สวัสดี บุคคลทั่วไป

สภาพอากาศในบ้านหมดจดง่ายๆ โดยใช้ที่กรองอากาศ

  • 0 ตอบ
  • 258 อ่าน
            ตอนนี้สภาพอากาศที่คุณหายใจไปเกือบจะเป็นสภาพอากาศประกอบด้วยแต่ฝุ่นผงพร้อมด้วยสิ่งสกปรกที่ปนเข้าในนั้นอาจกระตุ้นให้ป่วยไม่ยาก หรือว่าสูดไม่ค่อยสบายได้ เช่นนั้นแล้วการที่เข้าอยู่อยู่ในมลพิษสิ่งสกปรกเราจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จำเป็นหายใจอากาศนำสิ่งเหล่านั้นเข้าไปภายในร่างกาย
            แต่อย่างไรก็ตามขณะคุณกลับที่อยู่อาศัยเราเป็นไปได้ว่าเห็นว่าอากาศภายในที่อาศัยสะอาดสะอ้านกว่านอกบ้านจริงอยู่แต่ยังคงมีละอองที่มาจากสิ่งของภายในบ้านที่บางทีเราอาจจะคาดว่าก็ซักล้างอยู่บ่อย หรือที่ติดมาพร้อมกับเครื่องนุ่งห่มเราที่ไปภายนอกมาทั้งวัน สิ่งต่างๆ เหล่านี้กระตุ้นให้เราแทบจะต้องอยู่กับมลพิษเป็นประจำ เพราะฉะนั้นแล้วเราเลยควรจะมีผู้ช่วยที่เรียกว่า เครื่องฟอกสภาพอากาศ เพื่อภายในบ้านเพื่อที่จะทำให้ที่พักสะอาดอีกทั้งคุณได้สภาพอากาศใสสะอาดบ้างในทุกวัน
            โดยที่กรองสภาพอากาศที่ใช้ในบ้านมีอยู่ 4 ลักษณะด้วยกันตัวอย่างเช่น 1. ที่ฟอกอากาศรูปแบบใช้แผ่นสกัดคาร์บอน (Carbon Air Purifiers) โดยตามธรรมดาแล้วล่ะก็คาร์บอนมีคุณสมบัติเพื่อดักจับสิ่งโสโครกพร้อมทั้งกลิ่นตั้งแต่แรกแล้วก็เลยมีการเอามาจัดทำเป็นไส้กรองสภาพอากาศที่ประกอบด้วยคาร์บอนเพื่อใช้บนกระบวนการสกัดสภาพอากาศ 2. เครื่องกรองอากาศประเภทใช้ประจุไฟฟ้า (Ionic Air Purifiers) โดยที่กรองอากาศลักษณะนี้มีการคัดประจุไฟฟ้ามาใช้เพื่อดักจับขี้ผงหลายอย่าง ก็เพราะว่าประจุไฟฟ้าสามารถดักจับอนุภาคดีอาจจะมีฝุ่นเล็กมากก็ตาม ตัวอย่างเช่นฝุ่นละอองทั่วๆ ไป ขนสัตว์ แม้แต่ควันบุหรี่ ทำให้เครื่องกรองอากาศอย่างนี้เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องทางเดินหายใจ หรือไม่ก็มีอาการภูมิแพ้ 3. เครื่องฟอกสภาพอากาศลักษณะประสิทธิภาพสำหรับกรองมากๆ (High Efficiency Particle Arresting) หรือที่เรียกว่า HEPA ถือเป็นที่กรองอากาศที่คุณภาพในการกรองสภาพอากาศดีมากเนื่องจากตัวไส้กรองผลิตที่มาจากใยแก้วละเอียด สามารถสกัดอากาศให้ใสสะอาดได้ถึง 99% แต่ว่าข้อเสียคือไม่สามารถซึมซับควันหรือว่าดูดซับกลิ่นได้ คือเครื่องฟอกอากาศที่โดยมากใช้ภายในโรงพยาบาลหรือโรงงานบางชนิด โดยที่ไส้กรองมีอายุการทำงานนานถึง 4 ปี  4. เครื่องฟอกอากาศรูปแบบประสม คือที่กรองอากาศที่ประเภทผสม 2 ระบบเข้าด้วยกันคงคือผสมระหว่าง Carbon เข้ากับ Ionic หรือไม่ก็ HEPA กับ Ionic ก็ได้แล้วแต่ว่าผู้ผลิตอยากได้ให้เครื่องฟอกอากาศใช้งานออกในประเภทไหน
