สวัสดี บุคคลทั่วไป

7 วิธีการเลือกแอร์ติดผนังที่เย็นสบายแบบไม่สิ้นเปลืองไฟ

  • 0 ตอบ
  • 250 อ่าน
ถ้าหากเอ่ยถึงเครื่องปรับอากาศที่ผู้ใช้รายย่อยส่วนมากเลือกใช้กันนั้น ก็คงจะควรเป็นแอร์ติดผนังที่เหมาะสมกับการใช้งานเยอะที่สุดโดยผู้คนจำนวนมากอาจะเข้าใจผิดว่า แอร์ติดผนัง (wall type) จะต้องเป็นเฉพาะแอร์รุ่นเล็กแค่นั้น แต่อันที่จริงแล้วเครื่องปรับอากาศแบบที่ติดผนังได้นั้นมีให้เลือกมาก หลากหลายขนาดค่ะ ด้วยเหตุดังกล่าวไม่ว่าลูกค้าจะมีห้องขนาดใหญ่หรือเล็ก ก็สามารถเลือกใช้แอร์ติดผนังได้ทั้งหมด แต่ว่าการที่จะใช้เครื่องปรับอากาศแบบติดผนังนันก็มีหลายเรื่องที่จะต้องพิจารณาถึง เพราะว่าเป็นแอร์ที่จำเป็นจะต้องแขวนไว้ด้านบนและก็เจาะผนังออกไปข้างนอกตึก ซึ่งทำให้เกิดความจำกัดหลายสิ่งหลายอย่าง โดยจะมีเรื่องมีราวอะไรที่ควรจะสนใจบ้างนั้น ตามไปดูกันค่ะ
เรื่องน่ารู้ของแอร์ติดผนัง
1.ขนาดของเครื่องปรับอากาศ
การจะเลือกแอร์ติดผนังปัจจัยแรกที่ต้องพินิจพิเคราะห์ก็คือ ขนาดของเครื่องปรับอากาศ เพราะเหตุว่าไม่ว่าจะติดอยู่ส่วนไหนของบ้านก็จะต้องเลือกขนาดเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสมกับห้อง เพราะว่าไม่อย่างนั้นอาจก่อให้มีอากาศหนาวหรือร้อนเกินไป รวมทั้งอาจจะทำให้แอร์ทำงานมากจนเกินไปอีกด้วยค่ะ
2.จุดที่ใช้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศในห้องนอน
ปกติแล้วในหลายๆบ้าน ถ้าหากจำเป็นต้องเลือกติดแอร์สักหนึ่งตัวก็คงจะเลือกห้องนอนก่อนเป็นหลักเพราะนับว่าเป็นที่พักผ่อนภายหลังที่ต้องเหนื่อยมาทั้งวัน โดยการจะติดตั้งแอร์ติดผนังภายใน้ห้องนอนนั้น ก็ควรที่จะเลือกจุดที่เหมาะสมกับแนวทางลมสูงที่สุด นั้นก็คือรอบๆข้างๆเตียงเพื่อลมเย็นสามารถส่งถึงลำตัว แต่ว่าควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ลมจากเครื่องปรับอากาศปะทะกับร่างกายหรือหัวโดยตรงเพราะบางทีอาจจะเกิดโทษต่อสุขภาพได้จ้ะ
3.จุดที่ใช้แขวนเครื่องปรับอากาศในห้องรับแขก
ถ้าเกิดบ้านไหนวางแผนจะติดแอร์ติดผนัง (wall type)ในส่วนของห้องนั่งเล่น บางทีอาจจะต้องใช้วิธีคิดที่ต่างจากการติดแอร์ในห้องนอน เพราะว่าโดยปกติแล้วคนมักจะไม่ได้นั่งอยู่กับที่ตลอดเวลา ก็เลยไม่จำเป็นต้องกังวลใจว่าลมเย็นจะปะทะร่างกายนานเกินความจำเป็น ดังนั้น การติดเครื่องปรับอากาศในห้องรับแขกจึงต้องควรวางตำแหน่งให้ความเย็นสามารถลงบริเวณที่มีคนนั่งได้พอดิบพอดี ซึ่งจะช่วยให้รู้สึกเย็นสบายมากยิ่งกว่าท่ามกลางอากาศที่ร้อนในกลางวันจ้ะ
