สวัสดี บุคคลทั่วไป

โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่

  • 0 ตอบ
  • 215 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่
« เมื่อ: มกราคม 19, 2019, 09:55:27 AM »
ย้อนกลับในปี 2001 โทรศัพท์เคลื่อนที่ได้เริ่มมีการจำหน่ายในวงกว้างแต่ทว่าเนื่องมาจากพัฒนาการของเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือเครือข่าย ยังไม่พร้อมต่อการใช้งานอย่างเคร่งครัดมากนัก เมื่อบวกและมูลค่าที่สูงเป็นปกติของเครื่องไม้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ชนิดใหม่ๆ ในขณะนั้น มีผลกระทบให้มีผู้บริโภคสมาร์ทโฟนไม่มากนักเมื่อเทียบเคียงกับท้องตลาดมือถือรวมทั้งหมด
 
 แต่เวลาก็ผันแปรพร้อมทั้งการเจริญเติบโตของเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ จวบจนถึงช่วงปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือ กลับเป็นสาระสำคัญอีกอย่างหนึ่งในชีวิตของหลายๆ คน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และขอบข่ายต่าง ๆ เอื้ออำนวยให้ผู้ใช้งานหลาย ๆ ล้านคนได้ติดต่อและมีกิจกรรมอื่น ๆ บนมือถือได้สบาย
 
 ในศก 2017 ยอดรวมส่งออกโทรศัพท์มือถือทั่วโลกอยู่ที่ 408 ล้านเครื่องซึ่งในไตรมาสที่ 3 ปี 2017 นั้นโทรศัพท์มือถือถูกซื้อขายไปรวมทั้งสิ้นราวๆ 383 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 2016 ราวๆ 5% ซึ่ง 3 ลำดับของแบรนด์ที่มียอดขายสูงสุดคือ 1. ซัมซุง ส่วนแบ่งตลาด 21%,2. แอปเปิ้ล ส่วนแบ่งตลาด 12%และ 3. หัวเว่ย ส่วนแบ่งการตลาด 10% พวกเราไปเจาะลึกสภาพการณ์ของแต่ละยี่ห้อกันเลย

 ท้ายปีที่ผ่านมา ซัมซุงเพิ่งเปิดเผยสถิติกำไรมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017โดยผลกำไรสุทธิตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงเดือนธันวาคมกระโดดไปแตะ 357,000 ล้านบาทแต่ดูท่า ซัมซุงจะทุบสถิติลงอีกครั้งหลังจากผ่านไปแค่ 3 เดือน เมื่อเข้าสู่มีนาคม 2018ซึ่งสร้างรายได้ราวๆ 1.7 ล้านล้านบาทแล้ว

 
ซึ่งแม้ว่าเงินได้รวมยอดในไตรมาสแรกของปี 2018 นั้นจะต่ำกว่า3 เดือนสุดท้ายของปีที่ผ่านมา แม้กระนั้นด้วยค่าใช้จ่ายหลายอย่าง นั้นต่ำกว่า ทำให้ ซัมซุงสามารถสร้างผลกำไรได้เป็นสถิติใหม่ของบริษัทอีกครั้งที่ 14,600 ล้านเหรียญ แปลงเป็นเงินไทยที่ 450,000 ล้านบาท

แหล่งที่มาของกำไรที่เป็นสถิตินี้ ก็เป็นชิ้นงานของโทรศัพท์ซัมซุง Galaxy S9 / S9+ ที่ศกนี้เลื่อนมาจำหน่ายรวดเร็วขึ้น ผนวกกับความสำเร็จของ Galaxy A (2018) ที่เป็นมือถือซัมซุงราคาไม่แพงที่ค้าในหลายๆ มณฑล และจอ OLED แต่ที่เป็นตัวสร้างเงินรายได้สูงสุดจริงๆ นั้นคือชิป DRAM ที่สามารถทำการเงินกำไรได้สูงถึง 70% ของท้องตลาด

 ด้านแอปเปิ้ลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงิน 2018 ของบริษัท (ตุลาคม-ธันวาคม 2017) ซึ่งเงินรายได้รวมสร้างสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัทอีกครั้ง 88,293 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.83 ล้านบาท เพิ่มปริมาณ 13% จากเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีเงินกำไรสุทธิ 20,065 ล้านดอลลาร์ หรือ 643,485 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นสถิติใหม่บริษัทเช่นกัน ด้านเงินรายได้จากต่างแดนนอกอเมริกาคิดเป็น 65% ของรายรับรวม

