กล่าวถึงเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า กาต้มน้ำเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ทุกบ้านควรมีค่ะ โดยเฉพาะกาสำหรับต้มน้ำไฟฟ้า หรือว่าหลายๆ บ้านก็อาจจะมีทั้งกาที่มีไว้ต้มน้ำโบราณแบบที่ใช้ต้มกับเตาแก็สหรือเตาถ่าน แล ะมีทั้งกาที่เอาไว้ต้มน้ำใช้กระแสไฟฟ้า ทั้งนี้ขอบอกเลยว่ากาทั้งสองประเภทมากันแบบคนละอารมณ์จริงๆ จ้ะ ในส่วนของกาที่มีไว้สำหรับต้มน้ำแบบใช้กระแสไฟฟ้า พวกเราสามารถใช้งานในบ้านได้แบบง่ายๆ ทั้งชงชา กาแฟ หรือแม้แต่ใช้น้ำร้อนน้ำอุ่นในกิจกรรมต่างๆ ซึ่งปัจจุบันนี้มี 3 แบบเป็น แบบปกติ แบบอัตโนมัติ รวมทั้งแบบปล่อยน้ำด้วยแรงกดอากาศ ซึ่งวันนี้เรามาดูกันค่ะว่า กาที่มีไว้สำหรับต้มน้ำแต่ละแบบเป็นยังไงบ้าง
 
 
กาต้มน้ำไฟฟ้าแต่ละแบบ แตกต่างกันอย่างไรนะ?
 
 
 

 
1. กาที่มีไว้ต้มน้ำใช้กระแสไฟฟ้าแบบธรรมดา มีส่วนประกอบเพียงอย่างเดียว คือ ลวดความร้อน หรือฮีทเตอร์ เป็นลวดนิโครมห่อด้วยผงแมกนีเซียมออกไซด์ แล้วห่อด้วยท่อโลหะ ลวดความร้อนนี้จะม้วนโค้งอยู่ที่ด้านล่างกา มีขั้วกระแสไฟฟ้า 2 ขั้ว ต่อออกมาด้านนอก เพื่อต่อกับปลั๊กไฟฟ้าทำให้น้ำร้อน เมื่อมีกระแสไฟไหลผ่านลวดความร้อนจะมีผลให้ลวดความร้อนมีอุณหภูมิสูงมากขึ้นเรื่อยแล้วก็ความร้อนจะถูกถ่ายเทไปให้กับน้ำจนอุณหภูมิของน้ำสูงสุดถึงจุดเดือด หากน้ำเดือดแล้วยังไม่ดึงปลั๊กไฟฟ้าออกน้ำจะเดือดต่อไปเรื่อยจนถึงระเหยเป็นไอหมด
ข้อควรปฏิบัติตาม การใช้กาจำพวกนี้ต้องระวังไม่ให้ระดับน้ำต่ำลงยิ่งกว่าลวดความร้อน บางทีอาจมีการเสียหายได้ไพเราะลวดความร้อนถูกวางแบบใช้กับน้ำเท่านั้น
 
2. กาที่เอาไว้สำหรับต้มน้ำแบบอัตโนมัติ มีส่วนประกอบสำคัญเป็น แผ่นความร้อน และก็อุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิแบบ ไบเมทอลิค มีหน้าที่ตัดต่อกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านแผ่นความร้อน ให้มีอุณหภูมิตามอยากได้เครื่องใช้ไม้สอยให้ความร้อนหรือฮีตเตอร์ของกาต้มน้ำร้อนประเภทนี้มีทั้งปิดแล้วก็ครึ่งหนึ่งปิดไม่ว่าจะเป็นฮีทเตอร์ แบบใดก็ตามที่ใช้กับกาที่มีไว้สำหรับต้มน้ำนี้จะถูกออกแบบสำหรับต้องทำงานกับน้ำโดยควรจะมีน้ำอยู่ในกาตลอดเวลา หากปลดปล่อยให้น้ำแห้งหรือต่ำลงมากยิ่งกว่าระดับที่ระบุ ก็อาจสำเร็จทำให้ฮีทเตอร์เสียหายได้ เครื่องมือการควบคุมอุณหภูมิของกาน้ำร้อนประเภทนี้โดยมากจะเป็นแบบ ไบเมทอลลิค (Bi- metallic) ซึ่งทำมาจากโลหะสองชนิดที่มีอัตราการขยายตัวไม่เท่ากันมายึดติดสนิทแน่นเข้าด้วยกัน เมื่อแผ่นไบเมโทอลลิคได้รับความร้อนจะเกิดการงอตัวมาควบคุมคอนแทค (Contact) สำหรับเพื่อการตัดต่อไฟฟ้าที่ไหลผ่านฮีทเตอร์หลอดไฟนี้ทำหน้าที่แสดงให้ทราบถึงแนวทางการทำงานของกาสำหรับต้มน้ำร้อนว่าปฏิบัติงาน หรือตัดการทำงาน เป็นการแสดงถึงน้ำในกาที่ต้มมีอุณหภูมิถึงจุดที่อยากแล้ว
 
