สวัสดี บุคคลทั่วไป

มองผลสำเร็จจากยี่ห้อแกนนำเทคโนโลยีที่ชื่อ Asus

  • 0 ตอบ
  • 201 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
ในกลุ่มสินค้าเทคโนโลยีในทุกวันนี้ ชื่อของ Asus ถือว่าเป็นอีกยี่ห้อที่ค่อยๆ ชนะใจผู้บริโภค กระทั่งขึ้นเป็นเบอร์ต้นๆ ของตลาดได้บรรลุผลโดยเป็นทั้งผู้ผลิต และผู้จำหน่ายชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์, ส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ ไปจวบจนถึงโทรศัพท์มือถือ, แฟบเล็ต, แท็บเล็ต หรือแม้แต่นาฬิกาอัจฉริยะ (Smartwatch) อะไรคือสิ่งที่เป็นที่ดึงดูดและเป็นต้นกำเนิดความสำเร็จของบริษัทจากประเทศไต้หวันแห่งนี้ มาเกาะติดกันได้เลยครับผม
 
 บริษัท Asus ก่อตั้งขึ้นครั้นเมื่อปี 1989 ณ กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน จากผู้ชายทั้งหมด 4 คน ได้แก่ Wayne Hsieh, Ted Hsu, MT Liao และ TH Tung ซึ่งทั้ง 4 คนนั้น ทำงานที่ Acer ร่วมกันมาก่อนจะตกลงใจลาออกมาเปิดบริษัทของตัวเอง โดยดำเนินธุรกิจการค้าเกี่ยวข้องวัสดุอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ พร้อมทั้งอิเล็กทรอนิกส์ โดยก่อนจะมาเป็นชื่อบริษัท Asus แต่เดิมถูกเรียกว่า Pegasus หมายถึงม้าที่มีปีกในเทพนิยายกรีกโบราณ หมายถึงเครื่องหมายของความบันดาลใจและความเข้าใจผู้ก่อกำเนิดทั้ง 4 เอามายกขึ้นคือชื่อบริษัท เพื่อแทนเจตนารมณ์ว่าปรารถนาจะดำเนินธุรกิจด้วยความงามสง่าน่าเชื่อถือ         

 ภายหลังได้เปลี่ยนนามบริษัทเป็น  Asus แทน เพราะมีคำนิยามที่คล้องจองกัน และที่ต้องซูฮกในกลเม็ดด้านธุรกิจการค้าคือแนวความคิดที่ว่าเมื่อค้นหาโดยลำดับอักษร จะพบเห็นชื่อดังกล่าวก่อนเป็นอันดับแรก
 
                 และแน่นอนว่าหากว่าพูดคุยถึง Asus หลายคนคงจะระลึกถึงคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ซึ่งต้นตอของสายการผลิตนี้อยู่โดยประมาณ ปี 2006 ที่ Asus ได้ประสานกับทีมรถซุปเปอร์คาร์อย่าง Lamborghini ในการปรับปรุงโน้ตบุ๊กที่เน้นความไว มือหนัก มีการใช้สีและตราของ Lamborghini โดยโน้ตบุ๊กในรุ่นนี้ใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า VX series
 
ปี 2007 Asus ก็ได้คิดค้นความไม่ซ้ำใครให้กับแวดวงคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กด้วยการเปิดฉาก Eee PC เน็ตบุ๊กรุ่นแรกๆ ของปฐพี ในงาน Computex ที่ประเทศไต้หวัน ซึ่งในช่วงนั้นทำให้กระแสเน็ตบุ๊กเป็นที่สนใจ และทำให้ Asus ถูกเฝ้าดูในฐานะผู้เป็นใหญ่ด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ตั้งแต่นั้น
 
 ต่อจากนั้น Asus ก็ได้ผลิตโน้ตบุ๊กออกมาอีกหลายรุ่น ซึ่งก็มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ใส่เข้ามาจนถึงในศก 2011 ในงาน CES Asus ได้เปิดฉาก Asus Eee Pad Transformer แท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Android ตัวแรกที่มีหน้าจอ พร้อมด้วย Docking แป้นพิมพ์มาให้
 
 การจัดประเภทคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กของ Asus ใช้การแยกตามการใช้งาน ได้แก่
                รุ่นมัลติมีเดียจะเป็นซีรีย์ N มุ่งเน้นการใช้งานเพื่อความบันเทิงเป็นหลัก
                รุ่นสำหรับเกมเมอร์จะใช้รหัสตระกูล ROG (Republic of Gamer) ที่ดีไซน์มาสำหรับการใช้งานด้านเกมโดยเฉพาะ
 
