สวัสดี บุคคลทั่วไป

สภาพอากาศในบ้านหมดจดง่ายๆ โดยใช้ที่ฟอกอากาศ

  • 0 ตอบ
  • 227 อ่าน
            สมัยนี้สภาพอากาศที่เราหายใจเข้าไปเกือบเหมือนเป็นสภาพอากาศมีเฉพาะฝุ่นผงพร้อมด้วยสารพิษที่แปลกปลอมเข้ามาในนั้นอาจทำให้ป่วยไม่ยาก หรือว่าสูดไม่ง่ายได้ ฉะนั้นแล้วการที่อาศัยท่ามกลางมลภาวะสารพิษคุณก็เลยหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องหายใจอากาศนำพวกนั้นเข้าไปในร่าง
            อย่างไรก็ตามครั้งเรากลับมาบ้านคุณเป็นไปได้ว่าคิดว่าอากาศข้างในที่อาศัยสะอาดกว่าด้านนอกก็จริงแต่ทว่ายังมีฝุ่นละอองที่มาจากของใช้ในบ้านที่บางครั้งเราอาจจะคาดว่าก็เก็บกวาดบ่อยๆ หรือที่ติดมากับเครื่องแต่งกายคุณที่ออกไปภายนอกมาตลอดทั้งวัน สิ่งต่างๆ เหล่านี้ส่งผลให้คุณจำเป็นต้องอยู่กับมลภาวะทุกเวลา ดังนั้นคุณเลยจำเป็นจะต้องมีผู้ช่วยที่มีชื่อว่า ที่ฟอกสภาพอากาศ เพื่อในบ้านเพื่อช่วยให้ที่พักอาศัยสะอาดสะอ้านพร้อมด้วยเราได้รับอากาศใสสะอาดมั่งกับแต่ละวัน
            โดยที่ที่กรองสภาพอากาศที่ใช้ภายในบ้านมี 4 อย่างด้วยกันได้แก่ 1. ที่กรองสภาพอากาศแบบใช้งานแผ่นกรองคาร์บอน (Carbon Air Purifiers) โดยที่โดยทั่วไปแล้วคาร์บอนประกอบด้วยคุณสมบัติในการดูดจับสิ่งสกปรกพร้อมกับกลิ่นตั้งแต่แรกแล้วก็เลยได้มีเอามาผลิตเป็นไส้กรองสภาพอากาศที่ทำมาจากคาร์บอนเพื่อใช้กับกรรมวิธีสกัดสภาพอากาศ 2. เครื่องกรองอากาศแบบใช้ประจุไฟฟ้า (Ionic Air Purifiers) โดยที่เครื่องฟอกสภาพอากาศรูปแบบนี้มีการเลือกประจุไฟฟ้ามาใช้งานสำหรับดักจับฝุ่นทั้งหลาย เนื่องจากประจุไฟฟ้าสามารถล่อฝุ่นละอองได้ดีแม้จะมีชิ้นเล็กๆเล็กมากก็แล้วแต่ ตัวอย่างเช่นผงทั่วไป ขนสัตว์ หรือแม้แต่ควันไฟบุหรี่ เป็นเหตุให้เครื่องกรองอากาศแบบนี้เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่มีปัญหาเรื่องทางเดินหายใจ หรือไม่ก็มีอาการภูมิแพ้ 3. ที่กรองสภาพอากาศแบบความสามารถในการสกัดดี (High Efficiency Particle Arresting) หรือว่า HEPA นับเป็นที่กรองอากาศมีสมรรถนะสำหรับสกัดสภาพอากาศสูงมากเพราะตัวที่กรองผลิตที่มาจากใยแก้วละเอียด สามารถสกัดอากาศให้สะอาดมากถึง 99% อย่างไรก็ดีข้อบกพร่องคือไม่สามารถซึมซับควันหรือซับกลิ่นได้ ถือเป็นเครื่องกรองอากาศที่โดยมากใช้ข้างในโรงพยาบาลหรือโรงงานบางประเภท โดยที่ไส้กรองมีอายุการใช้งานยาวนานมากถึง 4 ปี  4. ที่ฟอกอากาศรูปแบบผสมผสาน ถือเป็นเครื่องกรองอากาศที่ลักษณะผสมผสาน 2 หน่วยเข้าด้วยกันอาจเป็นการผสานใน Carbon และ Ionic หรือว่า HEPA กับ Ionic ก็ได้แล้วแต่ว่าผู้ผลิตต้องการให้ที่กรองสภาพอากาศทำงานออกบนแบบไหน