4.เลี่ยงจุดที่ก่อให้เกิดฝุ่น
การติดตั้งแอร์แขวนฝาผนังนั้น ควรจะหลบเลี่ยงการวางเครื่องไว้เหนือจุดที่มีฝุ่นผงมาก ยกตัวอย่างเช่นเตียงนอนหรือโซฟา ด้วยเหตุนี้จำเป็นจะต้องติดตั้งเครื่องปรับอากาศไว้ที่ฝั่งตรงข้ามแทนที่จะวางไว้เหนือเครื่องใช้ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น เพราะว่านอกเหนือจากจะช่วยลดการดูดฝุ่นละอองเข้าไปในเครื่องแล้ว ยังช่วยให้ผู้อาศัยสามารถรับลมเย็นได้ดีมากว่าอีกด้วย
5.ตำแหน่งเหมาะสมกับตัวแอร์ภายนอก
ไม่เพียงแค่ตำแหน่งของแอร์ตัวในเท่านั้นนั้น แต่ว่าสำหรับเครื่องทำความเย็นข้างนอกหรือคอมเพรสเซอร์นั้น ก็ถือเป็นปัจจัยที่ต้องระวังเช่นเดียวกัน โดยควรจัดตั้งเครื่องไว้ในตำแหน่งที่ไม่ต้องตากฝนโดยตรงเนื่องจากว่าการถูกความชื้นอยู่เป็นประจำนั้น นอกเจากการที่จะทำให้เครื่องเสียง่ายแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดสนิมอีกด้วย ขณะเดียวกันคอมเพรสเซอร์ก็ไม่สมควรติดไว้ในพื้นที่จะถูกแดดตรงๆด้วยเช่นเดียวกัน เพราะเหตุว่าการที่เครื่องร้อนอาจทำให้เครื่องปรับอากาศสร้างความเย็นได้ยากขึ้นด้วยจ้ะ
6.ป้องกันจุดที่อาจเป็นอันตราย
สำหรับบ้านไหนที่มีปัญหาหลังคารั่ว จำเป็นต้องดูจุดดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นแล้วก็หลีกเลี่ยงการติดเครื่องปรับอากาศบริเวณนั้น เพราะว่าหากเกิดฝนตกแล้วก็มีน้ำรั่วก็อาจมีผลทำให้แอร์ช็อตได้ หรือถ้าเกิดเป็นจุดที่ควรต้องติดตั้งเครื่องปรับอากาศรอบๆนั้นจริงๆก็บางทีอาจให้ช่างมาซ่อมแซมหลังคาก่อน เพื่อป้องกันปัญหาที่บางทีอาจแย่ลงกว่าเดิมได้ในภายหลังจ้ะ
7.ติดเช่นไรให้กินไฟต่ำที่สุด
นอกเหนือจากจุดที่จำเป็นต้องพิจารณาจากที่พูดถึงมาแล้วการติดตั้งแอร์ก็ควรจะอยู่ในตำแหน่งที่จะทำให้เครื่องสามารถทำงานได้ง่ายและก็กินไฟให้ต่ำที่สุด แม้ว่าเครื่องปรับอากาศส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับระบบที่ช่วยใช้ไฟฟ้าน้อยลงอยู่แล้ว แต่ว่าผู้ใช้ก็ยังสามารถช่วยอีกแรงเพื่อประหยัดค่าไฟจากแอร์ลงได้ โดยพยายามเลี่ยงติดแอร์ในฝั่งที่ต้องโดนความร้อนจากแสงแดดมากๆ และขณะเปิดเครื่องปรับอากาศ ก็ควรจะปิดม่านเพื่อไม่ให้แสงส่องเข้ามาด้านในได้ เพราะถ้าหากห้องยิ่งมีความร้อนมากแค่ไหน ก็ยิ่งทำให้แอร์จะต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แถมยังทำความเร็วได้ช้าลง ซึ่งนั่นย่อมตามมาด้วยค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นอย่างแน่นอน

Tags : แอร์