเสียงที่นิยมอีกทั้งพบบ่อยในการเลือกซื้อนั่นคือ Dolby Digital โดยถ้าหากนำมาติดตั้งพร้อมกับลำโพง 6 ตัว กับลำโพงซับวูฟเฟอร์ที่ให้เสียงเบสต่ำ จะยิ่งทำให้ได้สัมผัสถึงความสามารถของ Dolby Digital อย่างท่วมท้นประสิทธิภาพ
และนั่นคือหลักการเลือกซื้อ Blu-ray Player หรือเครื่องเล่นบลูเรย์ โดยย่อ จากนั้นจักเป็นการแนะเครื่องเล่นบลูเรย์ที่น่าสนใจซึ่งนั่นก็คือ Panasonic DMP-UB400 ซึ่งเป็นเครื่องเล่นรุ่นเริ่มต้นแต่ทว่าราคาน่าคบหา พร้อมทั้งมอบคุณลักษณะด้านภาพและเสียงที่น่าสนใจ การออกแบบข้างนอกเรียบร้อย ตอบโจทย์ผู้ที่อยากชมภาพแบบ 4K HDR แท้ๆ จากแผ่น UHD Blu-ray ได้ไม่ยาก ยิ่งกว่านั้นยังให้สีที่สด โชว์แสนยานุภาพของ HDR ได้ดีกว่า Blu-ray Player 4K รุ่นเริ่มต้นทั่วๆ ไป
นอกจากการชมผ่านแผ่น UHD Blu-ray แล้ว ยังสามารถดู Netflix ที่ให้ภาพแบบ 4K HDR ได้ด้วย รวมถึงการรองรับไฟล์หนังมากหลายสกุลยอดนิยม ด้านช่องต่อก็ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นช่อง USB ส่วนหน้า พร้อมทั้ง USB 3.0 ข้างหลัง พร้อมช่อง HDMI 2 ช่อง แยกภาพและเสียงออกจากกัน อีกทั้งช่อง Ethernet เพื่อเชื่อมอินเตอร์เน็ต หรือว่าจักเชื่อมผ่าน Wi-Fi ก็ได้ และสุดท้ายคือ ช่องต่อ Optical เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการให้สัญญาณเสียงสู่เครื่องเสียงหรือทีวีที่บ้านของท่านนั่นเอง และทั้งหมดนี้น่าจะยืนยันความคุ้มค่า คุ้มราคาสำหรับ Panasonic DMP-UB400 แล้วละนะฮะ

Tags :  4K Blu-ray Player,LG, เครื่องเล่นบลูเรย์ ราคา