3. กาที่เอาไว้ต้มน้ำชนิดอัตโนมัติแบบปล่อยน้ำด้วยแรงกดอากาศ (Air Pressure Automatic Electric Pots) รูปร่างเหมือนกระติกน้ำ แต่ว่าลักษณะการทำงานราวกับกาต้มน้ำ สามารถเก็บความร้อนของน้ำให้อุ่น หรือร้อนนานเท่าที่ปรารถนาได้ กาที่มีไว้สำหรับต้มน้ำแบบนี้มีส่วนประกอบสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น
- ฝาครอบ เป็นฝาครอบข้างบนสุดของกามีปุ่มล็อคฝาให้อยู่กับที่ ฝาครอบนี้ ปฏิบัติภารกิจเป็นตัวอัดอากาศเข้าไปด้านในกา เมื่อผู้ใช้ใช้มือกดลงบนฝา
- ฝาปิดข้างใน เป็นแผ่นอลูมิเนียมกลมที่ขอบมียางหุ้มห่อไว้โดยรอบเพื่อกันไม่ให้มีอากาศรั่วออก
- โครงกา มี 2 ชั้น คือ โครงกาชั้นนอกแล้วก็โครงกาชั้นใน ชั้นนอกเป็นฉนวนกันความร้อนมีเครื่องหมายบอกระดับน้ำ ช่องบอกไฟแสดงการอุ่น (warm) กาต้ม น้ำ (Boil) โครงกาชั้นในเป็นถังอะลูมิเนียม หรือ สแตนเลส สำหรับใส่น้ำ ที่ด้านหลังส่วนล่างของโครงกามีช่องทิ่มปลั๊กไฟฟ้าแม่เหล็กอยู่ด้วย
- สายไฟ สายไฟที่ใช้กับกาที่เอาไว้ต้มน้ำอย่างนี้ปลายสายด้านหนึ่งจะเป็นปลั๊กไฟมีขาทิ่ม เพื่อทิ่มกับปลั๊กไฟจ่ายไฟในบ้าน ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งเป็นปลั๊กแม่เหล็กสำหรับทิ่มติดกับขั้วต่อของกา เพื่อนำกระแสไฟฟ้าไปสู่กาที่เอาไว้ต้มน้ำ
- ลวดความร้อน อยู่ด้านด้านล่างกา มี 2 ชุด ชุดที่หนึ่งมีขนาดกำลังไฟราวๆ 700 วัตต์ ช่วยปรับน้ำร้อน อีกชุดหนึ่งมีกำลังไฟประมาณ 50 วัตต์ ทำหน้าที่รักษา อุณหภูมิของน้ำให้คงเดิม
6) หลอดไฟ ด้านในโครงกาข้างล่างจะมีหลอดไฟ 2 หลอด เป็นหลอดไฟแสดงการอุ่น รวมทั้งหลอดไฟฟ้าแสดงการต้มน้ำ หลอดไฟฟ้าทั้งสองปฏิบัติภารกิจบอกสภาพการณ์หลักการทำงานของกาสำหรับต้มน้ำ ในตอนที่เครื่องกำลังทำน้ำให้ร้อน
และนี่เป็นกาที่มีไว้ต้มน้ำทั้งยัง 3 แบบที่มีให้บริการอยู่ในบ้านเรา ใครจะเลือกใช้แบบไหนดีแล้วทั้งหมดเอาเป็นว่าเอาที่สบายเลยค่ะ

Tags : กาต้มน้ำไฟฟ้า