            โดยประเภทเครื่องกรองอากาศทั้งหมดที่มีที่เอ่ยถึงคงจะมีหลายๆคนคลางแคลงใจว่าแล้วจะที่มีแนวทางการเลือกที่ฟอกอากาศเช่นใดให้เหมาะกับตนเองมากที่สุด ข้อแรกจำเป็นต้องรู้จักอากาศข้างในที่อยู่ตนเองก่อนว่าประเภทสภาพอากาศในตัวบ้านเป็นยังไง ที่มีฝุ่นเยอะหรือไม่ หรือมีกลิ่นเหม็นหรือไม่เลยค่อยซื้อเครื่องกรองสภาพอากาศต่อมาที่การคัดตัวที่กรองสภาพอากาศโดยตัวที่ีมีประสิทธิภาพควรจะมี  2 ระบบในเพียงอันเดียวก็คือ  กรองขี้ผง ดักจับละออง รวมถึงซึมซับกลิ่นในเครื่องเดียว รวมไปถึงมีพลังที่จะดูดอากาศรอบๆ เพื่อจะไปกรองรวมทั้งปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออก เช็คดูก่อนว่าหน่วยกรองอากาศรวมทั้งแผ่นกรองมีกลักษณะประเภทที่เราตั้งใจหรือไม่กับเป็นไปได้ว่าเอาไปชะล้างได้ไม่ยากหรือเปล่ารวมไปถึงพวกมูลค่าที่กรองเป็นแบบไหนเพื่อที่เวลาที่กรองหมดเขตจะสามารถซื้อได้ไม่ยาก สุดท้ายก็คือการพิจารณาค่าที่เรียกว่า  CADR (Clean  Air  Delivery  Rate)  ตัวเลขนี้ก็เป็นตัวเลขในส่วนตรวจวัดประสิทธิภาพสำหรับทำงานของเครื่องกรองอากาศโดยที่ค่านี้ก็จะมากขึ้นถ้ามีคนอยู่ที่ห้อง
            เรื่องของการทำงานพร้อมด้วยการบำรุงรักษาคือ การใช้งานเพื่อที่กรองอากาศควรจะปิดห้องเพื่อให้เครื่องฟอกอากาศทำงานเอาไว้ก่อนที่เข้าไปภายในห้องเพื่อที่จะอากาศใสสะอาดก่อน ด้านการดูแลเก็บกวาดคือพึงเก็บกวาดแผ่นกรองขั้นต่ำทุก  3 เดือน  ด้วยการนำมาชะล้างแล้วผึ่งให้แห้ง  เพื่อจะทำลายเชื้อโรค  หรือไม่ก็เก็บกวาดตามที่คู่มือการใช้ระบุเอาไว้ แต่ว่าส่วนคนที่ไม่อยากชะล้างประจำ ก็ควรจะเลือกใช้ลักษณะประจุไฟฟ้า เพราะแม้จะราคาสูงกว่าประเภทนอกจากนี้แต่ว่าไม่ต้องทำความสะอาดประจำและดูแลไม่ยาก
จะเห็นว่าที่กรองอากาศประกอบด้วยหลายชนิดรวมถึงวิธีการเพื่อตัดสินใจซื้อให้เหมาะกับการใช้งานก็ไม่ยากแบบที่คิดนอกจากนั้นแล้วการเอาใจใส่ความหมดจดก็ง่ายดายอีกเช่นกัน โดยเครื่องฟอกสภาพอากาศมีเลือกกันหลายแบรนด์ด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Sharp , Philip , Dyson ,Blueair ฯลฯ มีตั้งแต่ราคา 2-3พันบาทไปถึง 4-5 หมื่นเลย

Tags : เครื่องฟอกอากาศ,เครื่องฟอกอากาศ ราคา,เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี