สวัสดี บุคคลทั่วไป

เครื่องปั่นอาหารกับวิธีการสำหรับเลือกซื้อให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

  • 0 ตอบ
  • 249 อ่าน
สำหรับเครื่องปั่นอาหารต่างๆ ในยุคนี้ เรียกว่ามีทั้งใช้สำหรับปั่นอาหารแล้วก็ปั่นน้ำผลไม้ต่างๆในส่วนของแนวทางในการเลือกซื้อเครื่องปั่นน้ำผลไม้กับเครื่องปั่นอาหารนั้นเรียกว่ามีวิธีการดูที่แตกต่างด้วยความที่ตัวเครื่องและก็เป้าหมายของเครื่องนี้เกิดมาเพื่องานคนละประเภทนั่นเองจ้ะ และกล่าวถึงเรื่องของการเลือกเครื่องปั่นน้ำผลไม้เราบางทีอาจจะสามารถเลือกได้อยู่แล้วจ้ะ หรือว่าผู้ใดที่เป็นมือใหม่อยากได้กรรมวิธีการดูเมื่อจำต้องเลือกซื้อเครื่องปั่นน้ำผลไม้ สามารถติดตามอ่านได้ในบทความก่อนหน้านี้นะคะ สำหรับวันนี้เราจะพาทุกท่านไปเลือกเครื่องปั่นอาหารกันค่ะ ว่าในกรณีที่เราต้องเลือกซื้อเราจะมีวิธีการดูยังไง
สำหรับการเลือกซื้อเครื่องปั่นอาหาร ไม่ใช่ว่าเราจะเลือกที่สเปคเครื่องเพียงแค่นั้นค่ะ แม้กระนั้นสิ่งแรกเลยที่เราจำต้องเลือกดูก็คือ เรื่องของไลฟ์สไตล์หรือว่าวิถีชีวิตของเราเป็นอย่างไร เราต้องการเครื่องนั้นไปใช้ปั่นอะไรบ้าง ทำเพื่อบริโภคสิ่งเดียว หรือว่าจะทำขายด้วย เพื่อที่พวกเราจะได้เลือกขนาด หรือเลือกเครื่องที่เหมาะกับการใช้งานของเราได้มากที่สุดค่ะ พูดถึงเรื่องเครื่องปั่น ช่วงนี้มีอยู่ 2 แบบคือ เครื่องปั่นที่ย้ำที่ความเร็วของรอบการปั่น สะดวกสบายสำหรับการพกพา ตัวเครื่องไม่ใหญ่มาก แล้วก็ที่สำคัญคือ ใช้งานครบครันในเครื่องเดียว เรียกว่าสบายครบจบในเครื่องเดียวเลยล่ะจ้ะ



เครื่องปั่นอาหารที่ทุกบ้านต้องการใช้งาน





ฟังก์ชั่นแล้วก็กำลังสำหรับการปั่นของเครื่องปั่นอาหาร นับได้ว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นในการทำกับข้าวในช่วงเวลานี้จ้ะ เพราะนี่เป็นสิ่งที่จะอำนวยความสะดวกให้เราได้มากที่สุดสำหรับเพื่อการทำกับข้าว และก็ที่สำคัญคือ เรื่องของกำลังไฟของเครื่องปั่นก็จะมีส่วนสำหรับการทำงานของเครื่อง ส่วนมาเราจะดูได้ ที่ฐานของเครื่องปั่นหรือตามข้างกล่องนั่นเองจ้ะ โดยที่จะมีสัญลักษณ์บอกเป็นตัว W ซึ่งแน่นอนว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าจำต้องไม่สมควรมีกำลังไฟน้อยกว่า 200W แม้กระนั้นถ้าหากพวกเรานำไปดำรงชีพหรือทำอาหารเพื่อขาย เครื่องปั่นควรจะมีกำลังไฟ อย่างน้อย 600W ขึ้นไป หรืออาจจะมากกว่านั้น ฯลฯ

