สวัสดี บุคคลทั่วไป

เลือกซื้อจอภาพคอมให้ได้เหมาะกับคุณ

  • 0 ตอบ
  • 244 อ่าน
หน้าจอคอมนับว่าเป็นอีกอุปกรณ์ที่จำเป็นจะต้องใช้ความละเอียดสำหรับเลือก เพราะถ้าหากอยากได้หน้าจอคอมคุณภาพดี ที่มีรูปภาพละเอียด สีสดใส รวมถึงภาพไม่สะดุดต่อเนื่องเพื่อมาทำงานหนึ่งตัวจำเป็นต้องพิจารณาเหตุผลทั้งหลาย ที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อคอมพิวเตอร์มาใช้หนึ่งตัว แต่จำเป็นมากที่สุดคือประเภทการใช้งานสำหรับแต่ละคนว่านำจอคอมไปใช้พร้อมกับการทำงานอะไร ตัวอย่างเช่น ใช้งานเอกสาร ทำงานกราฟิก หรือว่าใช้เล่นเกมส์ ซึ่งจุดประสงค์เพื่อทำงานที่แตกต่างกันก็ช่วยให้เหตุที่ส่งผลในการเลือกซื้อไม่เหมือนกันด้วย
            ข้อแรกที่ควรจะเข้าใจสำหรับการซื้อหน้าจอคอมพิวเตอร์ คือ ประเภทสำหรับหน้าจอคอมโดยจะมีอยู่ทั้งหมด 3 ลักษณะเช่น

  • Cathode Ray Tube หรือมีชื่อว่า CRT เป็นจอรับภาพสัดส่วนใหญ่ที่ประกอบด้วยหลอดสูญญากาศ อยู่ด้านใน ด้วยการยิงแสงสว่างอิเล็กตรอนไปยังที่พื้นผิวจอ ที่มีฟอสฟอรัสเคลือบอยู่ที่พื้นที่เพื่อเกิดภาพขึ้นมาตอนสารนี้เกิดการเรืองแสงขึ้นมา โดยที่ตอนนี้ได้หยุดใช้งานจอตัวนี้กันไปแล้ว เพราะ มีไซต์ใหญ่ อุณหภูมิสูงและเปลืองไฟด้วย
  • Liquid Crystal Display หรือที่เรียกกันว่า จอ LCD จอประเภทนี้ได้ถูกการปรับปรุงมาจากจอลักษณะ CRT ที่เดี๋ยวนี้ไม่ใช้งานกันไปแล้ว โดนดีไซน์ออกมาบาง บวกกับขนาดกะทัดรัด มีความละเอียดรวมทั้งสีชัดเจนหลักการใช้งานคือ เกิดจากการที่ยิงแสง Black Light หรือว่าไฟที่หลังจอแสดงผลด้วยที่กรองแสง จากนั้นไปยังคริสตัลเหลวที่ถูกวางด้วยกัน 3 เซลล์คือ แสงไฟสีแดง แสงสีเขียวและแสงไฟสีนํ้าเงิน และเปลี่ยนแปลงพิกเซลที่ปรากฏที่จอแสดงผล หน้าจอ LCD ยังแยกออกได้ 2 อย่างคือ Passive Matrix หรือ Active Matrix จุดเด่นของจอ LCD คงจะเป็น ลดการใช้พลังงานมากกว่าจอภาพแบบเดิม ในเรื่องข้อบกพร่องก็คือ มุมมองคับแคบทำให้ไม่สามารถดูได้ทุกทิศทาง
  • Light Emitting Diode หรือเรียกว่า LED ที่ชื่อเรียกอีกชื่อว่า OLED (Organic Light Emitting Devices) คือการเอาหลอด LED มาจัดให้เป็นแถบ ก็เพราะว่ามีอัตราการตอบรับจากรูปว่องไวกว่าลักษณะอื่นจะทำให้มีสีพร้อมด้วยภาพที่ชัดมากที่สุด ปัจจุบันนี้จอภาพ OLED ใช้กันประเภทแพร่ขยายเยอะขึ้นด้วยความที่คือจอรับภาพรุ่นใหม่กว่าหน้าจอ LCD และยังสันบสนุนให้ลดการใช้ไฟฟ้า และยังได้รูปในทัศนียภาพกว้างกว่าหน้าจอแบบอื่นๆ