 ไตรมาสที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเริ่ม ขาย iPhone X ซึ่งคาดหมายกันว่าจะเป็นสินค้าหลักที่ทำเงิน ถึงแม้จะมีข่าวโคมลอยออกมาไม่ดีนัก โดยในรายงานผลประกอบการนั้นแอปเปิ้ลบอกตัวเลขรวมของ iPhone ทั้งหมดว่าขายได้ 77.316 ล้านเครื่อง ลดลงจาก3 เดือนเดียวกันในปีก่อน 1% (78.290 ล้านเครื่อง)

 เงินได้จาก iPhone ทุกรุ่นอยู่ที่ 61,576 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% (54,378 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.74 ล้านบาท)
                ที่น่าสนใจคือ iPhone X เป็นไอโฟนรุ่นที่ขายเป็นเทน้ำเทท่าที่สุดของแอปเปิ้ลในทุกสัปดาห์ นับจากเปิดตัวส่งมอบครั้นเดือนพฤศจิกายน 2017 และจำหน่ายได้มากกว่าที่แอปเปิลคาดหวัง
 
 ทางด้านหัวเว่ยสรุปผลประกอบการรวมปี 2017 ยังคงมีเงินรายได้ที่ดีแตะ 9,250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 296.64 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2016 ถึง 15.7% คิดเป็นเงินกำไรสุทธิ 730,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 23.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.1% ในปีที่ผ่านมา

 โดยในศก 2017 หัวเว่ยได้ให้โทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งสิ้น 153 ล้านเครื่อง (รวมแบรนด์ Honor ที่เป็นเจ้าตำรับเดียวกัน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 จากปี 2016

 ซึ่งเมื่อปี 2016 CEO ของ หัวเว่ยเคยประกาศเอาไว้ว่า วัตถุประสงค์ของบริษัทคือการก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทโทรศัพท์เคลื่อนที่ใหญ่โตอันดับ 1 ของโลกให้ได้ภายใน 5 ปี แต่ในเวลานี้ หัวเว่ยยังค่อนข้างมีปัญหาในการพยายามเจาะตลาดแถบอเมริกาเหนือ ก็เพราะว่าฝั่งนั้นยังมีเจ้าตลาดอย่าง iPhone ดูแลอยู่ ส่วนตลาดในฝั่งยุโรปนั้น หัวเว่ยทำได้สวยเลยเทียว ทั้งนี้เพราะสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ในซีรีส์ Mate และ P ได้รับความนิยมเป็นอย่างดี

 ถึงแม้ยอดสรุป3 เดือนล่าสุดปี 2018 ของหัวเว่ยยังไม่ประกาศออกมา แต่ปี 2018หัวเว่ย ก็ปรารถนาไปที่การใช้งานเทคโนโลยีใหม่ในสเกลใหญ่ ตัวอย่างเช่น Internet of Thing, Cloud Computing, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 5G
 
 ในหลายปีที่ผ่านมาข่ายงานไร้สาย 3G มีการใช้งานทั่วโลก หลายประเทศชาติมี 4G และปี2018 คาดการณ์ว่าเป็นปฐมฤกษ์แห่งยุค 5G โดยจะมีการใช้งานในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 23 (พย็องชัง 2018) ที่เกาหลีใต้ เป็นการทดลองประสิทธิภาพก่อนจะใช้อย่างเป็นทางการใน 2 ปีข้างหน้า
 
 การปรากฏตัวของเครือข่ายไร้สาย 5G ทำให้มีการคาดคะเนกันว่า สมาร์ทโฟนจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดในชีวิตประจำวันมากขึ้นไปอีกซึ่งจำต้องคอยจับตามองดูว่ายี่ห้อโทรศัพท์มือถือเหล่านี้จักใช้โอกาสนี้เป็นประโยชน์ได้มากแค่ไหนในการเพิ่มยอดขายและชิงชัยความเป็นที่ 1 ต่อไป

Tags : โทรศัพท์ซัมซุง,โทรศัพท์ซัมซุงราคา,โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่