นอกนั้นแล้วการที่พวกเราเลือกซื้อเครื่องปั่นมาใช้เว้นแต่ที่เราจำเป็นต้องดูก่อนที่พวกเราจะเลือกซื้อแล้ว พวกเรายังต้องมาดูกันถึงในระหว่างที่ เราซื้อมาแล้วพวกเราจะใช้งานเครื่องปั่นอย่างไร ให้เครื่องปั่นของพวกเรามีความคงทนถาวรเยอะที่สุดนั่นเองจ้ะ และนอกจากนั้นพวกเรายังมีวิธีการสำหรับในการทำให้เครื่องหรือว่ามอเตอร์ของเครื่องเป็นเครื่องที่ทรงพลังมากขึ้นเรื่อยๆนั่นเองค่ะ
1.) การใช้เครื่องจะต้องมีจุดจัดตั้งคราวพวกเราสามารใช้งานได้ง่าย แม้กระนั้น...ต้องไม่ตั้งติดฝาผนัง เพราะเหตุว่าเมื่อใดที่บ้านที่เราตั้งเครื่องเป็นหลักที่ปิด เสียงดังที่เกิดขึ้นมาจากการปั่นของกินของเรา จะสะท้อนไปกระทบกับผนังทำให้เสียงกระทบและก็กระเด้งออกมา ทำให้ดูอย่างกับว่าเสียงจะดังกว่าปกติ ทางที่เยี่ยมที่สุดเป็น ติดตั้งเครื่องปั่นของกินของพวกเราให้ห่างจากฝาผนังมากกว่า 2 นิ้วจะเป็นการดีที่สุดจ้ะ
2.) เวลาที่จัดตั้งเครื่องปั่นอาหารก่อนที่จะเราจะตั้งเครื่องลงไปที่พื้น ให้เราหาผ้าขนหนูหรือว่าผ้าอะไรก็ได้ค่ะที่นิ่มๆมาวางรองที่ก้นเครื่องปั่น เอาง่ายๆว่าหาผ้ามารองเครื่องปั่น หรือเราจะใช้ซิลิโคนแทนผ้าก็ได้ค่ะ เครื่องไม้เครื่องมือเหล่านี้สามารถช่วยดูดซึมเสียงรวมทั้งที่สำคัญเป็นการ Support เครื่องปั่นของเราให้ไม่ต้องชนพื้นอีกด้วย

3.) ปั่นของกินในยามค่ำคืน คือเรื่องของการเคารพสิทธิผู้อื่นนั่นเองจ้ะ เป็นแม้พวกเราใช้เครื่องปั่นในเช้าตรู่ก็จะเป็นการปลุกคนทั้งบ้านหรือดีไม่ดีบางครั้งอาจจะปลุกข้างบ้านด้วย ซึ่งแน่ๆว่าพวกเราบางครั้งอาจจะสร้างศัตรู โดยที่พวกเราไม่รู้ตัวค่ะ และก็ยิ่งไปกว่านี้ช่วงเย็นตรงเวลาที่ทุกคนบางทีอาจจะยังไม่กลับไปอยู่บ้าน หรือว่าทำกิจกรรมอื่นๆนอกบ้าน เรียกว่าทางสะดวกที่พวกเราจะไม่สร้างความเบื่อหน่ายให้คนอื่นๆอีกด้วยจ้ะ แบบงี้เรียกว่าสุขใจกันทั้งสองฝ่าย
4.) ใช้เครื่องปั่นที่มีเสียงเบา ขั้นตอนนี้ต้องอยู่ที่กระบวนการเลือกซื้อเลยทีเดียวจ้ะสำหรับในการเลือกซื้อพวกเราจะต้องมองเครื่องให้ดี ทางที่ดี เป็นจำต้องทดลองเครื่องก่อนที่จะมีการซื้อ เพื่อจะได้ทราบว่าเครื่องนั้นมีเสียงดังไหมยังไง ถ้าเกิดเสียงดังตั้งแต่เริ่ม ใช้งานนานๆไป ไม่ต้องสืบเลยล่ะค่ะ