            ด้วยแบบที่กรองสภาพอากาศทั้งหลายที่เอ่ยถึงอาจมีหลายคนคลางแคลงใจว่าแล้วจะที่มีแนวทางการเลือกที่กรองอากาศอย่างไรเพื่อที่จะเหมาะกับตนเองมากที่สุด อย่างแรกจำเป็นต้องรู้จักสภาพอากาศภายในที่อยู่ตัวเองว่าประเภทสภาพอากาศรอบบ้านเป็นยังไง มีละอองเยอะหรือไม่ หรือไม่ก็มีกลิ่นไม่ดีหรือไม่แล้วจึงค่อยเลือกที่ฟอกสภาพอากาศถัดมาที่การคัดตัวเครื่องกรองอากาศโดยตัวที่ดีควรมี  2 ระบบในเพียงอันเดียวก็คือ  สกัดขี้ฝุ่น ดักจับฝุ่น พร้อมกับซับกลิ่นภายในเพียงอันเดียว รวมถึงมีแรงที่ช่วยให้ดูดอากาศโดยรอบ สำหรับไปฟอกรวมทั้งปลดปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมา ตรวจสอบดูให้ดีว่าระบบกรองอากาศกับแผ่นกรองเป็นรูปแบบที่เรามุ่งหวังหรือเปล่าพร้อมกับสามารถนำไปล้างง่ายหรือไม่รวมถึงพวกสนนราคาแผ่นกรองเป็นแบบไหนเพื่อที่จะเวลาที่กรองหมดเวลาจะหาซื้อง่าย สุดท้ายก็เป็นการคิดตัวเลขที่เรียกว่า  CADR (Clean  Air  Delivery  Rate)  ตัวเลขนี้ก็คือตัวเลขสำหรับเทียบประสิทธิภาพสำหรับทำงานเกี่ยวกับเครื่องกรองสภาพอากาศโดยที่ตัวเลขนี้จะมากขึ้นหากมีมนุษย์อยู่ที่ห้อง
            เรื่องจากการทำงานตลอดจนการดูแลรักษาก็คือ การใช้งานส่วนที่ฟอกอากาศควรที่จะปิดห้องเพื่อที่จะเครื่องฟอกอากาศใช้งานเอาไว้ก่อนที่เข้าภายในห้องเพื่อสภาพอากาศสะอาดสะอ้านก่อน ด้านการเอาใจใส่ล้างเป็นพึงเก็บกวาดที่กรองขั้นต่ำทุก  3 เดือน  ด้วยการนำมาล้างแล้วก็แล้วก็ตากให้หายชื้น  เพื่อที่จะฆ่าไวรัส  หรือไม่ก็ชำระล้างตามที่คู่มือการใช้บอกไว้ แต่ส่วนผู้ที่ไม่อยากทำความสะอาดบ่อยๆ ควรจะเลือกใช้รูปแบบประจุไฟฟ้า เนื่องจากแม้ว่าจะราคาสูงกว่าลักษณะนอกจากนี้แต่ว่าไม่ต้องเก็บกวาดประจำและดูแลง่าย
จะเห็นได้ว่าเครื่องฟอกอากาศมีอยู่หลายแบบตลอดจนวิธีสำหรับเลือกให้เหมาะสำหรับการใช้งานก็ไม่ได้ยากแบบที่คิดนอกจากการเอาใจใส่ความสะอาดสะอ้านก็สะดวกมากอีกเช่นกัน โดยที่ฟอกสภาพอากาศมีให้เลือกกันหลากหลายแบรนด์ด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Sharp , Philip , Dyson ,Blueair ฯลฯ เริ่มตั้งแต่ราคา 2-3พันบาทไปถึง 4-5 หมื่นเลยทีเดียว
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี

Tags : เครื่องฟอกอากาศ,เครื่องฟอกอากาศ ราคา,เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี