ใครต่อใคร ต่างเข้าใจแจ่มแจ้งกันดีว่า Hitachi คือแบรนด์ระดับโลกที่ผลิตผลิตภัณฑ์อย่างมหาศาลหลากหลายส่วน ตัวอย่างเช่นในด้านของระบบสารสนเทศและโทรคมนาคม, ระบบพลังงาน, ระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านสังคมและอุตสาหกรรม, ระบบและเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์, เครื่องจักรสำหรับการก่อสร้าง, วัสดุและส่วนประกอบคุณภาพสูง, ระบบยานยนต์ และชีวิตที่ชาญฉลาดและระบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และแน่นอนว่าสินค้าที่ใกล้ตัวกับมนุษย์เรามาก น่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สินค้าในโหมดชีวิตที่ชาญฉลาดและระบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั่นเอง โดยจักกอปรไปด้วยอุปกรณ์สื่อผสม และอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านเรือนนั่นเอง ได้แก่ จอ LCD โปรเจ็คเตอร์, ตู้เย็น, เครื่องซักผ้า, พัดลม, หม้อหุงข้าว และอื่นๆ อีกเยอะแยะ
ซึ่งก่อนที่จะมีวันนี้ได้นั้น ฮิตาชิก็ได้ผ่านการลองถูกลองผิดมาอย่างยาวนานเลยทีเดียว โดยได้บุกเบิกจัดตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2453 หากนับรวบยอดแล้ว ก็มากกว่า 100 ปีมาแล้ว โดยแต่เดิมนั้นเป็นเพียงร้านค้าซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าในบริษัทเหมืองทองแดงในเมือง Hitachi เท่านั้น และถัดมาก็ได้มีผลิตผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกของฮิตาชิขึ้นมาก็คือ มอเตอร์ไฟฟ้า กำลัง 5 แรงม้า โดยนับว่าเป็นมอเตอร์ไฟฟ้ารุ่นแรกของแดนอาทิตย์อุทัย ที่ถูกพัฒนา และนำไปใช้งานในเหมืองทองแดง ภายหลัง Hitachi ก็ได้เป็นผู้มีอำนาจในตลาดมอเตอร์ไฟฟ้าและอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าของแดนซามูไร รวมไปถึงเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าและบริการทางด้านอุตสาหกรรมที่จัดว่าเป็นหนึ่งในสมาพันธ์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกก็ว่าได้ ซึ่งฮิตาชิใช้เวลาถึง 84 ปี ในการสร้างสำนักงานใหญ่ประจำทั่วทั้งสี่ภูมิภาค ยิ่งกว่านั้นยังขยาย พัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการอย่างสืบเนื่องจนประสบความสำเร็จมาได้จวบจนถึงสมัยนี้
และนั่นก็เป็นเพียงประวัติฉบับย่อของ Hitachi แค่นั้น แต่ทว่าสิ่งที่จักพูดถึงในวันนี้นั้น เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ Hitachi ได้สร้างสรรค์ขึ้นมา เพื่อจะช่วยคุณภาพชีวิตให้กับคนเราได้ในยุคดิจิทัลนั่นเอง และสิ่งนั้นก็คือ หุ่นสมองกลอัจฉริยะ ซึ่งทางฮิตาชิได้ปฏิรูปนวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และได้นำเทคโนโลยี Internet of Things (IOT) มาใช้งาน และแก้ปัญหาในสังคม อีกทั้งยังศึกษาค้นคว้า และสร้างระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI-Artificial Intelligence) ขึ้นมา เพื่อคาดหวังไว้ 2 อย่าง คือการขจัดปัญหาสังคม และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งพึ่งพิงเจ้าหุ่นยนต์อัจฉริยะจาก Hitachi นั่นเอง
โดยถ้าย้อนหลังในอดีต หุ่นสมองกลเป็นเพียงเครื่องจักรกลที่ไว้ใช้ทดแทนแรงงานมนุษย์ในโรงงานอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่กระนั้นภายหลังได้มีการพัฒนาเครื่องจักรให้เชื่อมกันผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต IOT หรือว่า Internet of Things นั่นเอง ทำให้มีสมรรถนะการทำงานมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาหุ่นสมองกล หรือเครื่องจักรกลให้สามารถติดต่อสื่อสารหรือว่าเชื่อฟังคำสั่งจากมนุษย์ได้ ซึ่งปัจจุบัน ฮิตาชิก็ได้ปฏิรูปหุ่นสมองกลอัจฉริยะ EMIEW รุ่นที่ 3 แล้ว โดยเป็นหุ่นสมองกลที่สามารถติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ได้ อย่างเช่น การนำทาง การให้ข้อมูลอื่นๆ ในอาคารเสมือนหนึ่งเจ้าหน้าที่ต้อนรับ ที่สามารถสวนตอบได้มี 3 ภาษาณเวลานี้คือ ญี่ปุ่น จีน อังกฤษ และในวันข้างหน้ากำลังจะปรับปรุงให้ได้หลายหลากภาษามากยิ่งขึ้น รวมทั้งภาษาไทยด้วยเหมือนกัน พร้อมกับในปัจจุบันนี้ฮิตาชิได้พัฒนาหุ่นยนต์ที่สามารถติดต่อสื่อสารร่วมกับมนุษย์ได้ถึง 4 รุ่น ซึ่งจะประกอบด้วยรุ่นอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย
1.MAGNUS (แม็กนัส) คือหุ่นยนต์ที่มีลักษณะกลมๆ ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับเฝ้าดูคนสูงวัย เป็นคู่สนทนาแก้เหงาให้กับเหล่าคนชรา โดยหุ่นสมองกล MAGNUS นี้ สามารถเรียกเก็บข้อมูลนานา ไว้ในระบบคลาวด์ เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์และประมวลผลในการเอาใจใส่คนสูงวัยได้ ทั้งในเรื่องการบอกให้ทานยา การค้นหาทางสัญจร กลับบ้าน หรือว่าเบอร์โทรศัพท์ติดต่อครอบครัว เป็นอาทิ ซึ่งปัจจุบันนี้ยังอยู่ในระหว่างการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด อีกทั้งคาดว่าจักผลิตออกมาขายในเร็วๆ นี้

