Smart TV บางทีอาจจะเป็นคำศัพท์ใหม่ของคนอีกหลายคนจ้ะ เพราะเหตุว่าในปัจจุบันอาจจะมีบางบ้านที่ยังคงใช้ทีวีในแบบเก่าซึ่งแน่นอนว่าโทรทัศน์ ที่ใช้กันมาตั้งแต่ในสมัยก่อนมีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างนาน หลายบ้านบางครั้งก็อาจจะใช้จนกระทั่งไม่อยากเปลี่ยนมาใช้รูปแบบใหม่ ด้วยความเสียดายที่โทรทัศน์เก่ายังไม่เสียซักที แต่สำหรับวันนี้ค่ะเราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ Smart TV ถ้าเกิดได้ทราบ TV จำพวกนี้แล้วท่านบางทีอาจจะกลับใจ อยากจะใช้โทรทัศน์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพและคุณภาพ พร้อมการรับดูความบันเทิงได้อย่างเต็มรูปแบบวันนี้เลยก็ได้จ้ะ
Smart TV คืออะไร

ย้อนกลับไปในยุคเก่า เราคุ้นเคยกับการชมละคร ดูข่าวรายการทีวีวาไรตี้ต่างๆ มิได้มีฟีเจอร์หรือว่า Option เสริมอะไรก็ตามขึ้นมาในทีวี เรียกง่ายๆว่าเสียบปลั๊กเปิดโทรทัศน์ขึ้นมากดเลือกช่องและจากนั้นก็นั่งรับชมเพียงเท่านั้น แต่ในปัจจุบันสำหรับ Smart TV ถูกออกแบบและก็ปรับปรุงจากโทรทัศน์รุ่นก่อนๆมาในหลายๆด้าน อย่างเช่น ตัวเครื่องที่บางลง ฟังก์ชันการใช้งานที่มากขึ้นซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์กับ Lifestyle ในปัจจุบัน ทั้งการเล่นเกมเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต เข้าเว็บบราวเซอร์ต่างๆ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆเพิ่มอีก แทบจะเรียกได้ว่ารวมทุกอย่างมาไว้บนจอทีวีให้ใช้งานได้ ไม่ได้แตกต่างจากการใช้งานสมาร์ทโฟนเลยล่ะจ้ะ นอกนั้นพวกเรายังสามารถใช้ Flash Drive ต่อเข้ากับพอร์ตของสมาร์ททีวีได้โดยตรง เพื่อการดูภาพยนตร์หรือฟังเพลง และในบางรุ่นยังสามารถสั่งงานด้วยเสียง ควบคุมการทำงานจอภาพด้วยท่าทางต่างๆหรือจะเป็นการปลดล็อคจอโทรทัศน์ด้วยการใช้เทคโนโลยีจำใบหน้าเหมือน Smartphone นั่นเอง
ยิ่งไปกว่านี้แล้ว Smart TV อย่างถูกปรับปรุงหน้าจอต่างๆมาอีกหลายชนิดด้วยกันจ้ะ พวกเรามาดูกันว่าหน้าจอแต่ละประเภท มีอะไรบ้าง
1.LCD (Liquid Crystal Display) จำพวกนี้เป็นชนิดจอแบบแรกเทคโนโลยีในรุ่นแรกๆสำหรับทีวีจอแบนค่ะ ซึ่งจะใช้หลอดไฟฟ้าแบบ ccfl มีขนาดเล็กเท่าหลอดกาแฟวางเรียงตัวกันเป็นแถวนอนอยู่ภายใต้จอ ทำหน้าที่เป็นตัวกำเนิดแสงสว่างทำงานร่วมกับ Color Filter ทั้ง 3 สี ได้แก่ สีแดง สีน้ำเงิน และสีเขียว ซึ่งจะทำงานด้วยกันรวมทั้งแสดงผลออกมาเป็นสีสันต่างๆให้เราเห็นบนจอภาพนั่นเอง
2.LED (light-emitting diode) เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อยอดมาจากรุ่นแรกค่ะ แล้วก็เป็นโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด รุ่นนี้จะใช้หลอดไฟขนาดจิ๋ว 3 สีเหมือนกัน ได้แก่ สีแดง สีน้ำเงินแล้วก็สีเขียว ทำหน้าที่เป็นตัวกำเนิดแสงค่ะ แต่ว่าประเภทนี้ถือได้ว่าเป็นประเภทที่ให้แสงสว่างได้ดีมากว่าชนิดแรก ที่สำคัญยังใช้ไฟน้อยกว่า ตัวเครื่องมีความบางกว่าอีกด้วย ยิ่งกว่านั้นจอภาพแบบแอลอีดี ยังแบ่งได้เป็น EDGE LED/ Full LED /RGB แอลอีดี ซึ่งหน้าจอทั้ง 3 แบบนี้ก็มีจุดเด่น แตกต่างกันไปอีกด้วยจ้ะ
3.Plasma TV ชนิดที่ 3 นี้มีเม็ดพิกเซลที่สามารถให้กำเนิดแสงได้ด้วยตัวเองจ้ะโดยใช้แรงดันไฟฟ้าแสดงภาพเคลื่อนไหวได้อย่างดี ให้สีดำที่ดำสนิทแล้วก็สีสันอื่นๆ มีความเป็นธรรมชาติมากเลยอย่างยิ่ง
4.OLED TV (Organic Light Emitting Diodes) สุดท้ายคือประเภทของจอทีวีสมัยใหม่จ้ะ เป็นจอทีวีที่เรียกว่านำลักษณะเด่นของทั้ง 3 ประเภทด้านบนมารวมไว้ในที่เดียวซึ่งมีจุดแข็งคือความบาง มีความยืดหยุ่นรวมทั้งสามารถปรับปรุงจอให้มีความโค้งได้ ข้อดีอีกอย่างหนึ่งก็คือใช้ไฟน้อยลงในขณะที่ยังคงให้สีสันของภาพได้อย่างสม่ำเสมอ
การเลือกซื้อสมาร์ททีวี