ซึ่งคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กในแวดวงธุรกิจจะมี 3 ซีรีย์ คือ ZENBOOK เป็น Ultrabook ที่เน้นย้ำการดีไซน์โก้ มีสไตล์ VivoBook มุ่งเน้นที่ความบาง เบา Transformer Book คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ถอดหน้าจอออกมาเป็นแท็บเล็ตได้ และ TAICHI คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กลูกผสม สามารถทำได้ทั้งคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กและแท็บเล็ต

 แน่นอนว่า ทันทีที่ประสบผลสำเร็จกับตลาดคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กแล้ว  Asus ก็ต้องหันเหมาลุยท้องตลาดสมาร์ทโฟนด้วย ซึ่งเริ่มต้นจากการทำ PDA และโทรศัพท์มือถือแบบฝาพับวางจัดจำหน่าย โดยได้เลือกใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Mobile ส่วนใหญ่ และยังออกฟีเจอร์ ได้แก่ รุ่น "ASUS J101" ที่มีขนาดเล็ก พร้อมกล้องถ่ายภาพดิจิตอล 3.3 ล้านพิกเซล

 ในปี 2014 Asus ได้เปิดตัวซีรีย์มือถือตัวหลักของบริษัทในระบบปฏิบัติการ Android ที่ชื่อเสียงเรียงนามว่า Zenfone ซึ่งมีจุดสำคัญที่สเปกจัดเต็มในราคาที่ประหยัด ซึ่งคำว่า Zen เป็นคำที่สอดคล้องกับสำนวนหนึ่งของแดนไต้หวัน ซึ่งแปลความหมายได้ว่า การใช้ชีวิตอยู่กับในช่วงเวลาปัจจุบัน ส่วน Fone เป็นคำประสานที่มาจากคำว่า Futer + Phone เหมือนกับเป็นโทรศัพท์ในอนาคต ความหมายรวมคือ เครื่องไม้เครื่องมือที่ตอบความต้องการทั้งในช่วงนี้และเบื้องหน้า Asus ยังเนรมิตสถิติโลกให้ Zenfone ด้วยการเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่มี Ram 4GB ในรุ่น Zenfone2

 ในปี 2018 Zenfone ได้แยกประเภทเป็นรุ่นหลักๆ ดังนี้
ZenFone 4 ได้รับการออกแบบให้บางเบา สวยงาม พกพาสะดวก
ZenFone 4 Max เป็นสมาร์ทโฟนที่ได้รับการออกแบบให้เหมาะสำหรับการเดินทาง เพราะว่าแบตเตอรีมีความจุสูงถึง 4100 mAh
ZenFone4 Selfie เน้นการถ่ายแบบเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าคู่ บันทึกวีดีโอได้คมชัดด้วยความละเอียดสูงถึง 4K
ZenFone Live สมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่มีเทคโนโลยีการปรับภาพให้สวยแบบเรียลไทม์ช่วยกำจัดเสียงก่อกวนรอบข้าง เหมาะสมกับสตรีมเมอร์
ZenFone โทรศัพท์มือถือที่ออกแบบออกมาเอาใจวัยหนุ่มสาว

 ในส่วนของแท็บเล็ต Asus ก็ได้รับการพัฒนามาอย่างไม่ขาดสาย แยกประเภทเป็นตระกูลตามจุดมุ่งหมายการใช้งานดังต่อไปนี้
 
Ponepad เป็นการผสานดีไซน์ และฟังก์ชั่นการใช้งานระหว่างมือถือกับแท็บเล็ต (Fone + Pad)
Memo Pad ออกแบบลักษณะใกล้เคียงไดอารี่จดบันทึก สามารถจับถือได้มือเดียว และฟังก์ชั่นการใช้งานที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน ต่อการจดบันทึกกิจกรรมต่างๆ
Padfone ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนแปลงการใช้งานจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ ให้เป็นแท็บเล็ตได้ด้วยอุปกรณ์เสริม "Padfone Station"
Transformer Pad สามารถแปลงเป็น Notebook ได้

 
ปัจจุบัน Asus ได้แบ่งแยกตัวเอง ออกเป็นสามบริษัทอย่างเป็นทางการ คือ
                Pegatron บริษัทผลิตชิ้นส่วน ดังเช่น เมนบอร์ด และการ์ดต่อพ่วงอื่นๆ
                Unihan เป็นผู้สร้างเคสคอมพีซี และอุปกรณ์ต่างๆ
                Asus จะจำหน่ายเจาะจงสินค้าที่เป็นแบรนด์ Asus เดิมทีแค่นั้น

Tags : Asus,Asus ราคา,เอซุส