• EMIEW (อีมิว) รุ่นที่ 3 หุ่นยนต์ที่มีส่วนสูง 90 ซม. น้ำหนัก 15 กิโลกรัม ล่าสุดได้นำไปทดลองให้บริการตามสถานต่างๆ อาทิเช่น สนามบินฮาเนดะ โรงพยาบาล คอนโด บ้านพักคนชรา พร้อมด้วยที่ทำการต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น ที่ทำการใหญ่ของมิตซูบิชิ ที่ได้นำพา EMIEW มาเป็นพนักงานต้อนรับ แนะแนวผู้มาติดต่อ ครั้นเมื่อเดินทางมายังที่ทำการ สามารถบอกชื่อ และผู้มาติดต่อกับ EMIEW ได้เลย ภายหลัง EMIEW ก็จักชี้ทางยังจุดนัดพบ ทางด้านพนักงานต้อนรับก็ปรับเปลี่ยนเคลื่อนย้ายไปปฏิบัติภารกิจอื่นแทน

3.EMIEW-TT หุ่นยนต์ในรูปแบบแท็บเล็ต ที่พัฒนาต่อยอดจากหุ่นยนต์ EMIEW รุ่นที่ 3 ปฏิบัติหน้าที่เหมือนเป็นเจ้าหน้าที่ต้อนรับ ซึ่งได้ทดลองจริงในหลายที่ทำงานแล้ว และได้รับการตอบรับดี
4.EMIEW มินิ หรือหุ่นยนต์ตัวจิ๋ว ที่ยังอยู่ระหว่างการค้นคว้าวิจัย และปฏิรูปต่อยอดจากหุ่นยนต์ MAGNUS, EMIEW รุ่นที่ 3 และ EMIEW-TT เพื่อสนองความประสงค์ของผู้บริโภคที่เป็นส่วนของการให้บริการมากเพิ่มขึ้น
คราวนี้อาจต้องรอคอยดูกันต่อไปว่า Hitachi จักปรับปรุงหุ่นยนต์อัจฉริยะไปได้มากน้อยปานใด และที่สำคัญ ถ้ามีการปฏิรูปให้มีภาษาไทยอยู่ด้วย ก็อาจเป็นเหตุให้ปู่ ย่า คุณตา คุณยาย ในบ้านเรามิเปลี่ยวใจแน่นอน

Tags : Hitachi,ฮิตาชิ,hitachi ราคา