จากข้อมูลข้างต้นทำให้คนจำนวนไม่น้อยเริ่มเป็นห่วงว่าเราจะสามารถเลือกซื้อสมาร์ททีวีที่เข้ากับบ้านและไลฟ์สไตล์ของเราได้เช่นไรวันนี้พวกเรามีข้อมูลดีๆมาฝากกันจ้ะ

• สิ่งที่เราจะต้องคำนึงถึงเป็นลำดับแรก เป็นเรื่องของพวกเราจะวางโทรทัศน์ไว้ตำแหน่งใดของพื้นที่บ้าน เพราะว่าระยะห่างและก็ขนาดโทรทัศน์มีผลกับการนั่งดูนั่นเอง

ความละเอียดของภาพ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่เราควรต้องคำนึงถึงก่อนที่จะมีการเลือกซื้อจ้ะ ซึ่งในปัจจุบันพวกเราจะเห็นว่าทีวีในตลาดบ้านเราจะมีความละเอียด ตั้งแต่ ระดับมาตรฐานไปจนกระทั่งภาพที่มีความละเอียดสูง อาทิเช่น

• HD (1366 x 768 Pixel) เป็นจอที่มีความละเอียดมาตรฐานยอดนิยมในขณะนี้ มีความคมชัด แล้วก็ราคาไม่แพงค่ะFull HD (1920 x 1080 Pixel) เป็นจอภาพยอดนิยมอีกเช่นกันค่ะ สำหรับในการดูหนังแบบ Blu ray รายการทีวีแบบ
• Full HD รวมทั้งยังเป็นจอภาพที่มีความละเอียดสอดคล้องกับการรับชมรายการทีวีแบบระบบดิจิตอลด้วย
• UHD (Ultra High Definition หรือ 4K) มีความละเอียดอยู่ที่ 3840 x 2160 Pixel มากกว่า full hd ถึง 4 เท่าซึ่งแน่นอนว่าจะช่วยทำให้พวกเราได้ดูภาพที่มีความคมชัดเสมอเหมือนจริง แต่มีราคาที่ค่อนข้างสูง แล้วก็รายการทีวีในบ้านเราโดยมากยังไม่มีการถ่ายทำโดยที่จะให้ภาพที่มีความคมชัด ในระดับที่จะจำต้องดูแบบ UHD ค่ะ
  
  
  
  
  Tags : Smart TV,ทีวี