หลังจากนั้นคือประเด็นที่จำเป็นต้องสังเกตเพื่อเลือกจอคอม เริ่มที่เป็นขนาดจอ ตลอดจนความละเอียดเกี่ยวกับรูป จำเป็นต้องเลือกใช้ขนาดหน้าจอ 20 นิ้วขึ้นเพื่อที่จะหากทำงานได้อย่างหลากหลายมากกว่า ส่วนความละเอียดจำเป็นต้องดูในขั้น Full HD หรือว่า 1980x1080 ที่กำลังจะให้ทั้งภาพสวยละเอียด ถัดมาเป็นการดูมาตราส่วนของหน้าจอ ณ เวลานี้มีการทำหน้าจอสัดส่วน 16:9 16:10 และ 4:3 โดยที่มาตราส่วนกลุ่มนี้เป็นอัตราส่วนของหน้าจอลักษณะความยาวต่อความสูง โดยแบบ 16:9 และ 16:10 เป็นจอภาพ Wide Screen มุ่งเน้นความกว้างขวาง เหมาะสมกับการทำงานที่นำมาใช้พื้นที่ด้านข้างมากกว่า อย่างเช่น โปรแกรมกราฟิก หรือการที่ชมหนังที่เป็นอัตราส่วนสำหรับโรงภาพยนต์ คือ รูปกว้างขวางอย่างมาก ในส่วนมาตราส่วน 4:3 เป็นลักษณะจอภาพโทรทัศน์ปกติ ถัดไปคือเกี่ยวกับสำหรับ Response Time และ Refresh Rate ตัวเลข Response Time น่าจะซื้อที่มีตัวเลขน้อยๆ จะมีคุณภาพดี ตอนนี้ค่าที่นิยมก็เป็น 5-2 ms ด้าน Refresh Rate ควรเลือกตัวเลขมากๆ ยิ่งสูงยิ่งดี ช่วงนี้ค่าทั่วๆ ไปที่ใช้กันเป็น 60 Hz
หลังจากนั้นก็คือหัวข้อเกี่ยวกับการตรวจสอบหน้าจอพร้อมด้วยการรับรอง Dead Pixel คือบางครั้งหน้าจออาจเป็นจุดบกพร่องจากการบริเวณที่ขึ้นสีสันไม่บริบูรณ์ทุกส่วนของจอภาพที่มีชื่อว่าการประกันจุดบอดบนจอ ถ้าหากประกันที่ dot ต่ำยิ่งดี หากว่ามี Dead Pixel เพียงจุดเดียวก็ช่วยให้เคลมจออีกครั้งได้ ก่อนที่จะเลือกซื้อควรจะตรวจเช็ค Dead Pixel ให้ดีก่อนที่จะ โดยวิธีตรวจสอบคือ เรียกจอโชว์สีสันทั่วทั้งจอกลายเป็นหนึ่งสี ตัวอย่างเช่น แดง น้ำเงิน เขียว เหลือง แล้วเช็คว่ามีจุดบอดหรือเปล่าหากพบเจอให้รีบบอกบุคลากรแล้วค่อยเปลี่ยนเครื่องใหม่ทันใด ในที่สุดเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เหมาะสำหรับหน้าจอคอมคือ IPS หรือ In-Plane Switching ถือเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้รูปรวมถึงสีที่ได้สมจริงกว่าเดิมแล้วยังทำให้เกิดทัศนียภาพบนจอภาพคอมดีขึ้นด้วย เทคโนโลยี IPS ปัจจุบันอาจจะพบได้บนจอแสดงผลโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือจอแท็บเล็ตเช่นกัน
จะเห็นว่า หากข้าเข้าใจรูปแบบการทำงานของตัวเองแล้วจึงนำมาเทียบในการตัดสินใจซื้อจอภาพคอมมาเพื่อให้ใช้แล้วการเลือกจอแสดงผลคอมพิวเตอร์ที่เหมาะกับการใช้เลยไม่ได้เป็นเรื่องยุ่งยากรวมทั้งระยะปัจจุบันนี้จอภาพคอมพิวเตอร์ได้ถูกพัฒนาสำหรับออกมาใช้ความอยากของผู้ใช้อย่างมากเช่นกัน

Tags : จอคอมพิวเตอร์,จอคอมพิวเตอร์ ราคา,จอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อไหนดี